ยิ่งใหญ่อลังการสมคำร่ำลือสำหรับ FX’s Shōgun ซีรีส์ฟอร์มยักษ์จาก Disney+ Hotstar ที่ได้คะแนนเปิดตัวจาก Rotten Tomatoes ถึง 100% ผลงานการสร้างของ Justin Marks (Top Gun: Maverick) และ Rachel Kondo ดัดแปลงจากนิยายขายดีของ James Clavell ในปี 1975 ซึ่งเคยถูกสร้างเป็นมินิซีรีส์รางวัล Emmy Awards มาแล้วในปี 1980
นิยายเรื่อง Shogun ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของ วิลเลียม อดัมส์ ชาวอังกฤษที่จับพลัดจับผลูเข้าไปที่ญี่ปุ่นช่วงปลายยุคสงครามกลางเมืองเซนโกคุ และได้ทำงานรับใช้ โทกุงาวะ อิเอยาซุ ด้วยการนำเทคโนโลยีทางการเดินเรือสมัยใหม่มาใช้ จนทำให้กองเรือของญี่ปุ่นสามารถทำการค้าขายไปยังสถานที่ต่างๆ เกือบทั่วโลก จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นซามูไรผิวขาวคนแรก และได้ชื่อใหม่ในภาษาญี่ปุ่นว่า มิอุระ อันจิน ซึ่งชื่อนี้กลายเป็นที่ยกย่องและเป็นชื่อสถานที่ต่างๆ ในญี่ปุ่น อย่างเช่นย่าน Nihonbashi ในกรุงโตเกียวก็เคยถูกเรียกว่า Anjin-Cho มาก่อน
นิยายเล่มนี้ประสบความสำเร็จมากในยุคนั้น เพราะเป็นนิยายเล่มแรกๆ ที่ว่าด้วยเรื่องวัฒนธรรมญี่ปุ่นในอเมริกานับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง จนถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์นำแสดงโดย ริชาร์ด แชมเบอร์เลน และ โทชิโร มิฟูเนะ นักแสดงระดับตำนานของญี่ปุ่น ด้วยเนื้อหาที่แปลกใหม่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง อย่างไรก็ตาม การเล่าเรื่องราวยังใช้มุมมองของคนผิวขาวเป็นหลัก แม้แต่บทสนทนาในภาษาญี่ปุ่นก็ยังไม่ได้รับการแปล สิ่งที่ได้เห็นในเวอร์ชันล่าสุดจึงเป็นการแก้ไขในจุดนี้ ทำให้ได้เห็นทั้งแนวคิดและความเชื่อจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
FX’s Shōgun เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1600 ช่วงปลายยุคเซนโกคุ บ้านเมืองของญี่ปุ่นกำลังระส่ำระสายหลังจากการตายของโชกุนไทโกะ โดยทิ้งทายาทที่อายุน้อยเอาไว้ เขาวางหมากให้ตั้งสภาผู้สำเร็จราชการ 5 คนดูแลการปกครองจนกว่าลูกชายจะบรรลุนิติภาวะ หนึ่งในนั้นคือ โยชิอิ โทรานางะ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ) ไดเมียวผู้น่าเกรงขามและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม ทำให้ผู้สำเร็จราชการคนอื่นๆ เริ่มวางแผนกำจัดเขาไปให้พ้นทาง
ในขณะที่โทรานางะกำลังรับศึกแบบ 4 รุม 1 เรือของ จอห์น แบล็กธอร์น (คอสโม จาร์วิส) ก็เกยตื้นที่ชายฝั่งของญี่ปุ่น เขาถูกจับเป็นนักโทษ และถูกมองว่าเป็นคนนอกรีตเพราะนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ขณะที่ชาวตะวันตกส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นคือชาวโปรตุเกสนับถือคาทอลิก รวมถึงเหล่าชนชั้นสูงในขณะนั้นด้วย โทรานางะเห็นประโยชน์บางอย่างจากชาวตะวันตกคนนี้จึงใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง นำไปสู่เรื่องราวชีวิตของคนนอกที่กลายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโชกุนที่ยิ่งใหญ่ท่ามกลางเกมการเมืองและความขัดแย้งทางศาสนา
FX’s Shōgun เปิดตัวสองตอนแรกด้วยการปูเรื่องราวความเป็นมาของตัวละคร จอห์น แบล็กธอร์น และโครงสร้างอำนาจอันซับซ้อนของญี่ปุ่นในยุคนั้น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามีหลายส่วนที่อาจจะทำให้คนดูรู้สึกงงๆ ในช่วงแรก ก่อนจะได้รับการคลี่คลายด้วยการบรรยายรายละเอียดของตัวละครและฐานอำนาจที่โยงใยทั้งเงินตราและศาสนาเข้าไว้ด้วยกัน และอีกส่วนที่เห็นได้ชัดในสองตอนแรกคือการใช้เรื่องของการแปลภาษาเข้ามาในเรื่อง ซึ่งให้ทั้งอรรถรสกับคนดูในแง่ของการรับรู้ข้อมูลเท่าๆ กับตัวละคร และยังสร้างมิติให้กับตัวละครอย่างเช่น โทดะ มาริโกะ (แอนนา ซาวาย) ล่ามสตรีสูงศักดิ์ผู้นับเป็นคาทอลิก แต่ต้องมาแปลภาษาให้กับคนที่คิดว่าเป็นศัตรู ก็ถือเป็นการวัดใจว่าเธอยืนหยัดอยู่ฝั่งความถูกต้องหรือความเชื่อที่เธอเองยึดถือ อีกทั้งการตัดต่อที่ให้เห็นการตอบโต้กันระหว่าง 2 ภาษาแม้จะฟังกันไม่ออก แต่ก็ไม่ได้ลดความเข้มข้นของอุณหภูมิการเมืองในเรื่องเลย
นอกจากนี้ยังปูทางจากความแตกต่างของคาแรกเตอร์ตัวละคร นำไปสู่การสำรวจธีมหลักของซีรีส์แนวซามูไร เช่น เกียรติยศ หน้าที่ ความภักดี ความเชื่อ และชนชั้น ล้อไปกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ทำให้นิยามคำเหล่านี้ออกมาแตกต่างกัน ทั้งความเชื่อและความภักดีในแบบตะวันตกของ จอห์น แบล็กธอร์น ความศรัทธาในศาสนาอย่างแท้จริงของมาริโกะ หรือเกียรติยศแบบเสียหน้าไม่ได้ของ คาชิงิ ยาบุชิเงะ (ทาดาโนบุ อาซาโนะ) และศักดิ์ศรีที่น่าเกรงขามของโทรานางะ ทั้งหมดคือการหารเฉลี่ยให้เรื่องราวมีมุมมองที่หลากหลายมากกว่าการใช้เลนส์ของคนผิวขาวมองเรื่องราวของคนฝั่งตะวันออกแบบซีรีส์โปรดักชันอื่นๆ จากฮอลลีวูดที่เคยมีมา
อีกสิ่งที่น่าสนใจคือคุณภาพการแสดง โดยเฉพาะกับบทบาทของโทรานางะที่ได้นักแสดงญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง ฮิโรยูกิ ซานาดะ มาสวมบทบาทไดเมียวผู้มีความทะเยอทะยานแฝงอยู่ในท่าทางสุขุมน่าเกรงขามตามแบบฉบับชนชั้นสูงของญี่ปุ่น และยังรับตำแหน่งโปรดิวเซอร์คอยควบคุมรายละเอียดเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นในเรื่อง ทั้งอุปกรณ์ประกอบฉาก เครื่องแต่งกาย ท่าทางการแสดงออก โดยใช้ทีมผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นที่ว่ากันว่ารายละเอียดต่างๆ ในเรื่องนี้ แม้แต่คนญี่ปุ่นบางคนยังไม่รู้จักเลย ส่วนอีกหนึ่งนักแสดงที่น่าชื่นชมคือ แอนนา ซาวาย ผู้รับบท ทาดะ มาริโกะ สาวสูงศักดิ์ที่เกิดในตระกูลมีมลทินผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถรอบด้าน แต่ต้องเก็บเอาไว้ภายใต้กรอบความเป็นผู้หญิงในยุคนั้น ซึ่งทำออกมาได้อย่างมีมิติน่าสนใจ
ไม่น่าเชื่อว่า FX’s Shōgun ไม่ได้ถ่ายทำในญี่ปุ่นเลย แต่ใช้เวลาถ่ายทำในแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เป็นเวลา 10 เดือน โดยเนรมิตเมืองชายฝั่งและปราสาทของญี่ปุ่นในยุคศักดินาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังใส่ใจรายละเอียด แม้แต่นักแสดงประกอบฉากยังต้องมีการฝึกท่าทางการเคลื่อนไหว และการต่อสู้ด้วยดาบซามูไร เพื่อความสมจริงและถูกต้องของเรื่องอีกด้วย
เรียกได้ว่า FX’s Shōgun คือผลงานซีรีส์แบบตะวันตกพบตะวันออกที่เข้าขั้นสมบูรณ์แบบ ยิ่งผนวกกับความเข้มข้นในอีก 8 ตอนที่เหลือ ก็เชื่อแน่ว่าฉายาที่นักวิจารณ์ฝั่งตะวันตกนิยามว่านี่จะเป็น Game of Thrones เวอร์ชันเอเชียก็คงไม่เกินจริง
อ้างอิง: