เคยตั้งข้อสังเกตเล่นๆ หรือสงสัยบ้างไหมว่า ใครคือผู้ผลิตประตูห้องผ่าตัด, ห้อง ICU, ห้อง CCU, ห้องเอ็กซเรย์ MRI หรือ CT Scan และบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บเสียงได้ดีสำหรับห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของโรงแรม สำนักงาน มหาวิทยาลัย ฯลฯ
ความน่าสนใจของสินค้าในกลุ่มประตูอัตโนมัติหรือบานเลื่อนขนาดใหญ่กันเสียงคือการเป็นตลาดที่มีผู้แข่งขันน้อยราย (Niche Market) หรือในอีกนัยหนึ่งก็อาจตีความได้ว่า ผู้เล่นในตลาดนี้ล้วนแล้วแต่ค่อนข้างมีความชำนาญ อยู่มานาน มีลูกค้าที่ไว้วางใจผูกปิ่นโตใช้บริการยาวๆ กันเป็นจำนวนมาก จึงอาจจะทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่ๆ เข้าถึงตลาดนี้ไม่ได้สักเท่าไร
‘บริษัท เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (PanelesMatic Solutions)’ คือหนึ่งในแบรนด์ที่โลดแล่นอยู่ในตลาดนี้มายาวนานไม่ต่ำกว่า 34 ปี โดยพวกเขาถือเป็นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจนำเข้า ผลิต และจัดจำหน่ายผนังบานเลื่อนกันเสียง วัสดุกันเสียงสำหรับงานสถาปัตยกรรม ระบบประตูอัตโนมัติ สำหรับโรงพยาบาลและสาธารณสุข ลำดับต้นๆ ของประเทศ ที่สร้างชื่อเสียงด้วยการทำงานร่วมกับลูกค้าชั้นนำมาอย่างโชกโชน
เหตุผลที่เราหยิบเรื่องราวของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ มาเล่าถึงก็เพราะว่า เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ พวกเขาเพิ่งได้รับการอนุมัติจดทะเบียนให้เสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ mai โดย ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแบบสดๆ ร้อนๆ หลังยื่นไฟลิ่งและเอกสารทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์
ผลที่ตามมาจึงทำให้เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ เตรียมเปิดระดมทุน IPO ในตลาด mai ในเร็ววันนี้เป็นจำนวน 50 ล้านหุ้น ที่ราคา 3.68 บาทต่อหุ้น (เทียบเท่าสัดส่วนหุ้นทั้งหมด 26.32% ของบริษัทหลัง IPO) เพื่อรองรับและขยายการเติบโตของบริษัทในอนาคตข้างหน้า
เพื่อให้เห็นภาพรวมและเข้าใจที่มาที่ไปของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ มากขึ้น THE STANDARD WEALTH ได้สรุปรวมเรื่องที่คุณต้องรู้และความน่าสนใจของบริษัทแห่งนี้เอาไว้ให้แล้ว
30 ปีของการเป็นผู้เล่นในตลาด Niche Market กับความกล้านิยามตัวเองเป็น ‘Specialist’ ประตูอัตโนมัติสำหรับโรงพยาบาล และผนังบานเลื่อนกันเสียงสำหรับโรงแรม
ในเว็บไซต์ของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ พวกเขาได้ให้นิยามกับตัวเองว่าเป็น ‘Specialist for Acoustic and Automation of Doors & Walls’ ซึ่งถือเป็นนิยามที่ตรงไปตรงมา แต่ขณะเดียวกันกลับแฝงไปด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านประตูอัตโนมัติและผนังบานเลื่อนกันเสียงในประเทศไทยอย่างแท้จริง
แล้วในความเป็นจริง นิยามของพวกเขาเป็นจริงเช่นนั้นมากน้อยแค่ไหน?
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2533 นั่นคือช่วงเวลาที่เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ ได้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของกลุ่มเพื่อนที่มีความรู้ความช่ำชองในแวดวงสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการตกแต่งภายใน ทั้งหมด 7 คน จากความตั้งใจที่อยากยกระดับคุณภาพของ ‘ผลิตภัณฑ์ทางสถาปัตยกรรม’ ให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าและนักสถาปัตย์ วิศวกร หรือนักออกแบบภายใน
โดยการนำเข้าสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำในยุโรปที่ขึ้นชื่อในแง่ของคุณภาพและดีไซน์ก็นับเป็นหนึ่งในสารตั้งต้นประการแรกๆ ของพวกเขาด้วยเช่นกัน
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในวันนั้น ได้นำมาสู่การขยายขอบเขตความตั้งใจในการทำงานของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ ที่ทำให้พวกเขาขยับขยายกลายมาเป็น ‘ผู้ให้บริการโซลูชันแบบครบวงจร’ ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้นำเข้าหรือจัดจำหน่ายประตูอัตโนมัติ Manusa ซึ่งเป็นระบบประตูอัจฉริยะระดับโลกจากสเปน ซึ่ง PANEL เป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงผู้เดียวในไทยมากว่า 24 ปี ซึ่งประตู Manusa ได้รับความเชื่อมั่นให้ใช้เป็นประตูห้องผ่าตัด, ห้อง ICU, ห้อง CCU, ห้องเอ็กซเรย์ MRI หรือ CT Scan ในโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ ของไทย ทั้งโรงพยาบาลรัฐบาลขนาดใหญ่และโรงพยาบาลเอกชนระดับสากล เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นต้น
ส่วนธุรกิจผนังบานเลื่อนกันเสียงยังครอบคลุมตั้งแต่การนำเข้า การผลิต การติดตั้ง การตกแต่ง รวบตึงไปจนถึงบริการหลังการขายอย่างเต็มระบบครบลูป ให้กับโรงแรมชั้นนำมากมาย เช่น Marriott, The Athenee, Holiday Inn, Centara Grand at CentralWorld และ Parc Paragon
เรื่องหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจก่อนคือ ตลาดประตูอัตโนมัติและผนังบานเลื่อนกันเสียงนี้เป็นตลาดที่มีความยูนีกค่อนข้างสูง เป็นตลาดที่ถูกขนานนามว่า Niche Market ไม่ใช่สังเวียนที่ผู้เล่นหน้าใหม่ๆ จะเข้ามาได้ง่ายๆ เพราะการจะโลดแล่นในตลาดนี้ได้ต้องมีทั้งประสบการณ์ ความรู้เชิงเทคนิค ความแม่นยำในการสรรหาวัสดุที่ดีที่สุดเพื่อผลิตหรือติดตั้ง แล้วส่งต่อให้กับลูกค้า ตลอดจนความสามารถในการเร่งตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วให้ทันท่วงที
โดยที่ลูกค้าส่วนใหญ่ในกลุ่มโรงแรมหรือโรงพยาบาลต่างก็ต้องการความ ‘เป๊ะ’ ที่ไม่ต้องมานั่งลุ้นคุณภาพของสินค้าที่ใช้ในสถานที่ของพวกเขาด้วยกันแทบทั้งสิ้น เนื่องจากชื่อเสียงในการให้บริการกับลูกค้า (ของพวกเขาอีกที) คือ Priority ที่พวกเขาให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ในแง่มุมการทำธุรกิจ
เมื่อบวกรวมกับความไว้วางใจที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับองค์กรระดับสูงมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมในเครือ Minor, Marriott, The Athenee, Holiday Inn, Centara, Avani, Mercure, Crowne Plaza, Eastin และโรงพยาบาลชั้นนำ เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลสมิติเวช เป็นต้น
จากชื่อชั้นของกลุ่มลูกค้าข้างต้นที่ผูกปิ่นโตทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานในหลายต่อหลายโปรเจกต์ จึงสะท้อนให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า ทำไมเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ ถึงสามารถโต้คลื่นอยู่ในวงการนี้ได้อย่างยาวนานร่วม 3 ทศวรรษเต็มในฐานะผู้นำของตลาด
สำหรับผลิตภัณฑ์ของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
- ผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าสำหรับการใช้งานในสถานพยาบาล (Hospital and Healthcare Product)
- ผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าออกแบบตกแต่งภายในสำหรับอาคารทั่วไป (Interior Products)
ดังนั้น นอกเหนือจากสินค้าในกลุ่มบานเลื่อนกันเสียง (Panelés Operable Walls), ระบบประตูอัตโนมัติและประตูสุญญากาศ (Manusa Automatic and Hermetic Doors) ที่ลูกค้ากลุ่มสถานพยาบาลโดยเฉพาะห้องผ่าตัดไว้วางใจในการใช้งานกัน เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ก็ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่หลากหลาย
ระบบประตูอัตโนมัติ บานเลื่อน และประตูสุญญากาศ ในสถานพยาบาล
ภายใต้การดูแลของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์
ตัวอย่างเช่น แผงตกแต่งผนังกำแพงกันเสียง (Acoustic Panelés And Felts), กระเบื้องแบบพรมตกแต่งพื้นแบบซับเสียง (Carpet Tile), แผ่นกระจกใสแบบผนังพาร์ทิชันกันเสียง (Panelés Acoustic Glazing Partition System) และบูธสำหรับคุยโทรศัพท์หรือทำงานแบบเก็บเสียงเพื่อความเป็นส่วนตัว (Panelés Silence Booths) เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า นอกจากลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลและโรงแรมที่ถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักแล้ว ลูกค้ากลุ่มแบรนด์ที่ทำอาคารสำนักงานก็นับรวมเป็นอีกหนึ่งในกลุ่มลูกค้าของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ในรายงานเอกสารการยื่นไฟลิ่งให้กับทาง ก.ล.ต. นั้นพบว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นหลักของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ มีรายนาม ดังนี้
- กลุ่ม จูเลีย ดับเบิ้ลยู เพ็ชญไพศิษฎ์: 55% (สัดส่วนหลัง IPO: 40.53%)
- อังสุรัสมิ์ อารีกุล: 45% (สัดส่วนหลัง IPO: 33.16%)
สำหรับรายได้ในช่วง 3 ปีหลังสุดของบริษัท (ปี 2563-2565) พบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
ปี 2563 รายได้รวม 86.88 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16.87 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 19.17%)
ปี 2564 รายได้รวม 68.84 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10.96 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 15.64%)
ปี 2565 รายได้รวม 110.20 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15.94 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 14.40%)
และช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 รายได้รวม 90.5 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10.4 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 11.49%)
กำไรสุทธิเติบโตขึ้น 333% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 รายได้รวม 57 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2.4 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 4.21%)
เดินหน้าขยายการเติบโตองค์กร เติมคน ต่อยอดเครื่องจักร กระตุ้นการผลิต พร้อมรุกตลาดต่างประเทศ เป้าหมายกรุยทางสู่ IPO
ทั้งนี้ สำหรับเป้าหมายการ IPO ครั้งนี้ของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ หลักๆ จะมุ่งเน้นไปที่การขยายการเติบโตขององค์กร เพื่อยกระดับขีดศักยภาพในการดำเนินงานให้กับบริษัท ประกอบไปด้วย
- การสร้างโรงงานแห่งใหม่ พร้อมจัดซื้อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังในการผลิต ภายใต้งบประมาณ 140 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567
- การชำระเงินกู้ยืมสำหรับการจัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ภายใต้งบประมาณ 30 ล้านบาท ภายในปี 2568
- การใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ภายใต้งบประมาณที่เหลือจากวัตถุประสงค์ 2 ข้อข้างต้น ภายในปี 2568
นอกเหนือจากนี้ เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ยังมีกลยุทธ์การขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ภายใต้การทำงานร่วมกับดีลเลอร์ผ่านระบบตัวแทนต่างประเทศ เช่น อินเดีย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย อีกด้วย
นั่นจึงทำให้แผนการ IPO ใน mai ครั้งนี้ของพวกเขาเป็นหนึ่งใน ‘โมเมนต์ที่สำคัญ’ ที่จะช่วยเร่งและถีบทะยานให้เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมีนัยสำคัญในเชิงการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ยังได้แจกแจงนโยบายจ่ายเงินปันผลไว้เบื้องต้น โดยระบุว่า มีนโยบายปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการ (ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองต่างๆ (หากกำหนดไว้และหากมี))
ถึงกระนั้นก็ตาม ต้องยอมรับว่าภาพรวมการเป็นตลาด Niche ที่มีมูลค่าตลาดค่อนข้างสูง กลุ่มลูกค้าในตลาดทั้งในกลุ่มโรงพยาบาลและโรงแรมมีการขยายการเติบโตอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะหลังช่วงโควิด ก็ยังคงทำให้ภาพรวมของเพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
