‘SAP’ บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ในเยอรมนี ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 3,000 คน หรือประมาณ 2.5% จากพนักงานทั่วโลก เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายกว่า 11,500 ล้านบาท พร้อมลุยธุรกิจคลาวด์มากขึ้น
Reuters รายงานว่า เมื่อสถานการณ์โลกต้องเผชิญวิกฤตโควิด สงครามรัสเซียและยูเครน ที่เป็นตัวแปรทำให้บริบทต่างๆ เปลี่ยนไป แน่นอนว่าทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของบรรดาธุรกิจทั้งรายเล็กและรายใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- การเลิกจ้างผ่านพ้นไป แล้วยังไงต่อ? ผู้เชี่ยวชาญชี้ พนักงานผู้รอดชีวิตจากการเลิกจ้างมีความเครียดพุ่งสูงขึ้น
- ตามมาอีกราย! ‘Google’ เตรียมปลดพนักงาน 12,000 ตำแหน่ง คิดเป็น 6% ของแรงงานทั่วโลก
- 5 อันดับ บริษัทเทคฯ และเมืองที่เลิกจ้างมากที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2022
โดยเฉพาะกระแสการปลดพนักงานของยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่เป็นเสียงฮือฮามาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 เริ่มจาก Meta เจ้าของ Facebook ได้ปลดพนักงานออกกว่า 11,000 คน
กระทั่งช่วงต้นปี 2023 บริษัท Microsoft ได้ปลดพนักงานออกกว่า 11,000 คน ตามด้วย Amazon ก็ได้ปลดพนักงานไปกว่า 18,000 คน
ล่าสุดถึงคิวของ SAP บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ในเยอรมนี เตรียมเลิกจ้างพนักงานกว่า 3,000 คน โดยคิดเป็น 2.5% จากจำนวนพนักงานทั่วโลก ทั้งนี้ ก็เพื่อลดต้นทุน และต้องการหันมาเน้นธุรกิจคลาวด์มากขึ้น
Luka Mucic ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน SAP กล่าวว่า การเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่จะทำให้บริษัทประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายระหว่างปี 2023-2024 ได้ถึง 300-350 ล้านยูโร (9,860-11,500 ล้านบาท) โดยพนักงานในสำนักงานใหญ่จะถูกปลดออกเพียง 200 คน นอกนั้นจะกระจายไปตามสำนักงานเล็กๆ
ทั้งนี้ บริษัทจะมุ่งให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจคลาวด์ เนื่องจากมีแนวโน้มเติบโตขึ้น เห็นได้จากช่วงไตรมาสที่ 4 มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% หลักๆ มาจากดีมานด์การใช้งานซอฟต์แวร์ของลูกค้าเพิ่มขึ้น
รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรอย่าง BMW บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจมากขึ้น
อ้างอิง: