นับตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 2561 ที่ทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 ชีวิตหายตัวไปบริเวณ #ถ้ำหลวง ทุกคนต่างลุ้นและเฝ้ารอ ท่ามกลางการทำงานหนักของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย จนในที่สุดเราก็พบตัวทั้ง 13 ชีวิต หลังผ่านมา 221 ชั่วโมง 41 นาที
8 กรกฎาคม 2561
“ไม่มีวันใดที่เราพร้อมไปมากกว่านี้” ศอร. ประกาศนำทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง เร็วสุด 3 ทุ่มวันนี้
ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) แถลงวันนี้พร้อมที่สุดที่จะนำตัวทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำ โดยปฏิบัติการเริ่มต้นตั้งแต่ 10.00 น. ที่ผ่านมา โดยหน่วยซีลและผู้เชี่ยวชาญเข้าไปในถ้ำเพื่อนำตัวทีมหมูป่าออกมา จะใช้วิธีให้เจ้าหน้าที่ประกบเดินออกมาเป็นคู่ๆ เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด
ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการ ศอร. กล่าวว่า สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญในช่วงปฏิบัติการที่ผ่านมาคือ ระดับของน้ำในถ้ำและเวลา การเจาะโพรงเพื่อนำตัวทีมหมูป่าออกมา ยังไม่พบโพรงที่มีศักยภาพแต่อย่างใด ขณะนี้มีความพร้อมในทุกด้านที่จะนำตัวทีมหมูป่าออกมาจากช่องทางปากถ้ำมีสูงที่สุด ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาก็ได้ปรับพื้นที่ ซักซ้อมทั้งทางอากาศและทางบกเพื่อเตรียมพร้อมอยู่ตลอด ตอนนี้ระดับน้ำในถ้ำลดลงมากจนโถง 1-3 สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้แล้ว ขณะที่ความพร้อมทางด้านร่างกายของทีมหมูป่าถือว่าพร้อมมาก ประกอบกับสภาพอากาศ เชื่อว่าอีกไม่กี่วันจากนี้จะมีพายุเข้า และอาจทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ปฏิบัติการได้ วันนี้จึงถือเป็นวันที่พร้อมที่สุดที่จะต้องนำตัวออกมา โดยจะพาสมาชิกทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวงได้คาดว่าเร็วที่สุดคือเวลา 3 ทุ่มคืนนี้ ซึ่งจะทยอยกันออกมาเรื่อยๆ จนครบจำนวน
สอดคล้องกับเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ ทาง ศอร. ออกคำสั่งด่วนที่สุดให้สื่อมวลชนและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องย้ายออกจากพื้นที่บริเวณหน้าถ้ำหลวง โดยให้ย้ายไปอยู่ที่ลานหน้าองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โป่งผาแทน เพื่อเป็นการจัดระเบียบ เตรียมความพร้อม ก่อนจะแถลงข่าวช่วง 11.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่ง ศอร. ขอความร่วมมือห้ามเข้าใกล้รัศมี 200 เมตรของสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ และขอให้ยืนห่างจากจุดกลับรถและจุดเลี้ยวเพื่อให้รถพยาบาลใช้ความเร็วเพื่อนำตัวสมาชิกทีมหมูป่าไปที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
- 10. 30 น. ตำรวจ สภ.แม่สาย ประกาศใช้ พ.ร.บ.บรรเทาสาธารณภัย โดยให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชนออกจากพื้นที่
#ถ้ำหลวง และให้ไปอยู่ที่ อบต.โป่งผา เพื่อรอแถลงข่าวที่นั่น โดยให้เวลาขนย้ายของออกภายในเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา
7 กรกฎาคม 2561
ทีมวิศวกรของ อีลอน มัสก์ ถึงไทยวันนี้ เสนอให้คลานผ่านท่อไนลอน แทนการฝึกดำน้ำ
หลังจากที่อีลอน มัสก์ ซีอีโอใหญ่ของบริษัทด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำของโลกอย่าง Tesla, SpaceX และ The Boring Company ยินดีที่จะส่งทีมวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงอุปกรณ์ในการขุดเจาะ เพื่อช่วยเหลือโค้ชและนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่ยังคงติดอยู่ภายในถ้ำหลวงนานร่วม 2 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำภายในถ้ำยังคงมีระดับสูง และน้องๆ นักกีฬาบางคนก็ไม่สามารถว่ายน้ำได้
ดังนั้นการรอให้ปริมาณน้ำภายในถ้ำลดลง รวมถึงกับฝึกให้น้องๆ ดำน้ำได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก ประกอบกับระยะทางที่ต้องดำน้ำเป็นระยะทางราว 4-5 กิโลเมตร ที่ปกติแล้วทีมช่วยเหลืออาจจะต้องใช้เวลาในการเดินทางนานกว่า 5 ชั่วโมง
ทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของบริษัท The Boring Company จะเดินทางถึงประเทศไทยภายในวันนี้ และเข้าพื้นที่เก็บรายละเอียดพื้นที่จริง พร้อมวิเคราะห์หาแนวทางในการช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตโดยเร็วที่สุด
อีกหนึ่งปัญหาคือ ส่วนที่แคบที่สุดของถ้ำมีความกว้างเพียง 70 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งอาจจะยิ่งทำให้การดำน้ำออกมาใช้เวลานานเพิ่มมากขึ้น ทางด้านนายอีลอน มัสก์เสนอให้มีการใช้ท่อไนลอนขนาดยักษ์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร สอดเข้าไปตามแนวถ้ำตลอดระยะทางที่มีน้ำท่วม จากนั้นก็ฉีดอัดอากาศเข้าไปคล้ายกับเบาะลมยางหรือสระน้ำยางสำหรับเด็ก
เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษของท่อชนิดนี้คือ สามารถขยายตัวได้ตามแรงดันอากาศที่ถูกฉีดเข้าไป ซึ่งแม้ว่าจะมีพื้นที่แคบเพียงใด ท่อไนลอนก็จะสามารถยืดหยุ่นและขยายขนาดได้เท่ากับพื้นที่ของช่องแคบนั้นๆ รองรับกับส่วนเว้าส่วนโค้งของเพดานถ้ำได้เป็นอย่างดี โดยให้โค้ชและน้องๆ ทั้ง 13 ชีวิตคลานออกมาตามท่ออากาศดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องฝึกหัดดำน้ำ และที่สำคัญวิธีนี้ ระยะทางที่ไกล รวมถึงตัวเร่งเรื่องระยะเวลาในการเดินทางกลับออกมาจะมีความสำคัญน้อยกว่าหากเลือกใช้วิธีการดำน้ำ
ทางด้านนายเควิน บราวน์ (Kelvin Brown) ผู้เชี่ยวชาญด้านการขุดเจาะชาวออสเตรเลีย ผู้มีประสบการณ์ในการช่วยชีวิตคนงานเหมืองชาวชิลี 33 ชีวิตที่ติดอยู่ใต้ดินนานกว่า 69 วัน เมื่อปี 2010 เผยว่า วิธีการเจาะผนังถ้ำ เพื่อเพิ่มช่องทางในการช่วยเหลือก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เนื่องจากดินบริเวณนั้นของไทยน่าจะมีความอ่อนนุ่มกว่า ดินภูเขาไฟที่ค่อนข้างแข็งในเคสของชิลีเมื่อ 8 ปีก่อนมาก แต่วิธีนี้จะต้องดำเนินการอย่างรัดกุม และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อยู่ในถ้ำเป็นสำคัญขณะขุดเจาะ หากพบจุดที่ต้องการจะขุดเจาะแน่ชัดแล้ว
หลายฝ่ายคาดว่า การได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทชั้นนำของโลกในครั้งนี้ จะมีส่วนทำให้ภารกิจในการช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงประสบความสำเร็จได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อ้างอิง:
- arstechnica.com/science/2018/07/elon-musk-has-an-idea-for-saving-boys-stranded-in-a-thailand-cave/
- www.abc.net.au/news/2018-07-06/elon-musk-sends-spacex-to-help-rescue-thai-soccer-team/9950934
- www.usatoday.com/story/tech/2018/07/06/thailand-cave-rescue-elon-musk-sending-engineers-help-soccer-team/763477002/
- www.marketwatch.com/story/teslas-elon-musk-is-sending-engineers-to-thailand-to-help-free-soccer-team-trapped-in-cave-2018-07-06
- news.sky.com/story/elon-musk-sends-engineers-to-help-thai-cave-rescue-11427991
ลดคนในถ้ำ เพิ่มออกซิเจนให้ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ณรงค์ศักดิ์ รับกู้ภัยยากกว่าค้นหา เหมือนแบกภูเขาไว้บนบ่า
วันนี้ (7 ก.ค.) เวลา 10.45 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย (ศอร.) แถลงถึงการทำงานในวันนี้ว่า เรื่องนี้เป็นความคาดหวังของคนทั้งประเทศและทั้งโลก จึงมีการสอบถามว่าทำไมไม่ทำเรื่องบางเรื่อง หรือทำไมทำล่าช้า ทั้ง 13 คนจะลำบากหรือไม่
นายณรงศักดิ์ ชี้แจงว่า สถานการณ์ในขณะนี้มีความยาก และทำงานแข่งกับความคาดหวัง ทีมงานทุกคนเหมือนแบกภูเขาลูกนี้ไว้บนบ่า คณะทำงานมีการประชุมคุยกันตลอด ต้องดูองค์ประกอบทั้งหมดตามที่ได้เคยบอกไว้ และจะมีการดำเนินการทันที โดยจะพิจารณาเรื่องน้ำ หากช่วงไหนน้ำน้อยที่สุดก็คงจะดำเนินการได้ หรือน้ำอยู่ในสถานการณ์ที่ดีพอก็จะเคลื่อนย้าย
ขณะนี้ น้ำหน้าถ้ำถึงโถง 3 เดินได้หมดแล้ว หากฝนตกลงมาก็ต้องดูว่ามีปัจจัยความเสี่ยงเรื่องใดเข้ามาอีก ซึ่งในขณะนี้ เรียกว่าประสบความสำเร็จในการเบนน้ำแล้ว
นอกจากระดับน้ำ และสภาพอากาศ การทำงานนี้ยังต้องใช้เทคโนโลยี รวมทั้งความชำนาญของนักดำน้ำด้วย นอกจากนี้ การสำรวจโพรงเพื่อดูว่าจุดไหนจะเป็นช่องลงไปยังจุดที่ทั้ง 13 คนอยู่ ยังไม่มีเทคโนโลยีไหนที่บอกได้ว่าจุดไหนที่ทั้ง 13 คนอยู่ และต้องเร่งดำเนินการเสริมถังออกซิเจนเข้าไปให้ได้มากที่สุดสำหรับทั้งคนที่ทำงานและทั้ง 13 คน ตอนนี้จึงจะถอนเจ้าหน้าที่บางส่วนออกมาเพื่อให้เหลือแต่เจ้าหน้าที่ที่จำเป็นจริงๆ เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์บริเวณนั้น โดยขณะนี้มีหน่วยซีลและแพทย์ที่อยู่กับน้องๆ รวม 4 คน
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เรียกว่าชนะศึกได้เพียงศึกเดียว เป็นความภูมิใจในระดับหนึ่ง เพราะค้นพบแล้ว แต่ศึกของการกู้ภัยยากยิ่งกว่า เหตุการณ์ที่สูญเสีย จ่าเอก สมาน กุนัน อดีตซีล ทำให้ทุกคนเสียใจ และต้องขอบคุณครอบครัวจ่าเอก สมาน และจะดูแลครอบครัวต่อไป
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องปรับการทำงานให้เป็นบทเรียน ขอใช้คำว่าพยายามทำให้ดีที่สุด แผนทุกแผนมีการกลั่นกรองทดสอบจนมั่นใจ ในสถานการณ์ขณะนี้ คืนนี้ และพรุ่งนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญกู้ภัยจากต่างประเทศมาเสริมการทำงาน 2 ชุด
และภายใน 3-4 วันนี้ ถ้าน้ำและอากาศไม่มีปัญหา ก็จะดำเนินการตามแผนที่ได้ทดสอบไว้ เพราะตอนนี้สถานการณ์เหมาะสมที่สุด
นายณรงค์ศักดิ์ ขอความร่วมมือนักเลงคีย์บอร์ด และขอตำหนิคนที่จ้างเจ้าหน้าที่เข้าไปถ่ายรูป ทำให้คณะทำงานทำงานลำบาก ขอพื้นที่ให้คณะทำงานได้หายใจบ้าง นอกจากนี้ ยังมีคนที่นำอาหารมาให้ และมาขอรับบริจาค ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการ
ด้าน พล.ต.ต. ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ขอความร่วมมือในการจัดระเบียบสื่อที่ทุกคนต้องติดบัตร ขอถอนบัตรทันทีหากทำผิดระเบียบ ขอความร่วมมืออย่าถ่ายในจุดหวงห้าม และขอให้ออกมากจากเต็นท์ญาติ และครอบครัวทั้ง 13 คน ส่วนการจราจร ขอย้ำในการจอดรถทางเดียว การปรับการทำงานที่ถูกต่อว่าไม่เป็นสากล เพราะเราปรับกันทุกวัน ตามภูมิประเทศ และขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย
ขณะเดียวกันวันนี้ ดร. เมเยียร์ ชโลโม (Meir shlomo) เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เดินทางมาพร้อมกับคณะ เพื่อเข้าร่วมประชุมกับศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย กับนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เบื้องต้น เปิดเผยว่า ทางการอิสราเอลได้รับคำเชิญจากรัฐบาลไทย เพื่อร่วมให้ข้อแนะนำ และอุปกรณ์ที่อิสราเอลมีความเชี่ยวชาญ และสามารถช่วยเหลือได้ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีอุปกรณ์ใดที่จะสามารถนำมาใช้ได้ โดยชาวอิสราเอลต่างอธิษฐานจิต เพื่อขอให้เด็กในถ้ำปลอดภัย และได้ออกมาเจอกับครอบครัว ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งนี้อิสลาเอล เป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำ จึงอาจจะมีการเข้ามาให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้
เปิดจดหมายฉบับแรก ฝากหน่วยซีลส่งถึง 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง พ่อแม่เด็กเขียนฝากถึงโค้ชเอก ไม่เคยโกรธ ไม่ต้องโทษตัวเอง
วันนี้ (7 ก.ค.) เข้าสู่วันที่ 15 ที่ 13 ชีวิต นักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง จ.เชียงราย มีรายงานว่า ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) อนุญาตให้ญาติของทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย เขียนข้อความใส่กระดาษสื่อสารไปถึงทั้ง 13 ชีวิต ความยาวรวม 6 แผ่น โดยฝากหน่วยซีลเข้าไปส่งให้ที่เนินนมสาว
จดหมายฉบับนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครองของทุกคน ร่วมกันเขียนถึงโค้ชเอก-เอกพล จันทะวงษ์ โค้ชของทีมโดยเฉพาะ มีข้อความให้กำลังใจและไม่ให้โทษตัวเอง ทุกคนขอบคุณที่ดูแลน้องๆ
“โค้ชเอกเจ้าไปตวยกัน แล้วต้องออกมาตวยกัน พาน้องๆ ออกมาปลอดภัยเน้อเจ้า”
6 กรกฎาคม 2561
19.40 น. ส่งร่าง ‘จ.อ. สมาน’ อดีตซีลฮีโร่สละชีพในถ้ำหลวง กลับบ้านอย่างสมเกียรติ
ร่างของ จ.อ. สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ วัย 38 ปี ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ถูกนำออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โดยได้นำมาเก็บไว้ที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช เพื่อไปประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ
กระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ ที่ลานจอดด้านทิศเหนือ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยข้าราชการและประชาชน ได้ทำพิธีส่งศพของ จ.อ. สมาน อย่างสมเกียรติ ขึ้นเครื่องของกองทัพอากาศไปยังฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ก่อนนำร่างขึ้นเครื่องไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด ให้ครอบครัวและญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
19.00 น. อีลอน มัสก์ คอนเฟิร์ม ส่งวิศวกรลงพื้นที่ถ้ำหลวงช่วยทีมหมูป่า
หลังจากก่อนหน้านี้ที่มีคนทวีตไปสอบถาม อีลอน มัสก์ ผู้บริหาร SpaceX, Tesla Motors และ The Boring Company ถึงความเป็นไปได้ที่จะส่งความช่วยเหลือไปถึงทีมหมูป่า 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง และเขาได้ตอบกลับว่ายินดีให้ความช่วยเหลือนั้น ล่าสุดเขาได้ออกมาคอนเฟิร์มอีกครั้งว่ากำลังส่งวิศวกร 2 คนจากบริษัทมายังประเทศไทย
โดยมัสก์ได้ทวีตข้อความเมื่อเวลา 14.42 น. ตามเวลาประเทศไทยว่า “ขณะนี้วิศวกรของ SpaceX และ The Boring Company ได้มุ่งหน้าสู่ประเทศไทยในวันพรุ่งนี้เพื่อดูว่ามีอะไรที่เราพอจะทำได้เพื่อช่วยเหลือรัฐบาล มันคงต้องมีความซับซ้อนมากมายที่ยากจะทราบได้หากคุณไม่ได้อยู่ในพื้นที่ตรงนั้น”
นอกจากนี้ทางบีบีซีไทยยังเผยแพร่ข้อมูลว่าได้สอบถามไปยังบริษัท The Boring Company และได้รับการยืนยันจากโฆษกของทางบริษัทว่ากำลังรับฟังคำชี้แนะจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เชียงรายเพื่อคิดหาวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือ และได้ส่งคนจาก Space X และ The Boring Company จากสหรัฐฯ เดินทางมายังประเทศไทยจริงเพื่อให้การสนับสนุนภาคพื้นดิน
ทั้งนี้บริษัท The Boring Company ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการขุดเจาะอุโมงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางบริษัทกำลังมุ่งพัฒนาระบบไฮเปอร์ลูป หรือโครงการขนส่งสาธารณะใต้ดินความเร็วสูงโดยใช้เทคโนโลยีสุญญากาศ จึงน่าสนใจว่าความช่วยเหลือที่มัสก์หยิบยื่นให้กับชาวไทยครั้งนี้น่าจะทำให้ภารกิจช่วยทีมหมูป่าออกจากถ้ำเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ผบ.ทบ. เผยกำลังพล 1,256 นายช่วยทีมหมูป่าออกจากถ้ำ ชี้ต้องประเมินเด็ก-สภาพแวดล้อมก่อนตัดสินใจ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยถึงการนำทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีจำนวน 13 คนซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ในเขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ออกมาจากภายในถ้ำว่าได้มีการชี้แจงและสั่งการในที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก หรือ นขต. ถึงการช่วยเหลือการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
ซึ่งขณะนี้กำลังพลในส่วนของกองทัพบกที่ไปสนับสนุนภารกิจช่วยโค้ชและเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำมีทั้งสิ้นประมาณ 1,256 คน ซึ่งถือว่ามีความเพียงพอ โดยเป็นการปฏิบัติงานภายในถ้ำร่วมกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือ นสร. เพื่อช่วยเหลือภารกิจการลำเลียงและขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ การสนับสนุนการระบายน้ำในพื้นที่รอบถ้ำ การเบี่ยงเบนทางน้ำ และการปฏิบัติภารกิจบนภูเขาร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการเพิ่มเติมเรื่องการสับเปลี่ยนกำลังเพื่อหมุนเวียนกำลังพลเข้าไปในกรณีที่กำลังพลบางส่วนมีความอ่อนล้า แต่กำลังพลส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ตามปกติ
สำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โดยมี พลตรี สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 เข้าร่วมปฏิบัติงานด้วย ซึ่งก็ได้มีการรายงานเหตุการณ์ความคืบหน้าการปฏิบัติงานให้ตนได้รับทราบทุกวัน โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาก็ได้รายงานว่ามีความขาดแคลนนักดําน้ําขั้นพื้นฐานเพื่อปฏิบัติงานส่วนหน้าในการลำเลียงขนอุปกรณ์เข้าไปภายในถ้ำ ซึ่งทางกองทัพบกก็ได้ส่งกำลังสนับสนุนเข้าไปปฏิบัติงานแล้ว โดยทางกองทัพบกจะเป็นผู้สนับสนุนในเรื่องกำลังพลและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ขาดแคลน
สำหรับการนำทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 ประการคือ
- ความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทั้งหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือหน่วยซีล และหน่วยสนับสนุน รวมถึงความพร้อมของยุทโธปกรณ์ ซึ่งขณะนี้ถือว่ามีความพร้อมแล้ว
- ความพร้อมของเด็กทั้งทางร่างกายที่ต้องได้รับการฟื้นฟูจนแข็งแรง เพราะการเดินทางออกจากถ้ำต้องใช้เวลา 5 ชั่วโมง ความพร้อมในการใช้เครื่องมือที่ต้องมีการเรียนรู้ และความพร้อมทางด้านจิตใจที่ต้องนิ่ง สามารถควบคุมสติได้ เพราะในบางช่วงเด็กอาจต้องดำน้ำด้วยตัวเอง
- สภาวะแวดล้อมเรื่องน้ำและอากาศ ซึ่งหากปริมาณเพิ่มมากขึ้นก็จะเป็นปัญหา แต่หากปริมาณน้ำลดลงก็จะเอื้อต่อการนำเด็กออกมาจากถ้ำ ส่วนเรื่องอากาศ ได้รับทราบว่าขณะนี้ในพื้นที่ก็ได้มีการหาทางเพิ่มขวดอากาศเข้าไปภายในถ้ำแล้ว
ขณะที่แนวทางการนำผู้ประสบภัยออกมาจากถ้ำนั้น ไม่ว่าจะเป็นทางอุโมงค์หรือดำน้ำออกมาจากถ้ำก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้ปฏิบัติงานหน้างานก็ต้องประเมินสถานการณ์ทุกอย่างทั้งความพร้อมของเด็กและสภาวะแวดล้อมก่อนตัดสินใจอยู่แล้ว
ส่วนการเสียชีวิตของ จ่าเอก สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ ซึ่งเป็นนักทำลายใต้น้ำจู่โจม รุ่น 30 อายุ 38 ปี ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจภายในถ้ำหลวง ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ โดยจ่าเอก สมาน ได้ทุ่มเททั้งชีวิตสำหรับการทำงานครั้งนี้ เป็นอดีตข้าราชการที่มีจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือ
ขอยืนยันว่าทุกคนที่เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่มีความรู้และความสามารถ แต่ไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นในช่วงเวลานั้นจึงทำให้เกิดความพลาดพลั้ง อยากให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ว่าการทำงานในพื้นที่ห่างไกลซึ่งผู้ปฏิบัติงานพักผ่อนน้อย อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว
ซึ่งได้พยายามเน้นย้ำกับกำลังพลว่าแม้ใจต้องการให้ความช่วยเหลือ คิดว่ายังไหว แต่ก็ขอให้ประเมินตัวเองด้วยความระมัดระวัง เพราะการดำน้ำและกระโดดร่มเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเสี่ยงอันตราย
14.00 น. สื่อนอกร่วมไว้อาลัยอดีตหน่วยซีลที่เสียสละชีวิตที่ถ้ำหลวง
สื่อยักษ์ใหญ่หลายสำนักที่ส่งผู้สื่อข่าวเข้าพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อเฝ้าติดตามรายงานสถานการณ์ภารกิจช่วยเหลือโค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ยังคงติดอยู่ภายในถ้ำหลวง วนอุทยานแห่งชาติขุนน้ำนางนอน เช่น The Guardian, BBC, ABC News รวมถึง Los Angeles Times, Bloomberg, The Sun และ Business Insider เป็นต้น ต่างรายงานข่าวและร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของ จ่าเอก สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีลวัย 38 ปีที่สมัครมาเป็นอาสาสมัครในทีมช่วยเหลือครั้งนี้ และเสียชีวิตภายในถ้ำหลวง เนื่องจากขาดอากาศหายใจระหว่างเดินทางกลับออกจากถ้ำ เมื่อช่วงเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา
สื่อหลายสำนักต่างยกให้ จ่าเอก สมาน กุนัน เป็นหนึ่งในฮีโร่ที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อผู้อื่น เป็นความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่ที่ชื่อของอดีตหน่วยซีลคนนี้จะถูกกล่าวถึงทุกครั้งที่มีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงแห่งนี้ในอนาคต
ทางด้าน พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล เผยว่า “ถึงแม้ว่าเราจะเผชิญกับข่าวร้ายเมื่อเช้านี้ แต่พวกเราจะยังคงเดินหน้าทำภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตต่อไป
“ขณะนี้พวกเราไม่สามารถรอให้อะไรหลายๆ อย่างพร้อมได้ เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ เร่งบีบบังคับเรา จากเดิมที่พวกเราคิดว่าเด็กๆ น่าจะอยู่อย่างปลอดภัยภายในถ้ำได้นานอีกสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว พวกเรามีระยะเวลาที่จำกัดแล้วในเวลานี้”
- เพจ Thai NavySEAL โพสต์ข้อความอาลัย จ่าเอกสมาน กุนัน ที่เสียสละชีวิตที่ถ้ำหลวงว่า แม้จะออกจากหน่วยฯ ไปแล้ว แต่ยังมีความรักความผูกพัน มาร่วมกิจกรรมเสมอ “ความตั้งใจ ความมุ่งมั่นของสมานจะอยู่ในใจของพี่น้องมนุษย์กบทุกคนเสมอ วันนี้สมานพักให้สบาย พวกเราจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จสมดั่งที่สมานตั้งใจไว้ Hooyah Hooyah Hooyah”
อดีตหน่วยซีล เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจในถ้ำหลวง ผบ.หน่วยซีลยืนยัน เดินหน้าทำงานต่อ ไม่เสียขวัญ
พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล แถลงข่าวล่าสุดกรณี จ.อ. สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีลเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจที่ถ้ำหลวงว่า
จ.อ. สมาน ผู้เสียชีวิต เป็นอดีตหน่วยซีล อายุ 38 ปี ปัจจุบันลาออกไปทำงานที่ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย แต่ได้เข้ามาช่วยภารกิจนี้โดยทำหน้าที่สนับสนุนในการนำขวดอากาศไปวางตามจุดต่างๆ ภายในถ้ำ เนื่องจากนักดำน้ำ 1 คนจำเป็นต้องมีขวดอากาศติดตัวอย่างน้อย 3 ถัง เพื่อใช้ในการเดินทางเข้า-ออกจากจุดที่ทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตอยู่
แต่สภาพภายในถ้ำค่อนข้างโหดร้าย ขณะปฏิบัติงานเสร็จแล้วกำลังกลับออกจากถ้ำบริเวณโถง 3 จ.อ. สมาน เกิดหมดสติ เจ้าหน้าที่ที่พบเห็นจึงทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น แต่ไม่รู้สึกตัว และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 01.00 น. จึงนำร่างส่งโรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการหน่วยซีลยังเผยว่า “หน่วยซีลถูกฝึกมาเพื่อทำงานในภาวะความเสี่ยงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย เสียชีวิต ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่พวกเราต้องเผชิญตลอดเวลาอยู่แล้ว ขอยืนยันว่าเราไม่เคยเสียขวัญ กำลังพลของเรายังคงฮึกเหิม พี่น้องเราที่เสียชีวิตไปเราจะไม่ให้สูญเปล่า เราจะเดินหน้าต่อ”
ด้านนายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่าขณะนี้พระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งให้ผู้เสียชีวิตอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ และเตรียมจัดงานอย่างสมเกียรติ สมกับความเสียสละต่อไป
- 9.42 น. ผู้สูญเสียจะไม่สูญเปล่า พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยซีล แถลง ผู้เสียชีวิตคือ จ.อ. สมาน กุนัน เป็นอดีตซีล ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ท่าอากาศยานไทย และมาช่วยเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยงานโดยเมื่อคืนนี้ได้วางแผนนำอากาศเข้าไปในบริเวณที่ 13 ชีวิตอยู่ จากโถง 3 ถึงจุดที่น้องๆ อยู่ประมาณ 1,700 เมตร ขาไปใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. ไปกลับประมาณ 12 ชม. เป็นจำนวนเวลาที่ต้องอยู่ในน้ำ ซึ่งไม่เคยเจอมาก่อน กระทำโดยมีแผน ย้ำเราไม่เสียขวัญ กำลังพลังยังฮึกเหิม
- 9.33 น. จ.อ. สมาน กุนัน อายุ 38 ปี อดีตซีลเสียชีวิตในถ้ำหลวง หลังเสร็จภารกิจลำเลียงขวดอากาศจากโถง 3 และเกิดหมดสติในน้ำ เสียชีวิตเวลาประมาณ 01.00 น.
5 กรกฎาคม 2561
23.33 น. อีลอน มัสก์ ยินดีช่วยพาทีมหมูป่าออกจากถ้ำ ระบุมีเทคโนโลยีขุดเจาะที่ทันสมัย
กำลังใจและความห่วงใยที่มีต่อนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่ากว่า 13 ชีวิตที่พลัดหลงเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เป็นระยะเวลากว่า 10 วัน ยังคงหลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่องไม่เว้นแม้แต่อีลอน มัสก์ นักธุรกิจมากความสามารถที่ยืนยันว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือเต็มที่ หากตนพอจะทำอะไรได้
ผู้ใช้แอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ @MabzMagz จากราชอาณาจักรเอสวาตีนี (สวาซิแลนด์เดิม) ได้ทวีตข้อความไปหาผู้บริหารบริษัท SpaceX, Tesla Motors และ Boring Company วัย 47 ปีว่า พอจะมีความเป็นไปได้ไหมที่เขาจะหยิบยื่นความช่วยเหลือพาโค้ชและน้องๆ นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายจำนวน 13 คนออกมาจากถ้ำหลวง
มัสก์จึงทวีตข้อความตอบกลับว่า “ผมเข้าใจว่าทุกอย่างน่าจะอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลไทยแล้วนะ แต่ผมก็ยินดีให้ความช่วยเหลือหากมีวิธีไหนที่ผมพอจะทำได้
“บริษัท Boring มีวิทยาการเรดาร์สำรวจใต้ดินขั้นสูง และยังใช้เพื่อการขุดเจาะได้ดี ผมไม่ทราบว่าปั๊มน้ำที่ใช้กันอยู่มีข้อจำกัดด้านพลังงานที่ส่งผลให้อัตราการปั๊มต่ำหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นผมก็ยินดีจะส่งแบตเตอรี่ที่ชาร์จประจุเต็มพร้อมปั๊มของเราไปช่วยเหลือ”
บริษัท Boring ก่อตั้งขึ้นจากแนวคิดของอีลอน มัสก์ เมื่อเดือนธันวาคม 2016 มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้านวิศวกรรมธรณีเทคนิค (Geotechnical Engineering) โดยเฉพาะไอเดียแก้ปัญหาการจราจรแออัดด้วยการทำถนนวิ่งรถใต้ดินในอนาคต และโครงการคมนาคมขนส่งความเร็วสูง Hyperloop
ตามรายงานล่าสุดระบุว่าสาเหตุที่เด็กๆ และโค้ช 13 ชีวิตยังไม่สามารถออกจากถ้ำได้ เนื่องจากขณะนี้ น้ำในถ้ำยังมีปริมาณมาก การเข้า-ออกจากปากถ้ำถึงเนินนมสาว (บริเวณที่พบตัวทีมหมูป่าทั้ง 13 คน) ยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก แม้แต่ซีลหรือนักดำน้ำระดับผู้เชี่ยวชาญก็ยังต้องใช้ระยะเวลาเดินทางเข้าไปและกลับออกมารวมกว่า 11 ชั่วโมง (คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เปิดสาเหตุ ทำไม 13 ชีวิตทีมหมูป่ายังออกจากถ้ำหลวงมาไม่ได้)
