การประท้วงในกรุงปารีสยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยวานนี้ (28 มีนาคม) กลุ่มผู้ประท้วงสวมชุดดำได้จุดไฟเผาถังขยะและมีการขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงปารีส ขณะเจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยการถือโล่พุ่งเข้าปะทะกับผู้ประท้วงและขว้างแก๊สน้ำตาเข้าใส่เพื่อพยายามสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้น ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากความไม่พอใจที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง เดินหน้าแผนปฏิรูปบำนาญ
สำหรับวานนี้ การประท้วงไม่ได้เกิดขึ้นในกรุงปารีสเพียงเมืองเดียว แต่ยังมีผู้ออกมาร่วมชุมนุมในเมืองอื่นๆ ด้วย เช่น เมืองแรนส์ (Rennes) บอร์กโดซ์ (Bordeaux) และตูลูส (Toulouse) ขณะที่ในเมืองนองต์ (Nantes) ผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาธนาคารและรถยนต์หลายคัน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของบรรยากาศการประท้วงที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้นับว่ารุนแรงน้อยกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากหลายพื้นที่ผู้ประท้วงส่วนมากชุมนุมกันด้วยความสงบ
โดยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ รัฐบาลของมาครงได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานที่ขอให้ระงับและพิจารณาทบทวนแผนปฏิรูปบำนาญใหม่อีกครั้ง ซึ่งมีสาระสำคัญคือการปรับเพดานเกษียณอายุจาก 62 ปีขึ้น เป็น 64 ปี สร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มผู้นำแรงงานที่ย้ำจุดยืนชัดเจนว่ารัฐบาลควรหาทางออกจากวิกฤตนี้ ขณะที่ฝั่งของรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลยินดีที่จะเจรจากับสหภาพแรงงาน แต่เป็นในประเด็นอื่นๆ เพราะรัฐบาลยังยืนยันที่จะเดินหน้าผลักดันแผนปฏิรูปดังกล่าว ด้านนายกรัฐมนตรีเอลิซาเบธ บอร์น ได้ยื่นข้อเสนอที่จะพูดคุยกับสหภาพแรงงานอีกครั้งในวันจันทร์และอังคารหน้า
การประท้วงในฝรั่งเศสยังไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้นลง โดยประชาชนนับล้านได้ออกมาเดินขบวนและผละงานประท้วงกันตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อแสดงการต่อต้านแผนปฏิรูปบำนาญของมาครง โดยสถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อรัฐบาลประกาศใช้มาตราพิเศษในรัฐธรรมนูญ เพื่อผลักดันแผนปฏิรูปบำนาญโดยไม่ต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่สหภาพแรงงานระบุว่า การประท้วงใหญ่ทั่วประเทศรอบต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 6 เมษายนนี้
ภาพ: Carl Court / Getty Images
ภาพ: Carl Court / Getty Images
ภาพ: Quentin Veuillet / NurPhoto via Getty Images
ภาพ: Samuel Boivin / NurPhoto via Getty Images
ภาพ: Samuel Boivin / NurPhoto via Getty Images
ภาพ: Carl Court / Getty Images
อ้างอิง: