โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงท่าทีขู่ทวงคืน คลองปานามา ให้กลับมาอยู่ในการควบคุมของสหรัฐฯ หลังกล่าวหาปานามาว่าเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่มากเกินไปสำหรับการใช้คลองปานามา ซึ่งสหรัฐฯ ถือเป็นประเทศที่ใช้งานมากที่สุด พร้อมเตือนว่าจีนนั้นเข้ามามีอิทธิพลเหนือคลองปานามา ส่งผลให้ โชเซ ราอูล มูลิโน ประธานาธิบดีปานามา ออกมาตอบโต้ โดยยืนยันว่า ‘ทุกตารางเมตร’ ของคลองปานามาและพื้นที่โดยรอบเป็นของประเทศปานามา
คลองปานามาสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1900 โดยรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นผู้ลงทุน ด้วยมูลค่าก่อสร้างที่เทียบเท่ากับการสร้างเรือไททานิกถึง 85 ลำ
สหรัฐฯ ควบคุมพื้นที่คลองแห่งนี้ไว้จนถึงปี 1977 กระทั่งมีการลงนามสนธิสัญญาตอร์ริโฮส-คาร์เตอร์ (Torrijos-Carter Treaties) โดย จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น รับประกันการยกพื้นที่คลองคืนให้แก่ปานามาในปี 1999
คลองปานามา มีความยาวทั้งสิ้น 82 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเดินเรือที่ตัดผ่านไปยังทวีปอเมริกากลาง และเป็นเส้นทางหลักระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ลดระยะเวลาในการเดินทางจากอเมริกาฝั่งตะวันตกไปฝั่งตะวันออก ที่เดิมต้องอ้อมแหลมฮอร์น (Cape Horn) ทวีปอเมริกาใต้ เป็นระยะทางราว 8,000 ไมล์ และใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์
การเดินทางผ่านคลองปานามาใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งจุดที่กว้างน้อยที่สุดของลำคลองมีขนาด 91 เมตร และจุดที่ลึกน้อยที่สุดอยู่ที่ 12 เมตร สามารถรองรับเรือความยาวสูงสุด 366 เมตร และมีระบบประตูกั้นน้ำ 12 ประตู ที่กั้นน้ำภายในคลองเป็นช่วงๆ เพื่อยกระดับเรือให้สูงขึ้นหรือต่ำลงเมื่อแล่นผ่านจากปากคลองด้านหนึ่งไปออกอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากความไม่เท่ากันของระดับน้ำทะเล ตลอดจนปัจจัยความแตกต่างของมหาสมุทรทั้งสองฝั่ง เช่น ความหนาแน่นของน้ำ และภูมิอากาศ
ในแต่ละปีมีเรือแล่นผ่านคลองแห่งนี้ราว 12,000-15,000 ลำ รวมถึงเรือบรรทุกสินค้า เช่น รถยนต์ ก๊าซธรรมชาติ และสินค้าอื่นๆ ตลอดจนเรือของกองทัพ
ขณะที่สหรัฐฯ เป็นผู้ใช้งานคลองปานามามากเป็นอันดับ 1 โดยกว่า 72% ของการขนส่งทางน้ำผ่านคลองปานามานั้นเดินทางเข้าหรือออกมาจากท่าเรือสหรัฐฯ ส่วนผู้ใช้งานอันดับ 2 คือจีน ตามด้วยญี่ปุ่น
ปัจจุบัน คลองปานามา ถือเป็นอีกแหล่งรายได้สำคัญของประเทศปานามา โดยในปี 2023 รายได้จากค่าธรรมเนียมผ่านทางเรือคิดเป็น 3.1% ของ GDP
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร