ลุค ลิตต์เลอร์ รองแชมป์โลกที่โด่งดังที่สุดในวงการปาเป้าชั่วโมงนี้

เมื่อวานที่ผ่านมา การแข่งขันปาเป้าชิงแชมป์โลก 2023/24 จบลงด้วยการที่ ลุค ฮัมฟรีส์ นักปาเป้ามือ 3 ของโลกคว้าแชมป์โลกสมัยแรกไปครองได้สำเร็จ หลังเอาชนะ ลุค ลิตต์เลอร์ นักปาเป้าหนุ่มน้อยมหัศจรรย์วัย 16 ปี ไปได้ 7-4 เซ็ต พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกแทนที่ ไมเคิล สมิธ แชมป์โลกเมื่อปีก่อน

อันที่จริงแล้วเรื่องราวของฮัมฟรีส์ก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเขาเกือบจะวางมือจากวงการปาเป้าไปแล้วเนื่องจากมีปัญหาสภาพจิตใจจากการมีอาการวิตกกังวลอย่างหนัก แต่สุดท้ายมือปาเป้าวัย 28 ปี ก็เอาชนะมันและกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง และโชว์สภาพจิตใจอันเข้มแข็งด้วยการเก็บ 5 เซ็ตรวด แซงคว้าชัยในรอบชิงชนะเลิศไปได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เรื่องราวของฮัมฟรีส์จะน่าสนใจแค่ไหน แต่สื่อหลายสำนักก็มุ่งความสนใจไปยัง ลุค ลิตต์เลอร์ นักปาเป้าเจ้าของตำแหน่งรองแชมป์โลกคนล่าสุด หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์นี้ จนกลายเป็นม้ามืดที่น่าจับตาที่สุดคนหนึ่งในการแข่งขัน

รองแชมป์โลกวัย 16 ปี

ลุค ลิตต์เลอร์ เป็นเพียงผู้เล่นเทียร์ 3 ที่ผ่านเข้ามาแข่งขันรายการนี้ เขาเป็นมืออันดับ 164 ของโลกก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นั่นทำให้ไม่ว่าใครก็ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลได้ถึงรองแชมป์โลก และเขาถูกมองเป็นเพียงแค่ผู้เล่นไม้ประดับเท่านั้น

การคัดเลือกผู้เล่นเข้ามาเล่นในศึกชิงแชมป์โลกจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 3 เทียร์ เทียร์ละ 32 คน โดยเทียร์แรกเรียกว่า Order of Merit ซึ่งก็คือผู้เล่นที่มีคะแนนสะสมดีที่สุด 32 อันดับ ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้จะเข้าไปยืนรอในรอบ 2 โดยอัตโนมัติ ขณะที่อีก 2 เทียร์ คือเทียร์ 2 อย่าง Pro Tour Order of Merit และเทียร์ 3 อย่าง International Qualifiers จะต้องเล่นในรอบแรกก่อน

อันที่จริงแล้วการที่ผู้เล่นในระดับเทียร์ 3 ซึ่งมาจากทัวร์นาเมนต์คัดเลือกระดับนานาชาติจะเข้ารอบ 2 นั้นก็เป็นเรื่องยากแล้ว และการผ่านรอบ 2 ที่ต้องเจอผู้เล่นระดับท็อป 32 คนของโลกนั้น สำหรับผู้เล่นที่ไม่ได้ผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาตลอดทั้งปีก็ยิ่งยากไปใหญ่ ไม่ต่างจากการเอาสโมสรฟุตบอลนอกลีกไปเล่นกับสโมสรในพรีเมียร์ลีก

ดังนั้นการเปล่งประกายในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลก ลิตต์เลอร์จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นในทันที หลังผู้เล่นอายุเพียง 16 ปี มืออันดับ 164 ของโลก ที่น่าจะตกรอบแรก ไล่ทุบคู่แข่งมารอบต่อรอบ ไล่ตั้งแต่เอาชนะ คริสเตียน คิสต์ มือ 91 ของโลกจากเนเธอร์แลนด์ ในรอบแรก 3-0 เซ็ต ตามด้วยการทุบ แอนดรูว์ กิลดิง มือ 20 ของโลกจากอังกฤษ ในรอบ 2 ด้วยสกอร์ 3-1 เซ็ต ก่อนที่ในรอบ 3 จะเอาชนะมือ 57 ของโลกจากแคนาดาอย่าง แมตต์ แคมป์เบล ไป 4-1 เซ็ต

รอบที่ 4 หรือรอบก่อนรองชนะเลิศ ดาวรุ่งวัย 16 ปี ยังโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่องด้วยการเอาชนะ เรย์มอนด์ ฟาน บาร์เนเวลด์ นักปาเป้าชาวดัตช์ มือ 29 ของโลกไปได้ 4-1 เช็ต ก่อนมาถึงแมตช์ที่ทุกคนพูดถึง และยกให้เป็นแมตช์ที่สนุกที่สุดในรายการนี้ นั่นคือการเจอกันระหว่าง ลิตต์เลอร์ กับ ร็อบ ครอส อดีตแชมป์โลกปี 2018 ที่รั้งมือ 8 ของโลก โดยผลลัพธ์เป็นทางหนุ่มน้อยวัย 16 ปี เอาชนะไปได้ 6-2 เซ็ต

ความพ่ายแพ้แมตช์เดียวของลิตต์เลอร์ และเป็นแมตช์ที่น่าเสียดายที่สุดสำหรับเขา เกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศ ที่เขาต้องดวลกับ ลุค ฮัมฟรีส์ นักปาเป้าที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งในปีนี้ หลังคว้าแชมป์ระดับพรีเมียร์ในปีนี้ไปแล้วถึง 3 รายการ และขึ้นมารั้งมือ 3 ของโลกก่อนศึกชิงแชมป์โลกจะเปิดฉาก

การดวลกันในรอบชิงชนะเลิศของทั้ง 2 ลุค ใช้ระบบ 7 ใน 13 เซ็ต และเหมือนลิตต์เลอร์จะสร้างเทพนิยายได้ต่อเนื่องจากการนำไปก่อนหลังผ่าน 6 เซ็ต ด้วยสกอร์ 4-2 แต่ทางฮัมฟรีส์ก็มาแสดงว่าทำไมเขาถึงได้ฉายาว่า ‘Cool Hand Luke’ หลังรัวทีเดียว 5 เซ็ตรวด แซงชนะไป 7-4 เซ็ต

ชัยชนะของฮัมฟรีส์ทำให้สถิติแชมป์โลกอายุน้อยที่สุดในวงการปาเป้ายังคงเป็นของ ไมเคิล ฟาน เกอร์เวน ที่ได้แชมป์โลกในวัย 24 ปี กับ 9 เดือนต่อไป แต่ทาง ลุค ‘The Nuke’ ลิตต์เลอร์ยังมีเวลาอีกหลายปีในการลบสถิติของแชมป์โลก 3 สมัยชาวดัตช์ลง

การได้รองแชมป์ครั้งนี้แม้จะน่าเสียดาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาในฐานะนักปาเป้าอาชีพไปตลอดกาล

ลิตต์เลอร์ได้รับเงินรางวัล 200,000 ปอนด์ หรือราว 8.75 ล้านบาท ซึ่งมากเกินกว่าเด็กวัยรุ่นอายุ 16 ปีหลายคนจะจินตนาการได้ และเขายังได้ใบเบิกทางสำคัญอย่างการผ่านควอลิฟายไปแข่งขันในศึกยูเคโอเพนปลายเดือนนี้ หลังทำอันดับโลกขึ้นมา 133 อันดับ มารั้งที่ 31 ในตอนนี้

แต่อันที่จริงแล้วดูเหมือนเป้าหมายของลิตต์เลอร์ในตอนนี้มีเพียงแค่การคว้าใบขับขี่มาครองให้ได้ในตอนที่เขาอายุครบ 17 ปี เมื่อครบรอบวันเกิดในวันที่ 21 มกราคมที่จะถึงนี้! เพราะใบขับขี่นี้เองที่จะทำให้เขามีส่วนร่วมกับการแข่งขันปาเป้าทั่วสหราชอาณาจักรได้ง่ายขึ้นอีกมาก

ความสำเร็จที่ยากจะหลีกเลี่ยง

ตามปกติแล้วนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมและเป็นดาวเด่นของโลกมักจะประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย และลิตต์เลอร์ก็ไม่ต่างกัน เพราะเขาปาลูกดอกลูกแรกในชีวิตด้วยวัยเพียง 18 เดือน!

ในวัยเด็กของเขา เขาเกิดในเมืองรันคอร์น และอาศัยอยู่ในวาร์ริงตัน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ คั่นกลางระหว่างเมืองใหญ่อย่างลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ โดยสิ่งที่เขาทำในทุกๆ วันคือการปาลูกดอกแบบแม่เหล็กใส่กระดานและเล่นมันแบบไม่หยุดหย่อน

ลิตต์เลอร์ได้รับอนุญาตจากพ่อและแม่ให้ปาลูกดอกหัวแหลมได้ตั้งแต่ก่อนอายุ 10 ปีและเขามีโค้ชคนแรกตอนอายุ 10 ปี โดยทาง คาร์ล โฮลเดน อดีตโค้ชของลิตต์เลอร์ ที่สอนเขาในวัย 10 ปีนั้น เปิดเผยกับ BBC ว่า “ตอนที่เขาอายุ 10 ปี เรารู้ว่าฝีมือของเขาดีเกินกว่าวัยของเขามาก

“เขาเล่นใน PDC หรือในรายการอาชีพอื่นๆ ไม่ได้จนกว่าเขาจะอายุ 16 ปี ดังนั้นเราจึงปล่อยให้เขาสนุกสนานไปกับตัวเอง และเขาก็พยายามไต่อันดับขึ้นไป

“เขาย้ายจากลีกรุ่นอายุต่ำกว่า 10 ปี มาเป็นลีกรุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี ตั้งแต่ยังไม่ 11 ปี หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เลื่อนไปเล่นในลีกระดับอายุต่ำกว่า 21 ปี เพียงเพราะเขาเก่งเกินไปสำหรับคู่แข่งคนอื่น”

ก่อนอายุ 14 ปี ลิตต์เลอร์คว้าแชมป์เข้าบ้านมากมาย และมี 12 รายการที่เขาไปแข่งขันร่วมกับผู้ใหญ่และคว้าแชมป์มาครองได้

“ผู้คนจำนวนมากในบาร์พูดว่า ‘ลุค ลิตต์เลอร์ คนนี้เป็นใคร?’ หลายคนไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ผมคิดว่าทุกคนรู้แล้วว่าเขาเป็นใครในตอนนี้ ทุกครั้งที่ผมเปิดทีวีเขาจะอยู่ในนั้นแน่”

คนธรรมดาที่รักทั้งเคบับและปาเป้า

ณ จุดนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าลิตต์เลอร์เป็นนักกีฬาปาเป้าที่มีความสามารถและมีพรสวรรค์ แต่อีกหนึ่งสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้เขาอย่างมาก คือความปกติและธรรมดาของตัวเขาเอง

อย่าลืมว่าลิตต์เลอร์ยังคงเป็นนักเรียนธรรมดาในระบบการศึกษาของอังกฤษ เขาเพิ่งผ่านการสอบ GCSE หรือ General Certificates of Secondary Education ซึ่งเป็นระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร สำหรับนักเรียนอายุระหว่าง 14-16 ปี ที่เข้าศึกษากับทางโรงเรียนหรือวิทยาลัยต่างๆ เมื่อเรียนจบแล้วสามารถสอบได้ทันทีหลังอายุครบ 16 ปีบริบูรณ์ โดยเขาเพิ่งสอบ GCSE เมื่อปีที่ผ่านมา

นั่นเองที่ทำให้มีแฟนๆ กีฬาปาเป้าบางส่วนตะโกนแซวเขาว่า “นายยังต้องไปโรงเรียนในตอนเช้า” ระหว่างแมตช์ที่เขาแข่งขันอยู่เลย และเขาไม่ได้รังเกียจเสียงตะโกนนั้นของแฟนๆ ด้วย

นอกจากนี้อีกสิ่งที่เขาแสดงออกมาว่าเขายังคงเป็นเด็กวัยรุ่น คือการฉลองในแบบของเขา โดยหลังจากเอาชนะ แอนดรูว์ กิลดิง ในรอบที่ 2 เขาเลือกที่จะฉลองมันด้วยการกินเคบับและดื่มน้ำส้มบรรจุกระป๋องยี่ห้อแทงโก้ ซึ่งทำให้ต่อมาเขาได้รับสปอนเซอร์เป็นเคบับฟรีตลอดชีวิตจากร้านเคบับแห่งหนึ่งในลอนดอนด้วย

ลิตต์เลอร์เคยให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports ถึงชีวิตประจำวันของเขาด้วย และมันธรรมดาอย่างน่าเหลือ โดยเขากล่าวว่า “ผมแค่ตื่นนอน เล่น Xbox กินข้าว ปาเป้าใส่บอร์ด และเข้านอน แค่นั้นก็พอแล้ว”

นอกจากนี้เขาเพิ่งให้สัมภาษณ์หลังคว้ารองแชมป์โลกด้วยว่า เงินรางวัลที่ได้มา 200,000 ปอนด์นั้น เขาวางแผนจะใช้บางส่วนของมันแบบเด็กวัยรุ่นทั่วไป โดยกล่าวว่า “ผมมักจะให้รางวัลตัวเองด้วยชุดวอร์มของอันเดอร์ อาร์เมอร์ และอาจจะซื้อเสื้อโค้ตตัวใหม่ รวมไปถึงใช้เงินบางส่วนเติมฟีฟ่าพอยต์ (ปัจจุบันคือเอฟซีพอยต์) ใน Xbox ของผม ซึ่งบางทีนั่นอาจจะมากทีเดียว”

อนาคตที่รออยู่

ลิตต์เลอร์ขยับขึ้นมาอยู่ใน 32 อันดับแรกของการจัดอันดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้ในปีนี้เขาจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าแข่งขันระดับอาชีพตลอดฤดูกาล 2024 ด้วย

และถ้าทุกอย่างไปได้สวย สักวันเขาอาจได้รับโอกาสลงแข่งขันในศึกดาร์ตส์พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกเป้าหมายเลข 1 ของโลกที่จะจัดขึ้นทั่วยุโรป ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม โดยลีกนี้จะเปิดให้ผู้เล่นที่ดีที่สุดเพียงแค่ 8 คนเท่านั้นได้เข้าร่วม

สุดท้ายกับการกลับมาล้างตาในศึกชิงแชมป์โลกปีหน้า ก็เป็นอีกสิ่งที่หลายคนอาจจะรอดู เพราะเมื่อหนุ่มน้อยวัย 17 ปี โตขึ้นอีก 1 ปี ฝีมือเขาจะพัฒนาขึ้นไปแค่ไหน แล้วในวันนั้น เขาจะดีพอหรือยังที่จะคว้าแชมป์โลกไปครอง

อ้างอิง: