ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เรียกร้องให้ยุโรปและสหรัฐฯ จัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในปริมาณ 5% ของที่ตนมีอยู่ไปยังประเทศกำลังพัฒนาอย่างเร่งด่วน หวังลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีนทั่วโลก
“เราไม่ได้พูดถึงการแจกจ่ายวัคซีนหลายพันล้านโดสในทันที หรือเงินเป็นพันๆ ล้านยูโร” ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำ 7 ชาติเศรษฐกิจชั้นนำของโลกจะเปิดฉากขึ้นแบบออนไลน์ในวันศุกร์ (19 กุมภาพันธ์)
มาครงกล่าวว่า การแบ่งปันวัคซีน “จะไม่เปลี่ยนแปลงโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนของเรา เพียงแต่ประเทศต่างๆ ควรเจียดวัคซีนจำนวนเล็กน้อยจากหลายสิบล้านโดสที่มีให้เร็วขึ้นเท่านั้น”
“มันคือการจัดสรรวัคซีน 4-5% ของปริมาณที่เรามีอยู่ให้รวดเร็วมากขึ้น”
มาครงเผยด้วยว่า อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีให้การสนับสนุนโครงการแบ่งปันวัคซีนในยุโรป พร้อมกันนี้ผู้นำฝรั่งเศสยังแสดงความหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ เช่นกัน
ด้านทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะให้คำมั่นในการจัดหาเงินทุน 4 พันล้านดอลลาร์ (2.8 พันล้านปอนด์) เพื่อสนับสนุนโครงการแบ่งปันวัคซีนทั่วโลก หรือที่รู้จักกันในชื่อ Covax
ขณะที่คาดว่า บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งเป็นประธานการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ออนไลน์ จะประกาศบริจาควัคซีนส่วนเกินให้แก่ Covax
ผู้นำฝรั่งเศสยังกล่าวต่อไปด้วยว่า หากยุโรปและสหรัฐฯ ไม่ผลักดันโครงการแบ่งปันวัคซีนให้เกิดขึ้น ก็จะเป็นการเปิดช่องให้จีนและรัสเซียก้าวเข้ามาอุดช่องว่างนี้ ซึ่งจะ “ปูทางไปสู่สงครามการสร้างอิทธิพลด้านวัคซีน”
ทั้งนี้คาดว่าในการประชุม G7 ออนไลน์ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ผู้นำกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ 7 ประเทศจะยอมรับเรื่องความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีนระหว่างประเทศที่มีรายได้สูงกับประเทศที่มีรายได้ต่ำ
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ได้ออกโรงประณามการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกที่ไม่เป็นธรรม
เลขาฯ UN กล่าวว่า 75% ของการฉีดวัคซีนทั่วโลกในขณะนี้เกิดขึ้นใน 10 ประเทศเท่านั้น ในขณะที่ 130 ประเทศยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว
ประเทศร่ำรวยถูกกล่าวหาว่ากักตุนวัคซีน โดยประเทศที่มีรายได้สูงบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักรและแคนาดา สั่งซื้อวัคซีนในปริมาณที่เพียงพอที่จะฉีดให้แก่ประชากรของตนมากกว่าหนึ่งครั้ง
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ระบุว่า จนถึงขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างน้อย 110 ล้านคนทั่วโลก และเสียชีวิตมากกว่า 2.4 ล้านคน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่า หากไม่มีการแบ่งปันวัคซีนอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่โลกจะสามารถคุมโควิด-19 ได้อย่างอยู่หมัด
ภาพ: Chesnot / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: