×

อัปเดตเทรนด์ ESG เป้าหมายของเงินลงทุนทั่วโลก

30.11.2024
  • LOADING...

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของ ESG หรือ Environmental, Social และ Governance เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่สำคัญของโลกในวันนี้ ซึ่งรวมถึงโลกของการลงทุนด้วยเช่นกัน

 

 

แม้แต่ในประเทศไทยเองก็มีความตื่นตัวในเรื่อง ESG เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งกองทุนลดหย่อนภาษีรูปใหม่ Thai ESG การลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทยที่มุ่งเน้นการดำเนินงานด้วยความยั่งยืนตามหลัก ESG ที่ได้รับการจัดอันดับใน SET ESG Ratings และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (ESG Bond) และในปี 2024 มีการปรับเกณฑ์ใหม่ โดยเพิ่มหุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากล หรือระดับการประเมิน CG Rating ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors: IOD) ทำให้จำนวนหุ้นใน Universe เพิ่มมากขึ้นจากปี 2023

 

ESG คือหนึ่งในเป้าหมายของเงินลงทุน

 

จากการสำรวจความเห็นของผู้นำในองค์กรธุรกิจระดับโลก โดย Bloomberg พบว่า เกือบครึ่งของผู้นำเหล่านี้เชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนซึ่งรวมถึงเรื่องของ ESG จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20%

 

ขณะเดียวกัน Morningstar เก็บสถิติเทรนด์ใหม่ของกองทุนซึ่งพบว่า กองทุนที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นราว 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023

 

ไม่เพียงแค่ฝั่งตลาดทุนเท่านั้น แต่เทรนด์การลงทุนด้าน ESG ยังผูกโยงไปกับการลงทุนในตราสารหนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้เราได้ยินเกี่ยวกับการระดมทุนผ่าน Green Bond รวมทั้งเครื่องมือระดมทุนเพื่อความยั่งยืนอีกหลายอย่าง

 

ปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนการลงทุน ESG ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

  1. ความต้องการของผู้บริโภคและความตระหนักรู้และใส่ใจมากขึ้นในเรื่องของ ESG: ส่งผลให้มีเงินลงทุนไหลเข้าสู่การลงทุนที่มีกลยุทธ์ด้าน Sustainable รวมถึงนักลงทุนมีความเชื่อเพิ่มขึ้นว่า ESG จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการลงทุน

 

ข้อมูลจาก Bloomberg Intelligence ระบุว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ESG ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการทั่วโลก ณ สิ้นปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 41 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 22.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2016 และคาดการณ์ว่าเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวจะมีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025

 

 

จากรายงาน Sustainability Megatrends โดย Cushman & Wakefield ระบุว่า 60% ของนักลงทุนสถาบันทั่วโลกบอกว่า การลงทุน ESG ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า โดย 78% ของนักลงทุนยินดีที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการสูงกว่าสำหรับกองทุนที่เน้นการลงทุนด้าน ESG

 

  1. นโยบายและกฎระเบียบจากทั่วโลกที่ให้ความสำคัญมากขึ้นเกี่ยวกับการลงทุนด้าน ESG หรือ Sustainable: ความโปร่งใสเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมและยกระดับความยั่งยืน ซึ่งมาตรฐานในเรื่องนี้กำลังถูกยกระดับไปอีกขั้น ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG อย่างครอบคลุมมากขึ้น ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กรและความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งการปรับปรุงการทำรายงานให้เข้ากับกฎระเบียบที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

 

  1. ผลการดำเนินงานของการลงทุนในกลุ่ม ESG: ระยะยาวพบว่าการลงทุนในหุ้นโลกกลุ่ม ESG ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นโลกทั่วไป

 

 

  1. ความท้าทายจากสภาพแวดล้อมทั่วโลก การให้ความสำคัญและตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม ภาวะโลกร้อน ความไม่เท่าเทียมกันในสังคม และปัญหาด้านธรรมาภิบาล: ส่งผลให้การลงทุนกลุ่ม ESG จะมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่สามารถมีส่วนในการช่วยเหลือโลกได้

 

  1. ภาคธุรกิจที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น รวมไปถึงผู้ถือหุ้นก็มีส่วนร่วมในการผลักดันให้ธุรกิจใส่ใจด้าน ESG มากขึ้น: ปัจจัยนี้จะช่วยส่งเสริมความน่าสนใจในการลงทุนให้กับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวในธุรกิจที่เน้นคุณค่า

 

โอกาสลงทุนบนเทรนด์ ESG

 

ในช่วงโค้งสุดท้ายของการวางแผนลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีของปี 2024 นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในกองทุนกลุ่ม Thai ESG ที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ถึง 30% ของรายได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท โดยไม่นับรวมกับกลุ่มการลงทุนเพื่อการเกษียณ หากฐานภาษีอยู่ในอัตราสูงสุดที่ 35% ต่อปี เท่ากับว่าการซื้อกองทุน Thai ESG เต็มวงเงินจะช่วยประหยัดภาษีได้มากถึง 100,500 บาท และยังมีระยะเวลาถือครองเพียง 5 ปี กองทุนแนะนำแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามระดับความเสี่ยงของนักลงทุน

 

  1. รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำ SCBTB(ThaiESGA) ความเสี่ยงระดับ 4 เน้นลงทุนในตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือเพื่อความยั่งยืน

 

  1. รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง แนะนำ KTAG70/30-ThaiESG ความเสี่ยงระดับ 5 เป็นกองทุนผสม เน้นลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 70% ที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในระดับ A ขึ้นไป และตราสารหนี้ที่เป็นพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือเพื่อความยั่งยืนไม่เกินกว่า 30%

 

  1. รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ UTSEQ-THAIESG ความเสี่ยงระดับ 6 เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีการดำเนินธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือองค์กร หรือสถาบันอื่น ที่สำนักงานยอมรับว่ามีความโดดเด่นด้าน ESG

 

และสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตตามเทรนด์ ESG กับหุ้นต่างประเทศ ซึ่งมี Universe ของหุ้นและธุรกิจที่หลากหลายกว่า สามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม USUS (กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ซัสเทนเนเบิล อิควิตี้ โซลูชั่น ฟันด์) ความเสี่ยงระดับ 6 ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Allianz Global Investors Fund – Allianz Global Sustainability Share Class PT (USD) มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งเป็นตราสารทุนที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักการ Sustainable and Responsible Investment Strategy (SRI Strategy) ที่พิจารณาปัจจัยการดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม สิทธิมนุษยชน และธรรมาภิบาล

 

ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อที่ปรึกษาทางการเงิน (Client Advisor) ของ UOB Privilege Banking ได้ที่ โทร. 0 2081 0999 หรือคลิก www.uob.co.th/privilegebanking

 

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X