วานนี้ (17 กรกฎาคม) กานายืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก (Marburg) สองเคสแรกของประเทศ ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่ในวงศ์เดียวกับอีโบลา โดยผู้ป่วยทั้งสองรายเสียชีวิตแล้ว หลังจากที่ผลตรวจเชื้อออกมาเป็นบวกเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม
ขณะนี้หน่วยงานบริการสุขภาพกานา (GHS) กำลังเร่งใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เป็นอันตรายในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงการสั่งกักตัวผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้งสองรายดังกล่าวแล้วรวม 98 คน โดยทั้งหมดยังไม่มีใครแสดงอาการป่วยจนถึงขณะนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองรายมีอาการป่วยเหมือนกันคือ ท้องร่วงรุนแรง มีไข้ คลื่นไส้ และอาเจียนหนัก ก่อนเสียชีวิตในโรงพยาบาล
สำหรับการแพร่เชื้อ องค์การอนามัยโลก (WHO) อธิบายว่า การติดเชื้อชนิดนี้ในมนุษย์เริ่มแรกเป็นผลมาจากการสัมผัสเหมืองหรือถ้ำที่มีค้างคาว Rousettus Bat อาศัยอยู่เป็นกลุ่มเป็นเวลานาน และเมื่อแพร่สู่คนแล้ว ก็สามารถแพร่เชื้อต่อไปผ่านการสัมผัสของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อ หรือจากพื้นผิวและวัสดุที่ปนเปื้อน
ส่วนอาการป่วยของโรคที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดศีรษะ มีไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อ และอาเจียนเป็นเลือด ในกรณีที่เสียชีวิตมักมีเลือดออกจากหลายแห่ง และผู้ป่วยมักเสียชีวิตระหว่าง 8-9 วันหลังมีอาการ โดยเจ้าหน้าที่ได้เตือนให้ประชาชนเลี่ยงการเดินทางไปยังถ้ำต่างๆ และต้องปรุงอาหารให้สุกก่อนรับประทานทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนหรือการรักษาเพื่อต่อต้านไวรัสที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขอย่างเป็นทางการ แต่การให้สารน้ำทางปากหรือหลอดเลือดดำ ตลอดจนการรักษาตามอาการก็เพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้
สำหรับในแอฟริกา ในอดีตเคยพบผู้ป่วยโรคดังกล่าวใน แองโกลา คองโก เคนยา แอฟริกาใต้ และยูกันดา โดยการระบาดครั้งแรกเกิดขึ้นที่เยอรมนีในปี 1967 และมีผู้เสียชีวิต 7 ราย ส่วนการระบาดครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นที่แองโกลาเมื่อปี 2005 ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 200 ราย
ภาพ: Image Point FR / NIH / NIAID / BSIP / Universal Images Group via Getty Images
อ้างอิง: