นักการเมืองจากพรรคโซเชียลเดโมแครตและพรรคกรีนแห่งเยอรมนี เสนอให้มีการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ให้เป็นมาตรฐานที่อัตรา 19% เพื่อนำไปยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ จากที่ปัจจุบันรัฐบาลลดภาษีเนื้อสัตว์ลง 7%
เฟเดริก โอสเตนดอร์ฟ โฆษกด้านนโยบายเกษตรกรรมของพรรคกรีน ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น The Local ว่า ไม่ควรลดภาษีมูลค่าเพิ่มในเนื้อสัตว์ เพราะแม้แต่การซื้อนมข้าวโอ๊ตยังต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มที่อัตรา 19% พร้อมให้ความเห็นว่า นโยบายนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย
ขณะที่ อัลเบิร์ด สเติร์กแมน โฆษกด้านนโยบายเกษตรกรรมของพรรคคริสเตียนเดโมแครติกยูเนียนแห่งเยอรมนี ซึ่งเป็นพรรคของ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ได้แสดงท่าทีสนับสนุน โดยระบุว่า เป็นนโยบายที่สร้างสรรค์ โดยรายได้จะถูกนำไปใช้เป็นเบี้ยสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อส่งเสริมเกษตรกรที่ทำปศุสัตว์ในระหว่างที่มีการปรับโครงสร้าง
อย่างไรก็ตาม สื่อในเยอรมนีรายงานว่า พรรคเลฟต์, พรรคอัลเทอร์เนทีฟ ฟอร์ เยอรมนี รวมถึงสมาคมเกษตรกรเยอรมันไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว
กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตของ REWE รายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2011 ชาวเยอรมันบริโภคเนื้อสัตว์ลดลง และมีผู้บริโภคมังสวิรัติกว่า 8 ล้านคน หรือคิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด ทำให้ราคาอาหารปราศจากเนื้อสัตว์แพงขึ้นทั่วประเทศ และงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยลอนดอนระบุว่า ประเทศพัฒนาแล้วต้องลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลง 80% ถึงจะช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมได้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: