GIC PRIVATE LIMITED หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐบาลสิงคโปร์ กำลังพิจารณาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเพื่อรับมือกับความเสี่ยงเงินเฟ้อ หลังจากประเมินว่าการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในปีนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบาก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า GIC (GIC PRIVATE LIMITED) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐบาลสิงคโปร์ (Sovereign Wealth Fund: SWF) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานบริหารกองทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศเป็นหลัก กำลังเบนเข็มการลงทุนไปสู่อสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นในรอบหลายปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้บริหารของ GIC กล่าวกับ Financial Times ว่าอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นเกือบจะหักกลบกำไรที่กองทุนเคยได้รับมาได้หมด และเตือนว่าโลกอาจเผชิญกับภาวะซบเซาเป็นเวลานานหากผู้กำหนดนโยบายการเงินไม่ดำเนินการตามความเหมาะสม
คำเตือนจาก GIC ครั้งนี้สะท้อนถึงผลกระทบจากเงินเฟ้อระดับสูงที่อาจกดดันนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกลุ่มที่คุ้นชินกับการลงทุนในบริบทของนโยบายการเงินผ่อนคลายมาหลายปี
โอกาสที่เศรษฐกิจจะซบเซาระยะยาวก่อความกังวลอย่างมีนัยสำคัญแก่ GIC ซึ่งมีหน้าที่หลักในการแสวงหาผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อระยะยาวได้ และช่วยเพิ่มปริมาณทุนสำรองต่างประเทศของสิงคโปร์ โดย Lim Chow Kiat ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อระดับสูงรอบนี้อาจหักกลบกำไรที่ GIC สร้างผลงานไว้นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1981 ได้เลย
Lim กล่าวว่า เราอาจเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจซบเซา (Stagflation) เป็นเวลานานถึง 1 ทศวรรษ ด้วยเหตุนี้การกระจายพอร์ตการลงทุนของ GIC จะท้าทายมากขึ้น เนื่องจากมีทรัพย์สินเพียงไม่กี่ประเภทที่ได้รับการยกเว้นจากผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อที่แย่ลงและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลง
“อัตราเงินเฟ้อที่สูงไม่เพียงแต่ลดผลตอบแทนที่แท้จริงในทันที แต่ยังส่งผลกระทบในทางลบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสินทรัพย์ทางการเงิน” Lim กล่าว
ล่าสุด GIC เปิดเผยผลประกอบการ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2022 ซึ่งแสดงผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 4.2% สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แต่เป็นตัวเลขผผลตอบแทนที่ต่ำกว่าปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 4.3% ขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 7%
อย่างไรก็ตาม Lim ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลตอบแทนจากการลงทุนในปีนี้
GIC ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าครอบครองมูลค่าสินทรัพย์เกิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ได้เพิ่มการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จาก 8% เป็น 10% ของพอร์ตลงทุน (ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2022) และลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นลง 2% มาอยู่ที่ 30% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมด
โดยในช่วงครึ่งปีแรก CIG มีการรายงานการเข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะ เช่น การเข้าลงทุนใน Paddington Central Office ในลอนดอน ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ให้บริการที่พักนักศึกษาอย่างน้อย 2 แห่งในยุโรป
เจฟฟรีย์ เจนสุภากิจ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุน กล่าวว่า อสังหาริมทรัพย์ให้เช่าระยะสั้น เช่น อาคารสำนักงาน และที่พักนักศึกษา มีความเสี่ยงน้อยในยามที่เงินเฟ้อปรับสูงขึ้นที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถขึ้นราคาได้ตามนั้น
“เราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อพยายามค้นหาสินทรัพย์ที่เราคิดว่าจะสามารถอยู่รอดได้ในระยะใกล้ จากภาวะเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อในช่วงทศวรรษ 1970” เจฟฟรีย์กล่าว
อ้างอิง:
- https://www.ft.com/content/eeda4247-e0a8-4d97-8d16-74b93830b9f1
- https://www.cnbc.com/2022/07/27/singapores-gic-reports-stable-returns-amid-uncertainty-over-inflation.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP