ประตูเดียวจากการทำเข้าประตูตัวเองของ มัตส์ ฮุมเมิลส์ เพียงพอที่จะทำให้ฝรั่งเศสคว้าชัยชนะเหนือเยอรมนี ในเกมประเดิมสนามของทั้งสองทีมศึกฟุตบอลยูโร 2020
เกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มนัดแรก ที่สนามฟุตบอลอารีนา มิวนิก (อลิอันซ์ อารีนา) ในแคว้นบาวาเรีย เป็นเกมการพบกันอีกนัดในกลุ่ม F ฝรั่งเศส แชมป์โลกทีมล่าสุด พบกับเยอรมนี ทีมแชมป์ยูโร 3 สมัย ที่มีแฟนบอลคอยหนุนหลังกว่า 14,000 คนในเกมนี้
ฝรั่งเศสขึ้นนำก่อนตั้งแต่ 20 นาทีแรกของเกม เมื่อ ลูกัส แอร์กน็องเดซ เติมเกมมาสุดเส้นหลังเปิดบอลเข้ากลาง มัตส์ ฮุมเมิลส์ พยายามเหยียดขาสกัดบอล แต่โดนบอลเหลี่ยมไม่ดี บอลเสยคานเข้าไป กลายเป็นประตูนำของทีม ‘ตราไก่’ และกลายเป็นประตูเดียวในครึ่งแรก
ครึ่งหลังฝรั่งเศสส่งบอลไปสู่ก้นตาข่ายได้อีก 2 ครั้ง แต่ไม่เป็นประตูเลย โดยครั้งแรก คีเลียน เอ็มบัปเป้ ได้ปั่นโค้งสุดสวดสวยหนีมือ มานูเอล นอยเออร์ เข้าไป แต่โดนจับล้ำหน้าไปก่อน อีกครั้งในช่วง 5 นาทีสุดท้ายที่เอ็มบัปเป้ ไหลให้ คาริม เบนเซมา ได้ยิงจ่อๆ ผู้ช่วยผู้ตัดสินไม่ได้ยกธงล้ำหน้า แต่ VAR กลับคำตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้าหลังจากนั้น ทำให้จบเกมฝรั่งเศสเอาชนะเยอรมนีถึงถิ่นไปได้ด้วยสกอร์ 1-0
ทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เพิ่มสถิติไม่พ่ายต่อเยอรมนีออกไป โดยมีสถิติเพิ่มเป็น ชนะ 4 เสมอ 2 ใน 6 เกมหลังที่เจอกัน พร้อมเก็บ 3 คะแนนเต็ม ขึ้นไปรั้งที่ 2 ของกลุ่ม F โดยมี 3 คะแนนเท่ากับโปรตุเกสที่แข่งขันไปก่อนหน้านี้ แต่ประตูได้เสียเป็นรอง ส่วน เยอรมนี รั้งที่ 3 ของกลุ่ม โดยมีประตูได้เสียดีกว่าฮังการี
Man of the Match: คีเลียน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส)