Google ร่วมกับกันตาร์ เปิดเผยผลวิจัย ‘Gearshift 2019: Purchase Journey of Thai New Car Buyers’ ที่ว่าด้วยพฤติกรรมของคนไทยในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ใหม่ ซึ่งเก็บข้อมูลระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายนที่ผ่านมา จากกลุ่มผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ในไทยกว่า 520 คน
โดยพบข้อมูลที่น่าสนใจ ทั้งในแง่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการทำเครื่องมือ Touch Point ต่างๆ ที่อาจจะมีแนวโน้มช่วยให้แบรนด์รถยนต์ทำการตลาดได้ดียิ่งขึ้น
Google ระบุว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันมี Brand Loyalty หรือความภักดีต่อแบรนด์ลดน้อยลงจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ โดยกว่า 62% ของคนไทยที่ซื้อรถยนต์ใหม่ตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์แบรนด์ที่ต่างจากเดิม ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 6% ปัจจัยสำคัญมาจากความประหยัดเชื้อเพลิง ความเสถียรของตัวรถ และความหลากหลายของตัวเลือกในการปรับแต่งรถ
ขณะที่ 99% ของคนที่ซื้อรถใช้เสิร์ชเอนจินในการหาข้อมูลรถยนต์ทั้งสิ้น ในจำนวนนี้มีมากถึง 80% ที่กดคลิกเข้าไปหาข้อมูลบนเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อรถ ขณะที่ YouTube และคอนเทนต์วิดีโอในช่องทางต่างๆ ก็เป็นอีกแหล่งข้อมูลที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ของกลุ่มตัวอย่างถึง 98%
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ กลุ่มตัวอย่างที่เริ่มมองหารถคันใหม่ เพราะได้รับการปรับเงินเดือนขึ้นกว่า 45% จะใช้เวลาหาข้อมูลน้อยกว่า 6 เดือนก่อนการตัดสินใจซื้อ ขณะที่อีก 55% จะใช้เวลามากกว่า 6 เดือนก่อนการตัดสินใจซื้อ
ถึงอย่างนั้นก็ดี เสียงสะท้อนจากกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เว็บไซต์แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ควรจะปรับปรุงและพัฒนา UX ให้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งระยะเวลาการโหลดหน้าเว็บ ข้อมูลสำหรับการติดต่อ และประสบการณ์เว็บไซต์บนมือถือ
ส่วนนักการตลาดที่ดูแลแบรนด์รถยนต์ Google แนะนำว่า ควรจะเริ่มนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องและมีประโยชน์ในทุก Touch Point ที่ลูกค้าจะเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ที่พวกสนใจ ทั้งเสิร์ชเอนจิน YouTube และเว็บไซต์ของแบรนด์ ตลอดจนสร้างกลยุทธ์การสื่อสารแบบ Always-On เพื่อเข้าหาผู้บริโภคตั้งแต่ช่วงเริ่มหาข้อมูลจนถึงช่วงการตัดสินใจ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
