×

GLOBAL – ฟื้นตัวนำโดยมาร์จิ้นใน 2Q67 และ SSS ใน 2H67

12.06.2024
  • LOADING...
GLOBAL

เกิดอะไรขึ้น:

 

InnovestX Research คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) ฟื้นตัวใน 2Q67 สัดส่วนยอดขายสินค้า Private Brand ที่มีมาร์จิ้นสูงต่อยอดขายรวม ปรับตัวลดลงสู่ 23% ใน 1Q67 (เทียบกับ 24% ในปี 2566) จากปัญหาการเติมสต็อกสินค้าขายดี อย่างไรก็ตาม GLOBALยังคงตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า Private Brand สู่ 24-25% สำหรับช่วงที่เหลือของปี 2567 จากการเติมสต็อกสินค้าที่ดีขึ้นด้วยการปรับการสั่งสินค้าล็อตใหม่ โดยส่งมอบสินค้าครบทั้งหมดตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป

 

ยอดขายสินค้า Private Brand ที่ฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับการบริหารจัดการกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ดีขึ้นใน 2Q67TD ทำให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะฟื้นตัวสู่ระดับสูงกว่า 26% ใน 2Q67 (เทียบกับ 25.4% ใน 2Q66 และ 25% ใน 1Q67)

 

ด้านยอดขายสาขา (SSS) ของ GLOBALจะลดลง 2%YoY ใน 2Q67TD โดยลดลง 1%YoY ในเดือนเมษายน และ 2-3%YoY ในเดือนพฤษภาคม (ตัวเลขที่ติดลบในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม เนื่องจากฝนที่ตกหนักส่งผลกระทบให้กิจกรรมการก่อสร้างหยุดชะงัก ไปหักล้างตัวเลขที่เป็นบวกในช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤษภาคม) ในขณะที่ SSS หดตัว YoY ในอัตราที่น้อยกว่า ลดลง 5%YoY ใน 1Q67 โดยมีสาเหตุมาจาก

 

  1. ผลกระทบจากราคาเหล็กที่กลับสู่ภาวะปกติ ราคาเหล็กเส้นในประเทศลดลง 5%YoY แต่เพิ่มขึ้น 2%QoQ ใน 2Q67TD (เทียบกับลดลง 10%YoY แต่ทรงตัว QoQ ใน 1Q67) และผลิตภัณฑ์เหล็กคิดเป็น 15% ของยอดขายรวมของGLOBAL

 

  1. การกลับมาเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนภาครัฐอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเดือนพฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 – เมษายน 2567) การเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนภาครัฐลดลงมากกว่า 50%YoY หลังจากผ่านงบประมาณประจำปี 2567 ในช่วงสิ้นเดือนเมษายน และผ่านงบประมาณประจำปี 2568 ตามปกติ การเบิกจ่ายสำหรับช่วงปลาย 2Q67 และ 2H67 มีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้ SSS ของ GLOBALฟื้นตัว YoY

 

ด้านแผนขยายสาขาในปี 2567 GLOBALวางแผนเร่งขยายสาขา โดยจะเปิดสาขาใหม่ 8 สาขาในประเทศไทย (ประกอบด้วย 1 สาขาใน 1Q67, 3 สาขาใน 2Q67 และ 4 สาขาใน 4Q67 เทียบกับ 83 สาขาเมื่อสิ้นปี 2566) และ 1 สาขาในจังหวัดพระตะบองในกัมพูชา (เปิดไปแล้วใน 1Q67 เทียบกับ 1 สาขาเมื่อสิ้นปี 2566)

 

ในไทย GLOBALได้เปิดสาขาใหม่ขนาดเล็กที่คอมมูนิตี้มอลล์ ‘เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9’ โดยมีพื้นที่ขาย 2,900 ตารางเมตรต่อสาขา ใน 1Q67 และปัจจุบันยังไม่มีแผนเปิดสาขาเพิ่ม บริษัทตั้งเป้าที่จะเปิดร้านขนาดใหญ่สำหรับสาขาใหม่ที่เหลือด้วยพื้นที่ขาย 12,000 ตารางเมตรต่อสาขา ในช่วงที่เหลือของปี 2567

 

สำหรับบริษัทร่วม บริษัทวางแผนที่จะเร่งขยายสาขา เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตมากขึ้นในต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 สาขาใน สปป.ลาว (เทียบกับ 7 สาขา ณ สิ้นปี 2566) 3 สาขาในเมียนมา (เทียบกับ 12 สาขา ณ สิ้นปี 2566) และ 4 สาขาในอินโดนีเซีย (เทียบกับ 13 สาขา ณ สิ้นปี 2566) GLOBAL ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำไรจากร้านค้าในต่างประเทศเป็น 10% ของกำไรทั้งหมด ภายใน 3-4 ปีข้างหน้า จากตัวเลขหลักเดียวระดับกลางในปี 2566 (มีความสามารถในการทำกำไรได้หมดในทุกประเทศ)

 

กระทบอย่างไร:

 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น GLOBAL ปรับลง 0.62% สู่ระดับ 15.90 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 4.07% สู่ระดับ 1,316.10 จุด

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2567:

 

InnovestX Research คาดว่ากำไร 2Q67 ของ GLOBAL จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว YoY โดย SSS จะหดตัวลงเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการมีสัดส่วนยอดขายสินค้า Private Brand ที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น จากการเติมสต็อกสินค้าได้ดีขึ้น และการบริหารจัดการกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ดีขึ้น แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

 

และคาดว่ากำไร 2H67 ของ GLOBAL จะเติบโต YoY โดยได้แรงหนุนจากมาร์จิ้นที่กว้างขึ้น SSS ที่ฟื้นตัว YoY จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนภาครัฐมากขึ้น

 

สำหรับกลยุทธ์และคำแนะนำการลงทุน ยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ GLOBAL โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF (WACC 7% และการเติบโตระยะยาว 2.5%) ที่ 18.50 บาทต่อหุ้น

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ การเปลี่ยนแปลงของราคาเหล็กและรายได้เกษตรกร และนโยบายรัฐบาลใหม่ ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ ได้แก่ การบริหารจัดการพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและมีคุณภาพ (E) แนวปฏิบัติด้านการจ้างงาน และความปลอดภัยของข้อมูล (S)

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising