×

ทิศทางตลาดการเงินโลก หาก ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

25.07.2024
  • LOADING...

ตลาดการเงินคาดว่าจะผันผวนเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้

 

THE STANDARD WEALTH ชวนวิเคราะห์ผลกระทบต่อภาคการเงินจากโอกาสที่การเมืองในสหรัฐฯ จะเปลี่ยนแปลงไปหลังการเลือกตั้งครั้งนี้

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ประเมินผลกระทบต่อตลาด หลังจากไบเดนถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

 

นักลงทุนในตลาดการเงินรวมถึงโพลต่างๆ เดิมพันกันมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อาจชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะยาว และหันมาถือ Bitcoin (BTC) มากขึ้น

 

แต่การตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดน และสนับสนุนรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ถือเป็นเหตุการณ์ช็อกทางการเมืองครั้งล่าสุดที่ถูกรับรู้ในตลาดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนประเมินตลาดการเงินใหม่อีกครั้ง เนื่องจากตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น

 

สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งที่นักลงทุนเรียกกันว่า ‘Trump Trade’ โดยทางด้าน อนาโตล คาเลตสกี ผู้ร่วมก่อตั้ง และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน Gavekal มองว่านักลงทุนน่าจะลดสถานะการเดิมพันจำนวนมาก เนื่องจากการแข่งขันการเลือกตั้งมีมุมมองที่เปลี่ยนไป

 

ทำความเข้าใจกับ Trump Trade

 

ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดการเงิน เนื่องจากนักลงทุนจับตาดูสิ่งที่เรียกว่า Trump Trade อย่างใกล้ชิด

 

Trump Trade เป็นคำที่ใช้เรียกชุดพฤติกรรมของตลาดและกลยุทธ์การลงทุนที่เกิดขึ้นระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งก่อนของทรัมป์ เนื่องจากนักลงทุนวางสถานะการลงทุนเพื่อรับประโยชน์จากนโยบายเชิงธุรกิจและวาระทางเศรษฐกิจในช่วงวาระแรกของทรัมป์

 

ตลาดแสดงแนวโน้มที่แตกต่างกันหลายประการ เช่น ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี การเงิน อุตสาหกรรม และพลังงาน ได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากนโยบายส่งเสริมธุรกิจของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงกฎหมายลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลยังปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังในการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะลดลงในเวลาต่อมา เนื่องจากความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐจะไม่ใช่สกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ตามที่ทรัมป์อ้าง แต่การแข็งค่าก็มีผลกระทบต่อการส่งออก สินค้านำเข้า และการลงทุนจากต่างประเทศของสหรัฐฯ

 

การตอบสนองของตลาดเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในวงกว้างในหมู่นักลงทุน และมองว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 2 ของทรัมป์อาจเป็นประโยชน์ต่อบางภาคส่วนและสินทรัพย์บางประเภทเช่นกัน

 

หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024

 

ภาคส่วนการเงินที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการชนะเลือกตั้งของทรัมป์ ได้แก่ ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ หุ้น Small Cap และตลาดคริปโตเคอร์เรนซี

 

ตลาดอสังหาของสหรัฐฯ มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ทรัมป์มีความเกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัว และเขายังรู้จักนักธุรกิจที่ทรงอำนาจมากมายในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่เขาจะผลักดันทางการเมือง เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ให้กลับมายืนได้อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังเป็นสิ่งที่ลงตัวกับการมุ่งเน้นทางการเมืองของทรัมป์ในการปรับปรุงชีวิตของชาวอเมริกันทั่วไป

 

หุ้น Small Cap ของสหรัฐฯ อาจได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กของทรัมป์ โดยดัชนีการมองโลกในแง่ดีของธุรกิจขนาดเล็กของ NFIB แสดงให้เห็นว่าในปี 2016 และ 2020 เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเอนเอียงไปข้างพรรครีพับลิกันและทรัมป์ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่ากลุ่มทุนขนาดเล็กจะเติบโตได้อีกครั้งเมื่ออยู่ในวาระตำแหน่งของเขา

 

อุตสาหกรรมคริปโตตอบสนองเชิงบวกเมื่อตลาดคาดการณ์ว่าทรัมป์อาจได้รับชัยชนะ แม้ว่าทรัมป์ยังไม่ได้เสนอข้อเสนอโดยละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล แต่แคมเปญของทรัมป์ที่เริ่มรับเงินบริจาคจากอุตสาหกรรมคริปโตในเดือนพฤษภาคม ท่าทีเชิงบวกมากขึ้นของเขาเกี่ยวกับอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว รวมถึงการพยายามวางตำแหน่งตัวเองต่อต้านพรรคเดโมแครตที่สนับสนุนการคุมอำนาจในภาคอุตสาหกรรมคริปโต เช่น เอลิซาเบธ วอร์เรน สมาชิกวุฒิสภา ทำให้ทรัมป์ถูกมองว่าอาจส่งผลกระทบเชิงบวกต่อคริปโตและ Bitcoin

 

นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อไปสำหรับราคาของ Bitcoin และชัยชนะของทรัมป์อาจผลักดันให้ราคาสูงถึง 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X