ชาวจอร์เจียนับพันประท้วงต้านกฎหมาย ‘ตัวแทนต่างชาติ’

การประท้วงในจอร์เจียยังคงดุเดือดต่อเนื่องเป็นวันที่สองเมื่อวานนี้ (8 มีนาคม) โดยประชาชนหลายพันคนได้มาชุมนุมกันในกรุงทบิลีซี เมืองหลวงของประเทศ หลังจากที่รัฐสภาสนับสนุนร่างกฎหมาย ‘ตัวแทนต่างชาติ’ ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นกฎหมายที่จะปิดกั้นเสรีภาพของสื่อมวลชนและพลเมือง

โดยวานนี้ผู้ประท้วงได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ปราบปรามจลาจล ซึ่งมีการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและสเปรย์พริกไทยเข้าสลายการชุมนุมด้วย ขณะที่รัฐบาลระบุว่า มีตำรวจประมาณ 50 นายที่ได้รับบาดเจ็บ และมีอุปกรณ์ของทางการได้รับความเสียหาย โดยมีผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมทั้งสิ้น 66 คนด้วยกัน

สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าวระบุว่า องค์กรนอกภาครัฐและองค์การสื่อที่ได้รับทุนสนับสนุนจากต่างชาติเกิน 20% จะต้องไปขึ้นทะเบียนเป็น ‘ตัวแทนต่างชาติ’ หากฝ่าฝืนอาจต้องถูกปรับเป็นเงินจำนวนมาก หรืออาจถูกจำคุก

ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับกฎหมายของรัสเซียที่ประกาศใช้เมื่อปี 2012 ก่อนที่จะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อปราบปรามผู้ที่เห็นต่าง รวมถึงองค์กร NGO และสื่อที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก และอาจปิดโอกาสไม่ให้จอร์เจียเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ได้ในอนาคต

เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นความล้มเหลวอย่างใหญ่หลวง และจะกระทบต่อสิทธิบางประการของชาวจอร์เจีย ขณะที่ โจเซป บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงของ EU กล่าวเตือนว่า กฎหมายนี้ ‘ไม่สอดคล้องกับค่านิยมและมาตรฐานที่ EU ยึดถือ’ ในช่วงเวลาที่ EU กำลังอยู่ระหว่างพิจารณารับรองสถานะการเป็นผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่

“อย่างที่เราทุกคนรู้กัน นี่เป็นกฎหมายรัสเซีย…เราไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป เราต้องการเป็นผู้สนับสนุนตะวันตก” ผู้ประท้วงคนหนึ่งเปิดเผยกับสื่อมวลชน

ขณะเดียวกัน ซาโลเม ซูราบิชวิลี ประธานาธิบดีจอร์เจีย ได้กล่าวผ่านวิดีโอเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 มีนาคม) โดยเธอได้ออกตัวสนับสนุนผู้ประท้วงว่า “ฉันอยู่เคียงข้างคุณ วันนี้คุณเป็นตัวแทนของจอร์เจีย จอร์เจียจะไม่ยอมให้ใครมาพรากอนาคต (ในการเป็นสมาชิก EU) ไป”