จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังวัย 92 ปี ออกมายืนยันว่าเขาได้ส่งมอบอำนาจในการบริหารพอร์ตการลงทุนมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 8.66 แสนล้านบาทของเขาให้กับลูกชายวัย 37 ปี อเล็กซ์ โซรอส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลจาก Forbes ระบุว่า ปัจจุบันโซรอสคนพ่อยังคงมีชื่อติดทำเนียบ 1 ใน 400 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยเขายังมีมูลค่าทรัพย์สินเหลืออยู่ในนามส่วนตัวราว 6.7 พันล้านดอลลาร์
ย้อนกลับไปในปี 2017 จอร์จ โซรอส ได้ทำการโยกย้ายทรัพย์สินจำนวน 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์มาอยู่ภายใต้ Open Society Foundations องค์กรที่ให้เงินสนับสนุนกิจกรรมการกุศลอยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่ง อเล็กซ์ โซรอส ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นประธานตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ในการสัมภาษณ์พิเศษล่าสุดกับ The Wall Street Journal อเล็กซ์ โซรอส ได้ส่งสัญญาณว่าอาณาจักรโซรอสในยุคของเขาจะเข้าไปมีบทบาทให้การสนับสนุนเงินทุนให้กับพรรคเดโมแครตมากขึ้นกว่าในยุคพ่อของเขา เนื่องจากเขาไม่ต้องการเห็น โดนัลด์ ทรัมป์ ของฝั่งรีพับลิกัน กลับมาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อีกครั้ง
“มันคงเป็นเรื่องดีถ้าเราแยกเรื่องเงินกับการเมืองออกจากกันได้ แต่ตราบใดที่ฝ่ายตรงข้ามยังใช้วิธีการนี้ เราก็ต้องทำแบบเดียวกัน” โซรอสคนลูกกล่าว
ตระกูลโซรอสเป็นที่รู้จักในฐานะผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของพรรคเดโมแครต โดยมีการบริจาคเงินให้กับพรรคมากถึง 140 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 นอกจากนั้นในปี 1992 จอร์จ โซรอส เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้ที่เอาชนะธนาคารกลางอังกฤษได้หลังเขาทำกำไรจากการช็อตเงินปอนด์สเตอร์ลิงได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์
ต่อมาในปี 1997 เขายังเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘พ่อมดการเงินตัวแสบ’ ผู้ถูกกล่าวหาว่าโจมตีค่าเงินบาทและอีกหลายสกุลในเอเชีย จนนำไปสู่วิกฤตต้มยำกุ้ง
ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนเคยคาดการณ์ว่า โจนาธาน โซรอส ลูกชายคนโตของจอร์จและเป็นพี่ชายต่างแม่ของอเล็กซ์ น่าจะเป็นผู้ที่ก้าวขึ้นมารับหน้าที่กุมบังเหียนอาณาจักรการเงินของโซรอสต่อจากพ่อของเขา แต่ล่าสุดจอร์จได้เปิดเผยกับสื่อว่า อเล็กซ์คือคนที่เขาไว้วางใจให้เข้ามาสืบทอดธุรกิจมากที่สุด
อ้างอิง:
