กระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (Federal Trade Commission) ได้ออกชุดการปรับปรุงร่างแนวทางการควบรวมกิจการของประเทศที่ใช้กันมานาน โดยนำเสนอการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมซึ่งอาจเกิดขึ้นกับแนวทางที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาใช้ในปัจจุบัน นับเป็นการทบทวนการควบรวมกิจการเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี เพื่อให้ระเบียบมาตรการทางกฎหมายทันยุคทันสมัยมากขึ้น
รายงานระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าวอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้ระบุ พยายามปิดกั้น หรือแก้ไขข้อตกลง ที่เชื่อว่าการควบรวมกิจการเป็นการผูกขาดทางการค้า ต่อต้านให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ร่างแนวทางปรับปรุงการควบรวมกิจการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอธิบายว่า เป็นคัมภีร์ไบเบิลด้านกฎระเบียบที่ไม่มีผลผูกมัดแต่มีอำนาจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า หน่วยงานของสหรัฐฯ กำลังปรับกรอบแนวทางของตนใหม่ในยุคของการควบรวมกิจการที่เพิ่มขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น การมุ่งเน้นตลาดแรงงานที่ชัดเจนและเจาะลึกยิ่งขึ้น อาจทำให้การตรวจสอบด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่าอาจส่งผลเสียต่อค่าจ้าง สวัสดิการ หรือแม้กระทั่งตารางงานของพนักงาน อีกส่วนหนึ่งของหลักเกณฑ์ที่ได้รับการแก้ไขมุ่งเน้นไปที่การควบรวมกิจการที่เกี่ยวข้องกับบริษัทแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับตลาดดิจิทัลและบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่มีการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกับอีคอมเมิร์ซ ความบันเทิง และอื่นๆ
เมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ว่า การควบรวมกิจการที่ไม่มีการตรวจสอบคุกคามตลาดที่เสรีและยุติธรรม ซึ่งเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยึดถืออยู่ และเชื่อมั่นว่าหลักเกณฑ์การควบรวมกิจการที่ได้รับการปรับปรุงเหล่านี้ตอบสนองต่อความเป็นจริงของตลาดสมัยใหม่ ซึ่งจะช่วยให้กระทรวงยุติธรรมสามารถปกป้องประชาชนชาวอเมริกันได้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ จากความเสียหายที่เกิดจากการควบรวมกิจการที่ละเมิดกีดกันการแข่งขันทางการค้า
ด้านเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของรัฐบาลเปิดเผยว่า ประชาชนชาวอเมริกันจะมีเวลาจนถึงวันที่ 18 กันยายนนี้ในการชั่งน้ำหนักเกี่ยวกับร่างการอัปเดตดังกล่าว ก่อนย้ำว่า แนวทางปฏิบัติเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงมุมมองบนพื้นฐานที่เหมาะสม ซึ่งแตกต่างจากร่างกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งว่าด้วยวิธีการจัดการต่างๆ สำหรับการควบรวมกิจการอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้รายงานยังระบุอีกว่า ข้อเสนอแก้ไขดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นว่า วิวัฒนาการของเทคโนโลยี ตลาด และวิธีปฏิบัติทางธุรกิจ สามารถก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อการแข่งขันที่แตกต่างจากในทศวรรษที่ผ่านมาได้อย่างไร ซึ่งทางหน่วยงานกำกับดูแลขณะนี้เองก็ยอมรับว่า หน่วยงานได้รับการยื่นเรื่องขอควบรวมกิจการมากกว่าที่หน่วยงานจะตามทัน
ยิ่งไปกว่านั้นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยังมีเป้าหมายเพื่อแทนที่เอกสารสองฉบับก่อนหน้านี้คือ คู่มือปี 2010 ที่อุทิศให้กับการควบรวมกิจการที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่งโดยตรง และเอกสารปี 2020 ซึ่งถูกถอนออกในภายหลัง โดยเน้นที่การควบรวมกิจการของบริษัทในส่วนที่แยกจากกันในห่วงโซ่อุปทานเดียวกัน ตัวอย่างหนึ่งของข้อตกลง เช่น การควบรวมกิจการในแนวดิ่งคือ การที่ Microsoft เสนอซื้อกิจการ Activision Blizzard ผู้เผยแพร่วิดีโอเกมมูลค่า 69,000 ล้านดอลลาร์ที่กำลังเป็นคดีความอยู่ในเวลานี้
ขณะเดียวกันร่างฉบับใหม่ที่ว่าด้วยการควบรวมกิจการยังมีมุมมองที่คล้ายกันต่อการควบรวมกิจการที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงของบรรดาธุรกิจขนาดเล็กว่า แม้ขนาดของข้อตกลงจะไม่มีความเสี่ยงที่กระทบต่อเศรษฐกิจ แต่การควบรวมดังกล่าวก็อาจเป็นอันตรายต่อการแข่งขัน หรือเป็นการควบรวมกิจการที่ขัดขวางคู่แข่งในอนาคตไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ในวันเดียวกันรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังได้ ประกาศเพิ่มเติมประเด็นทางกฎระเบียบหลายรายการ โดยมีเป้าหมายเพื่อมุ่งส่งเสริมการแข่งขันทั่วประเทศในแวดวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านธุรกิจ เทคโนโลยี หรือการเกษตร เป็นต้น
อ้างอิง: