KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ปรับประมาณการอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยลงอีกครั้งจากที่เคยคาดว่าจะติดลบ 2.4% เป็นลงลึกติดลบถึง 6.8% จากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้หดตัวลึก และยาวนานยิ่งขึ้นกว่าที่เคยประเมินว่า
ในรายงานปรับลดการคาดการณ์ KKP Researh ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญ 3 ด้าน คือ
- เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงกว่าที่เคยคาดไว้
โดยมาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นที่มาของมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในหลายประเทศ ประกอบกับล่าสุด Bank of America ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจลดลงอย่างหนัก โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะติดลบ 6% สหภาพยุโรปติดลบ 7.6% ส่วนเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้เพียง 1.2% ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกหดตัว 2.7% จากประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัว 0.3% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงกว่าในช่วงเศรษฐกิจถดถอยปี 2009
- มาตรการปิดเมืองและ Social Distancing ที่เข้มข้นขึ้น
รัฐบาลไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศ มีการประกาศปิดร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่ต่างๆ เป็นวงกว้าง รวมถึงล่าสุดมีการประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคสินค้าและบริการภายในประเทศมากกว่าที่เคยประเมินไว้
- การประกาศปิดการเข้าออกระหว่างประเทศ
รวมทั้งการประกาศปิดเมืองในหลายจังหวัด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดข้ามจังหวัด จะส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและภายในประเทศได้รับผลกระทบหนักขึ้นไปอีกจากที่เคยคาดไว้ในการประเมินครั้งก่อน
นอกจากนี้ KKP Research ยังประเมินอัตราว่างงานจากผลกระทบของโควิด-19 ในประเทศไทย โดยระบุว่า เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 นี้จะทำให้เกิดภาวะการว่างงานเป็นวงกว้าง โดยภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ โรงแรมและร้านอาหาร ภาคการค้า และภาคการขนส่ง มีการจ้างงานรวมถึง 10.1 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของการจ้างงานรวมทั้งประเทศ และในจำนวนนี้เป็นการจ้างงานนอกระบบถึง 5.6 ล้านคน หรือ 55%
ดังนั้น ผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อธุรกิจเหล่านี้จะส่งผลให้แรงงานจำนวนมากต้องถูกเลิกจ้าง หรือถูกขอให้หยุดงานชั่วคราว นอกจากนี้ ภาคธุรกิจอื่นๆ เช่น ภาคการผลิต ภาคการก่อสร้าง และบริการอื่นๆ ก็จะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าอาจมีการว่างงานสูงถึง 5 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน 13% ในช่วงกลางปีนี้ ก่อนที่สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ในรายงานดังกล่าว KKP Reserch มองว่ามีความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องมีมาตรการเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนใน 3 ด้าน คือการจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนให้งานด้านสาธารณสุข เพื่อเพิ่มความสามารถในการตรวจ สอบสวน คัดแยก และรักษาผู้ติดเชื้อ มาตรการทางการคลังระยะสั้น ลดภาระของผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการต่างๆ ของรัฐ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรองรับแรงงาน และมาตรการด้านการเงินเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในระบบการเงิน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์