รัฐจอร์เจียของสหรัฐฯ เสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบผลนับคะแนนเลือกตั้งโดยยืนยันว่า โจ ไบเดน ผู้สมัครจากเดโมแครต ชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ และไม่พบการทุจริตในวงกว้างตามที่ทีมหาเสียงของรีพับลิกันกล่าวหา
ผลการนับคะแนนสุดท้ายจากคณะผู้ตรวจสอบพบว่า ไบเดนชนะทรัมป์ในรัฐจอร์เจียจำนวน 12,284 คะแนน ซึ่งต่ำกว่าผลการนับคะแนนก่อนที่จะมีการตรวจสอบไม่มากนัก โดยมีความคลาดเคลื่อนไม่ถึง 0.73% ในเขตเคาน์ตีต่างๆ ขณะที่ระยะห่างระหว่างคะแนนโหวตของไบเดนกับทรัมป์มีไม่ถึง 0.5%
เจ้าหน้าที่ยังยืนยันด้วยว่า การตรวจสอบครั้งนี้ไม่พบกรณีการโกงเลือกตั้งในวงกว้าง หรือความผิดปกติในการลงคะแนนเสียงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ตามกฎหมายของมลรัฐจอร์เจีย จะต้องรับรองผลการเลือกตั้งภายในวันศุกร์นี้ (20 พฤศจิกายน)
“การตรวจสอบการเลือกตั้งทั่วรัฐจอร์เจียยืนยันว่า ระบบการโหวตด้วยบัตรลงคะแนนกระดาษมีการนับคะแนนและรายงานผลอย่างถูกต้อง” แบรด ราฟเฟนส์เพอร์เกอร์ เลขาธิการรัฐจอร์เจียจากพรรครีพับลิกันระบุในคำแถลง
“สิ่งนี้เป็นผลจากการทำงานหนักของเจ้าหน้าที่เลือกตั้งระดับเคาน์ตีและระดับท้องถิ่น ที่เสร็จสิ้นภารกิจภายในระยะเวลาอันสั้น”
รัฐจอร์เจียถือเป็นรัฐสวิงสเตทที่เป็นสมรภูมิขับเคี่ยวระหว่างผู้สมัครจากรีพับลิกันและเดโมแครต โดยมีจำนวนผู้แทนคณะเลือกตั้ง (Electoral College) 16 เสียง ซึ่งหลังจากสื่อประกาศให้ไบเดนชนะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมหาเสียงของทรัมป์ได้ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง พร้อมยื่นเรื่องให้รัฐดังกล่าวนับคะแนนใหม่ นอกจากจอร์เจียแล้ว ทรัมป์ยังไม่ยอมรับและต้องการให้ตรวจสอบผลการนับคะแนนในรัฐเพนซิลเวเนียด้วยเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: