ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ประกาศแต่งตั้งเซบาสเตียน เลอกอร์นู (Sébastien Lecornu) ให้กลับเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งประกาศลาออกไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ตุลาคม) สร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง
แถลงการณ์ที่ออกมาวานนี้ (10 ตุลาคม) ระบุว่า “ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศสได้แต่งตั้งเซบาสเตียน เลอกอร์นู เป็นนายกรัฐมนตรี และมอบหมายให้เขารับผิดชอบหน้าที่ในการจัดตั้งรัฐบาล”
ภายหลังจากนั้น เลอกอร์นูได้โพสต์ข้อความลงบน X เกี่ยวกับแนวคิดของเขาในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยระบุว่า “เราต้องยุติวิกฤตการเมืองที่ทำให้ชาวฝรั่งเศสรู้สึกขุ่นเคือง และยุติความไม่มั่นคงที่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และผลประโยชน์ของฝรั่งเศส”
การกลับเข้ารับตำแหน่งของเลอกอร์นูถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจ และเป็นการปิดฉากสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนของภาคการเมืองฝรั่งเศส
ย้อนกลับไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5 ตุลาคม) เลอกอร์นูได้ประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีของเขา ก่อนที่จะถูกรัฐมนตรีมหาดไทยวิจารณ์อย่างหนักในคืนเดียวกัน และในเช้าวันถัดมา เขาก็ยื่นหนังสือลาออกอย่างกะทันหัน ซึ่งในเวลานั้นมาครงก็ยอมรับ แต่ในภายหลังมาครงกลับมีท่าทีที่เปลี่ยนไป โดยมีคำสั่งให้เลอกอร์นูเจรจาครั้งสุดท้ายกับพรรคการเมืองต่างๆ ยับยั้งไม่ให้ประเทศเข้าสู่ภาวะวิกฤตในช่วง 48 ชั่วโมง ก่อนจะเลือกเขากลับมาดำรงตำแหน่งเดิมในที่สุด
เสียงจากฝ่ายตรงข้าม
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นได้สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองเป็นอย่างมาก โดยจอร์แดน บาร์เดลลา (Jordan Bardella) ผู้นำพรรคเนชันนัล แรลลี (National Rally) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด ได้ออกมาโจมตีการตัดสินใจนี้อย่างรุนแรง เขาโพสต์บน X ว่า มันคือ “นี่มันตลกร้าย เป็นความอัปยศของประชาธิปไตย และเป็นการหยามเกียรติชาวฝรั่งเศส”
ด้าน มารีน เลอ แปน (Marine Le Pen) ผู้นำคนสำคัญของฝ่ายขวาจัด เรียกร้องให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลของเลอกอร์นูแม้จะยังไม่ได้ประกาศรายชื่อออกมา และเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ทันที
ส่วน ฌอง-ลุค เมลองชง (Jean-Luc Melenchon) นักการเมืองซ้ายจัดและผู้นำพรรค France Unbowed ได้ออกมาเย้ยหยันการแต่งตั้งเลอกอร์นูซ้ำ โดยกล่าวว่า “มาครงทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำแบบมาครง”
อย่างไรก็ตาม เลอกอร์นูโพสต์ข้อความลง X เมื่อวานนี้ (10 ตุลาคม) ว่า ปัญหาใดๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาจากการหารือกับผู้นำพรรคต่าง ๆ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ‘จะสามารถนำมาอภิปรายในรัฐสภาได้’ หรือต้องการจะบอกเป็นนัยว่า สิ่งนี้แตกต่างจากแนวทางของมาครงที่ผลักดันให้ผ่านร่างกฎหมายโดยไม่ต้องพึ่งการลงคะแนนเสียงในสภา จนสร้างความไม่พอใจให้กับพรรคฝ่ายค้านรวมถึงประชาชนอยู่บ่อยครั้ง ในช่วงวาระการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ของเขา
นอกจากนี้ เลอกอร์นูยังโพสต์ข้อความว่า “ความทะเยอทะยานทั้งหมดเป็นเรื่องที่ชอบธรรมและมีประโยชน์ แต่ผู้ที่เข้าร่วมรัฐบาลจะต้องให้คำมั่นว่าจะตัดขาดตนเองจากการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2027” ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้อาจตัดโอกาสนักการเมืองเด่นๆ หลายคน รวมถึง บรูโน เรอตาโย (Bruno Retailleau) อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยฝ่ายขวา ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะลงสมัครในปี 2027 ด้วย
ภาพ: Stephanie Lecocq / Reuters
อ้างอิง: