Free Play คืออะไร และสำคัญอย่างไรต่อเด็ก
Free Play หรือการเล่นอย่างอิสระ หมายถึงกิจกรรมที่เด็กออกแบบการเล่นด้วยตัวเอง โดยไม่มีกรอบหรือกติกาตายตัว พวกเขาเลือกว่าจะเล่นอะไร เล่นอย่างไร และเล่นกับใคร ผ่านพื้นที่หรืออุปกรณ์ที่เอื้อให้เกิดจินตนาการและการทดลอง
การเล่นในลักษณะนี้มีประโยชน์หลายมิติ เช่น
- ส่งเสริมความเป็นตัวของตัวเอง และความภาคภูมิใจในตัวเอง (Self-Esteem)
- พัฒนาความคิดยืดหยุ่น เพราะการออกแบบการเล่นต้องปรับตามบริบทต่างๆ
- กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ผ่านการคิดค้นวิธีเล่นใหม่ๆ
- เสริมทักษะการควบคุมอารมณ์และการเข้าสังคม เพราะต้องเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่น
เหตุใดการเล่นอิสระจึงถูกหลงลืมไป?
หนึ่งในสาเหตุหลักคือ “หน้าจอ” เด็กอายุ 5–17 ปีใช้เวลากับหน้าจอเฉลี่ย 4 ชั่วโมง 10 นาทีต่อวัน ซึ่งเบียดเบียนเวลาในการเล่นอิสระ ขณะเดียวกัน พ่อแม่หลายคนเข้าใจว่า การใช้เทคโนโลยีเร็วๆ จะทำให้ลูกฉลาดขึ้น และรู้สึกว่าการเล่นแบบอิสระอาจไม่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ หรืออาจเกิดอันตราย จึงจำกัดโอกาสในการเล่น
เราจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร?
พ่อแม่ต้อง “เชื่อ” ในศักยภาพของลูก และเชื่อมั่นในพื้นที่เล่นที่ปลอดภัย รวมถึงเชื่อมั่นในตัวเองว่าเป็นผู้สนับสนุนที่ดีได้โดยไม่ควบคุม ให้โอกาสลูกได้มีเวลาอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันในการเล่นอิสระ เพื่อให้พวกเขาได้เติบโตอย่างสมดุลทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม