ตลาดการเงินคาดว่าจะผันผวนเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้
THE STANDARD WEALTH ชวนวิเคราะห์ผลกระทบต่อภาคการเงินจากโอกาสที่การเมืองในสหรัฐฯ จะเปลี่ยนแปลงไปหลังการเลือกตั้งครั้งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ชะตา ‘ดอลลาร์’ จะเป็นอย่างไรในมือ ‘ทรัมป์ vs. แฮร์ริส’ ตลาดเกิดใหม่จ่อฟื้น แต่ไม่ใช่เงินบาท?
- หากทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดเกิดใหม่
- จับตาเลือกตั้งสหรัฐฯ หลังไบเดนส่งไม้ต่อ คามาลา แฮร์ริส มี 4 Scenario กระทบภาพการลงทุน
- Trump and Crypto
ประเมินผลกระทบต่อตลาด หลังจากไบเดนถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
นักลงทุนในตลาดการเงินรวมถึงโพลต่างๆ เดิมพันกันมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อาจชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะยาว และหันมาถือ Bitcoin (BTC) มากขึ้น
แต่การตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดน และสนับสนุนรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ถือเป็นเหตุการณ์ช็อกทางการเมืองครั้งล่าสุดที่ถูกรับรู้ในตลาดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนประเมินตลาดการเงินใหม่อีกครั้ง เนื่องจากตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น
สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งที่นักลงทุนเรียกกันว่า ‘Trump Trade’ โดยทางด้าน อนาโตล คาเลตสกี ผู้ร่วมก่อตั้ง และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน Gavekal มองว่านักลงทุนน่าจะลดสถานะการเดิมพันจำนวนมาก เนื่องจากการแข่งขันการเลือกตั้งมีมุมมองที่เปลี่ยนไป
ทำความเข้าใจกับ Trump Trade
ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดการเงิน เนื่องจากนักลงทุนจับตาดูสิ่งที่เรียกว่า Trump Trade อย่างใกล้ชิด
Trump Trade เป็นคำที่ใช้เรียกชุดพฤติกรรมของตลาดและกลยุทธ์การลงทุนที่เกิดขึ้นระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งก่อนของทรัมป์ เนื่องจากนักลงทุนวางสถานะการลงทุนเพื่อรับประโยชน์จากนโยบายเชิงธุรกิจและวาระทางเศรษฐกิจในช่วงวาระแรกของทรัมป์
ตลาดแสดงแนวโน้มที่แตกต่างกันหลายประการ เช่น ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี การเงิน อุตสาหกรรม และพลังงาน ได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากนโยบายส่งเสริมธุรกิจของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงกฎหมายลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลยังปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังในการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะลดลงในเวลาต่อมา เนื่องจากความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐจะไม่ใช่สกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ตามที่ทรัมป์อ้าง แต่การแข็งค่าก็มีผลกระทบต่อการส่งออก สินค้านำเข้า และการลงทุนจากต่างประเทศของสหรัฐฯ
การตอบสนองของตลาดเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในวงกว้างในหมู่นักลงทุน และมองว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 2 ของทรัมป์อาจเป็นประโยชน์ต่อบางภาคส่วนและสินทรัพย์บางประเภทเช่นกัน
หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024
ภาคส่วนการเงินที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการชนะเลือกตั้งของทรัมป์ ได้แก่ ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ หุ้น Small Cap และตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
ตลาดอสังหาของสหรัฐฯ มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ทรัมป์มีความเกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัว และเขายังรู้จักนักธุรกิจที่ทรงอำนาจมากมายในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่เขาจะผลักดันทางการเมือง เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ให้กลับมายืนได้อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังเป็นสิ่งที่ลงตัวกับการมุ่งเน้นทางการเมืองของทรัมป์ในการปรับปรุงชีวิตของชาวอเมริกันทั่วไป
หุ้น Small Cap ของสหรัฐฯ อาจได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กของทรัมป์ โดยดัชนีการมองโลกในแง่ดีของธุรกิจขนาดเล็กของ NFIB แสดงให้เห็นว่าในปี 2016 และ 2020 เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเอนเอียงไปข้างพรรครีพับลิกันและทรัมป์ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่ากลุ่มทุนขนาดเล็กจะเติบโตได้อีกครั้งเมื่ออยู่ในวาระตำแหน่งของเขา
อุตสาหกรรมคริปโตตอบสนองเชิงบวกเมื่อตลาดคาดการณ์ว่าทรัมป์อาจได้รับชัยชนะ แม้ว่าทรัมป์ยังไม่ได้เสนอข้อเสนอโดยละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล แต่แคมเปญของทรัมป์ที่เริ่มรับเงินบริจาคจากอุตสาหกรรมคริปโตในเดือนพฤษภาคม ท่าทีเชิงบวกมากขึ้นของเขาเกี่ยวกับอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว รวมถึงการพยายามวางตำแหน่งตัวเองต่อต้านพรรคเดโมแครตที่สนับสนุนการคุมอำนาจในภาคอุตสาหกรรมคริปโต เช่น เอลิซาเบธ วอร์เรน สมาชิกวุฒิสภา ทำให้ทรัมป์ถูกมองว่าอาจส่งผลกระทบเชิงบวกต่อคริปโตและ Bitcoin
นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อไปสำหรับราคาของ Bitcoin และชัยชนะของทรัมป์อาจผลักดันให้ราคาสูงถึง 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้
อ้างอิง:
- https://www.cbsnews.com/news/trump-stocks-economy-inflation/
- https://timesofindia.indiatimes.com/business/international-business/how-trumps-return-may-impact-indian-chinese-stock-markets/articleshow/111831020.cms
- https://www.home.saxo/en-ch/learn/guides/us-election/presidential-impact-on-the-markets-what-sectors-will-be-affected
- https://the-cfo.io/2024/07/22/105242-trump-trades-are-back/