“กัตตูโซเป็นสัญลักษณ์ของวงการฟุตบอลอิตาลี เสื้อสีน้ำเงินเปรียบเสมือนผิวหนังชั้นที่สองของเขา
“แรงบันดาลใจ ความเป็นมืออาชีพ และประสบการณ์ของเขาจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการรับมือกับภารกิจต่างๆ ของทีมชาติในอนาคต”
นั่นคือเหตุผลที่ กาบริเอเล กราวินา ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี หรือ FIGC กล่าวต่อหน้าสื่อมวลชน ถึงเหตุผลที่ว่าทำไมต้องเป็น เจนนาโร ‘ริโน’ กัตตูโซ เทรนเนอร์มาดดุคนนี้ ที่จะเข้ามาเป็นอิลซีทีของทีมชาติอิตาลีคนใหม่
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่หวยมาออกที่ริโนอาจจะเรียบง่ายกว่านั้น เพราะว่าในตอนนี้ทีมชาติอิตาลี ‘ไม่มีใครแล้ว’
คำว่า ‘ไม่มีใคร’ ในที่นี้อาจไม่ได้หมายความว่าไม่มีโค้ชที่มีคุณภาพพอจะมาคุมทีมชาติอิตาลี แต่หมายถึงไม่มีใครอยากจะรับ ‘เผือกร้อน’ ในการคุมทีมชาติอิตาลีในสภาพปัจจุบันมากกว่า
แม้จะเป็นมหาอำนาจลูกหนัง และเพิ่งคว้าแชมป์ยูโร 2020 มาเมื่อปี 2021 แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทัพ ‘อัซซูรี’ ในตอนนี้เต็มไปด้วยปัญหา
หนึ่งในนั้นคือปัญหาการขาดกองหน้า จนอิตาลีต้องเรียกตัว มัตเตโอ เรเตกี ลูกครึ่งอิตาลี ที่เกิดและเติบโตในอาร์เจนตินา และเล่นให้โบคา จูเนียร์ส มาติดทีมชาติในปี 2023 ซึ่งสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างได้บางส่วน
เมื่อเวลาผ่านไป ปัญหาดังกล่าวยิ่งชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเรื่องระบบเยาวชนและการสร้างนักเตะเพื่อป้อนสู่ทีมชาติ
อะคาเดมีในอิตาลีหลายแห่งถูกใช้เป็นเครื่องมือหาเงินมากกว่าพัฒนานักเตะ ดาวรุ่งจำนวนมากถูกปล่อยยืมหรือขายให้สโมสรเล็กๆ แบบไร้แผนการพัฒนา จนนักเตะไม่สามารถสะสมพัฒนาการและเติบโตเป็นนักเตะชั้นนำได้
แม้แต่สโมสรใหญ่อย่างยูเวนตุส ก็ยังขายดาวรุ่ง Next Gen เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน เช่นเดียวกับเอซี มิลาน และอาแอส โรมา ที่แม้จะเคยมีอะคาเดมีคุณภาพ แต่วันนี้ต้องเผชิญปัญหาทางการเงินอย่างหนัก
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ สโมสรต่างๆ ไขว่คว้าความสำเร็จระยะสั้น ด้วยการดึงนักเตะอายุน้อยจากลีกเล็กๆ ในราคาถูกมาใช้งาน เมื่อประสบความสำเร็จก็ปล่อยตัวในราคาแพง ทำให้ไม่มีพื้นที่ให้พัฒนานักเตะท้องถิ่นต่อยอด
เทียบกับชาติอื่นในยุโรป อย่างฝรั่งเศสที่คว้าแชมป์โลกด้วยนักเตะพรสวรรค์สูง และมีโค้ชที่รู้จักใช้จุดแข็งของนักเตะให้เกิดประโยชน์
เยอรมนีก็กำลังฟื้นตัวภายใต้โค้ชหนุ่มอย่าง ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ที่ปรับใช้สไตล์บุนเดสลีกากับทีมชาติอย่างสอดคล้อง
ส่วนสเปนก็ให้โอกาสนักเตะอายุน้อยในประเทศ ภายใต้ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต ที่เคยคุมทีมชุดเยาวชนมาก่อน
กลับกัน อิตาลีกลับขาดความต่อเนื่องทั้งด้านอัตลักษณ์และระบบฟุตบอล ไม่มีรากฐานที่ชัดเจนในปัจจุบัน
ปัญหานี้ทำให้ไม่มีโค้ชคนไหนอยากเอาชื่อเสียงมาเสี่ยง แม้แต่ ลูเซียโน สปัลเล็ตติ ที่พยายามนำระบบฟุตบอลสมัยใหม่แบบ Relationist มาใช้ แต่กลับไม่สามารถรับมือกับโครงสร้างเดิมที่ไม่พร้อมเปลี่ยนแปลงได้
ในบริบทนี้ กัตตูโซจึงถูกเลือก ด้วยภาพลักษณ์ของโค้ชสายบู๊ ผู้มีระเบียบวินัยสูง และเป็นคนที่พร้อมรับเผือกร้อนมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นตอนรับงานต่อจาก วินเซนโซ มอนเตลลา ที่เอซี มิลาน, คาร์โล อันเชลอตติ ที่นาโปลี หรือ มาร์เซลินโญ ที่มาร์กเซย
แม้ผลงานที่ผ่านมาอาจไม่โดดเด่น แต่การแต่งตั้งเขาอาจเป็นการ ‘ขายผ้าเอาหน้ารอด’ เพื่อสร้างความมั่นคงชั่วคราว มากกว่าการแก้ปัญหาระยะยาวของฟุตบอลอิตาลี
FIGC อาจใช้ชื่อเสียงของกัตตูโซเป็นเกราะกำบังเสียงวิจารณ์ไปก่อน โดยไม่กล้าลงมือกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่แท้จริง
และด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ คนที่จะรับเผือกร้อนของอิตาลีในตอนนี้ จึงต้องเป็น ริโน กัตตูโซ เท่านั้น
ภาพ: Bryn Lennon / Instagram
อ้างอิง:
- https://sports.yahoo.com/article/why-italy-appointment-rino-gattuso-170500715.html
- https://football-italia.net/buffon-confirms-gattuso-italy-best-decision/
- https://www.beinsports.com/en-us/soccer/world-cup/articles-video/what-gennaro-gattuso-needs-as-italy-s-new-coach-to-qualify-for-the-2026-world-cup-2025-06-15
- https://www.theguardian.com/football/2025/jun/15/italy-azzurri-appoint-gennaro-gattuso-new-head-coach