×

กองทุนแห่งชาติสิงคโปร์เบนเป้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากจีนไปยัง ‘อินเดีย และเวียดนาม’

03.08.2023
  • LOADING...
GIC

กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติสิงคโปร์ (GIC) เตรียมโฟกัสการลงทุนไปยังโครงสร้างพื้นฐานและย้ายเป้าหมายสำหรับเงินทุนจากจีนไปยังอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมองหาผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าที่ได้รับจากหุ้นและพันธบัตร

 

Ang Eng Seng หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ GIC ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia ว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่และมีโอกาสเติบโตในอนาคต

 

เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา GIC กล่าวว่าได้ลงทุนในโครงการของ Genus Power Infrastructures ของอินเดีย ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนามาตรวัดอัจฉริยะที่สามารถวัดและส่งการใช้ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ GIC จะถือครองหุ้น 74% และ Genus จะถือหุ้นส่วนที่เหลือ คาดว่าจะมีการลงทุนเริ่มต้น 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายการใช้ผลิตภัณฑ์มาตรวัดอัจฉริยะในอินเดีย

 

ตามข้อมูลของ Genus พบว่ารัฐบาลอินเดียวางแผนลงทุน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อติดตั้งสมาร์ทมิเตอร์ 250 ล้านเครื่องภายในปี 2025 เพื่อการส่งเสริมประสิทธิภาพของการใช้พลังงานตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ

 

ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่าทรัพย์สินของ GIC จะมีมากกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Sovereign Wealth Fund Institute ผลตอบแทนรายปีในช่วง 5 ปีของกองทุน ณ สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2023 อยู่ที่ 3.7% ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและภาวะตกต่ำของราคาหุ้น

 

การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของ GIC เพิ่มขึ้นถึง 1-2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องก็เติบโตขึ้นถึง 5 เท่าในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา โครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า โทรคมนาคม การลดคาร์บอน และการแปลงเป็นดิจิทัล และ GIC ยังมีแผนที่จะขยายการถือครองในอนาคตอีกด้วย

 

แม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานสามารถให้ผลตอบแทนที่มั่นคงได้ในระยะกลางและระยะยาวในกรณีที่แผนงานมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีความเสี่ยงที่แผนงานจะถูกยกเลิกหรือเกิดความล่าช้า GIC มองว่าความเสี่ยงของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนั้นเป็นความเสี่ยงของการผสมผสานระหว่างหุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่ง GIC กำลังปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อให้เกิดความสมดุล

 

ในระดับภูมิภาคเอเชีย GIC กำลังโยกย้ายเงินทุนจากจีนไปยังประเทศเกิดใหม่แห่งอื่น เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกา และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

เอเชียไม่รวมญี่ปุ่นคิดเป็น 23% ของพอร์ตโฟลิโอของ GIC ณ สิ้นสุดเดือนมีนาคม ซึ่งนับเป็นภูมิภาคที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วน 38% Jeffrey Jaensubhakij หัวหน้ากลุ่มเจ้าหน้าที่การลงทุนของ GIC กล่าวว่าการลงทุนในเอเชียกำลังเปลี่ยนจากจีนไปยังประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม

 

อย่างไรก็ตาม แม้หลายบริษัทจะมีความต้องการถ่ายโอนการผลิตจากจีนไปยังอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานของโรงงานและการจัดจำหน่ายยังล้าหลังเมื่อเทียบกับจีน

 

Ang ระบุว่าโอกาสการลงทุนในภูมิภาคเหล่านั้นล้วนขับเคลื่อนด้วยการเพิ่มทุนจากภาคเอกชนของประเทศต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และผลักดันความต้องการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เช่น การแปลงเศรษฐกิจให้เป็นดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X