- 17.52 น. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามในคำสั่ง ให้ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายแล้ว เฉพาะภารกิจที่อำนวยการและบริหารจัดการช่วยเหลือผู้สูญหายบริเวณวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ตั้งแต่ 6 ก.ค. จนกว่าภารกิจจะแล้วเสร็จ
- ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผอ.ศอร. เล่าถึงภาพยนตร์ในดวงใจ Crimson Tide (1995) “ในหนังจะเห็นว่า ผู้บัญชาการสั่งทดสอบระบบ ทั้งเรือดำน้ำในช่วงที่ลูกเรือล้าที่สุด เพราะถึงจะล้าอย่างไร การสงครามก็ต้องเดินต่อ ถ้าคุณล้าแล้วทดสอบไม่ผ่าน คุณก็แพ้ เรื่องนี้เป็นหนังเชิงบริหารที่ดีมาก” Crimson Tide กำกับโดย โทนี สก็อตต์ นำแสดงโดย แดนเซล วอชิงตัน, จีน แฮกแมน เกี่ยวกับ USS Alabama เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ที่ออกปฏิบัติการเพื่อยับยั้งการก่อสงครามโลกครั้งที่ 3
12.11 น. ผู้ว่าฯ เชียงราย ส่งไลน์อำลาตำแหน่ง บอกเป็นความทรงจำที่มีค่ายิ่ง และตราติดในใจของผมไปชั่วชีวิต
หลังจากที่มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2561 นั้น
ล่าสุด นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ส่งข้อความผ่านทางกลุ่มไลน์ของจังหวัดไปถึงข้าราชการในภาคส่วนต่างๆ โดยมีข้อความระบุว่า
ผมต้องขออนุญาตออกจากกลุ่มไลน์ครับ ด้วยต้องเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ที่จังหวัดพะเยา
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ทำงานร่วมกันมาอย่างดีเยี่ยม ผมชื่นชมในผลงานของเพื่อนร่วมงานทุกท่าน ในการปฏิบัติงานบางครั้งย่อมมีความขุ่นข้องหมองใจเป็นธรรมดา หากผมได้ล่วงเกินท่านใดไป ต้องขอกราบขออภัยด้วยใจจริง
ผมขอฝากผลงานและหลักการดีๆ ที่ได้วางไว้แล้ว หากได้สานต่อ ผมเชื่อว่าเชียงรายของเราจะเจริญยั่งยืนอย่างแน่นอน
15 เดือนในตำแหน่ง ผวจ. ชร. (ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย) คงจะเป็นความทรงจำที่มีค่ายิ่ง และตราติดในใจของผมไปชั่วชีวิต ผมรักเชียงรายและทุกคนมาก ผมคงไม่บอกว่าผมจะลาเชียงราย เพราะเชียงรายได้ติดตราในดวงใจผมไปตลอดชั่วนิรันดรแล้ว
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่าน และขอกล่าวอย่างจริงใจอย่างสุดซึ้งว่า “ผมภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับทุกท่าน โดยเฉพาะในยามวิกฤต กราบขอบคุณทุกพลังและดวงใจของ จนท. และชาวเชียงราย ที่ได้ส่งผลให้มีผลงานอย่างโดดเด่นในวันนี้ ผมรักเชียงราย ผมรักทุกคน”
สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกลางปีในครั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 เห็นชอบให้แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยระดับสูง ตามบัญชีรายชื่อข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่เสนอ ครม.พิจารณา
ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จะยังคงทำหน้าที่บัญชาการในภารกิจช่วยเหลือ13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้เตรียมออกคำสั่ง เพื่อให้นายณรงค์ศักดิ์อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าภารกิจจะเรียบร้อย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย
11.55 น. ในหลวงทรงมีพระราชกระแสขอบใจ ชื่นชม และให้กำลังใจทีมค้นหา 13 ชีวิตทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสขอบใจ ชื่นชม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ได้พบนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีรวม 13 คน โดยทุกคนปลอดภัยดี โดยทรงรับสั่งว่าความสำเร็จของการปฏิบัติในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจ ความรู้ความสามารถ และความเสียสละของทุกฝ่ายทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีได้รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมว่า เหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า ความสมัครสมานสามัคคีและความรักความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด ต่างมีอยู่ในหัวใจอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งพระองค์ทรงชื่นชมยกย่อง และขอให้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ในขั้นต่อไปให้สำเร็จลุล่วงอย่างดีที่สุด สมดังความหวังตั้งใจของทุกฝ่าย จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
10.53 น. พร่องน้ำ-สำรวจโพรง ทำทุกทางช่วยหมูป่า ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์อาจนำตัวออกเลย ซีลใช้เวลาเข้า-ออกถ้ำ 11 ชั่วโมง
ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในฐานะผู้บัญชาการ ศอร.ถ้ำหลวง แถลงข่าวความคืบหน้าการนำตัวนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวงว่า วันนี้ภารกิจหลักยังคงสูบน้ำเหมือนเดิม
ส่วนการวางสายโทรศัพท์เพื่อคุยกับพ่อแม่และญาติ เมื่อวานสายโทรศัพท์ถึงบริเวณ 3 แยก โดยวันนี้การเข้า-ออกยากกว่าเดิม โดยหน่วยซีลใช้เวลาเข้า-ออกจากปากถ้ำถึงเนินนมสาว ใช้เวลา 11 ชั่วโมง ดังนั้นข่าวสารความคืบหน้าต่างๆ ที่ออกมาจึงล่าช้า เพราะตนก็ต้องรอข้อมูลเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ได้มีการวางแผนนำ 13 ชีวิต ออกมาในกรณีฝนตกเติมลงมาจนไม่สามารถรักษาระดับน้ำไว้ได้ โดยเรามีการประเมินสถานการณ์ว่า ขีดเปอร์เซ็นต์ที่เท่าไรเราถึงสู้ได้ถ้าจะต้องออกมาในสภาวะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยขณะนี้เราประเมินสภาพอากาศทุกวัน การสูบน้ำออกตอนนี้เรายังกำไร แต่ไม่อยากให้กลับมาเท่าเดิม
ส่วนอีกแนวทางหนึ่งที่เป็นความหวังในการนำทั้ง 13 ชีวิตออกมาคือ การสำรวจโพรง หรือช่องบริเวณใกล้เคียงกับเนินนมสาว ขณะนี้กำลังคำนวณตำแหน่งที่เด็กอยู่เทียบกับพิกัดผิวดิน และระดมทีมเดินสำรวจบริเวณนั้น
ขณะที่ พล.ต. ฉลองชัย ชัยยะคํา รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำข้อมูลข่าวสารออกมาโดยหน่วยซีลจากปากถ้ำไปถึงจุดที่ 13 ชีวิตอยู่ ใช้เวลา 11 ชั่วโมง ตอนเข้าไป 6 ชั่วโมง ขาออก 5 ชั่วโมง เพราะมีกระแสน้ำช่วย ดังนั้นการรับข้อมูลข่าวสารมาตัดสินใจจึงใช้ระยะเวลา
แต่ยืนยันว่าการสูบน้ำทำไปได้เยอะ ทำให้การส่งอุปกรณ์สนับสนุนทำได้ดีขึ้น รวมถึงเมื่อซีลที่เข้าไปถึงตัวเด็กแล้วก็มีข้อมูลจากซีลว่า บริเวณนั้นพอจะมีโพรงหรือช่องหรือไม่ เพื่อจะได้โฟกัสการค้นหา
เรื่อง: พลวุฒิ ทรงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต
4 กรกฎาคม 2561
นักดำน้ำอังกฤษเผยพบเด็กๆ ทีมหมูป่าฯ ในถ้ำหลวง หลังวางเส้นนำทางจนเชือกหมดพอดี
ภารกิจค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ในถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย ได้เปลี่ยนมาเป็นปฏิบัติการช่วยเหลือตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) หลัง จอห์น โวลันเธน และริชาร์ด สแตนตัน สองนักประดาน้ำชาวอังกฤษจากสมาคมกู้ชีพผู้ติดถ้ำของอังกฤษ (BCRC) ดำน้ำไปพบเด็กๆ และผู้ฝึกสอนรวม 13 ชีวิตบนเนินนมสาว ห่างออกไปจากหาดพัทยาราว 400 เมตร เมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา
แต่พวกเขาพบเด็กๆ เหล่านั้นได้อย่างไร เป็นคำถามที่ทุกคนอยากรู้คำตอบ และเรื่องราวนี้ก็เพิ่งจะถูกเปิดเผย
เวอร์นอน อันส์เวิร์ธ เพื่อนของโวลันเธน และนักสำรวจถ้ำที่เชี่ยวชาญถ้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเปิดเผยกับ The New York Times ว่า ในวันที่พวกเขาพบเด็กๆ นั้น โวลันเธน และสแตนตันได้รับมอบหมายให้เป็นชุดปฏิบัติการแนวหน้าเพื่อวางเส้นนำทางในถ้ำสำหรับทีมซีล และทีมกู้ภัยนานาชาติคนอื่นๆ ที่จะตามมาภายหลัง
แต่หลังจากที่โวลันเธน วางเส้นนำทางจนสุดปลายเชือกแล้ว เขาก็ได้ว่ายขึ้นโผล่เหนือน้ำ ซึ่งทันใดนั้นเขาก็พบว่า 13 ชีวิตที่รอคอยความช่วยเหลือตลอด 9 วันที่ผ่านมากำลังจ้องมาที่เขาด้วยแววตาแห่งความหวังผ่านแสงสว่างจากไฟที่คาดอยู่บนศีรษะของโวลันเธน และเรื่องราวหลังจากนั้นเราก็ได้เห็นผ่านคลิปวิดีโอที่หนึ่งในนักประดาน้ำถ่ายไว้นั่นเอง
อันส์เวิร์ธ เล่าว่าเพื่อนของเขาอาจคลาดกับเด็กๆ ในค่ำคืนวันนั้น หากเชือกที่เตรียมไว้สั้นกว่านั้น 15 ฟุต เพราะเมื่อพวกเขาวางเส้นนำทางจนสุดปลายแล้วก็จะเสร็จภารกิจของวันนั้นและต้องหันหลังกลับก่อน ขณะที่เด็กๆ ก็อาจต้องนั่งรอความช่วยเหลือท่ามกลางความมืดมิดต่อไปอีกหนึ่งคืนโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีคนมาช่วยหรือไม่
“เขาวางเส้นนำทางจนเชือกหมดแล้วก็ฝังแกนเชือกไว้ในดินโคลน ซึ่งในตอนนั้นพวกเขา (เด็กๆ) ก็กำลังมองลงมา” อันส์เวิร์ธเล่า
เรื่อง: คมปทิต สกุลหวง
เตรียมความพร้อม ซ้อมเพื่อหาข้อแก้ไข แผนลำเลียง 13 แข้งหมูป่าฯ ออกจากถ้ำ
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่มากกว่า 100 นาย ซ้อมเสมือนจริงกรณีหากสามารถนำนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงออกมาได้สำเร็จ
สำหรับการซ้อมในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 โดยมีการนำปัญหาที่พบในการซ้อมครั้งแรกมาปรับปรุงแก้ไข สิ่งที่เปลี่ยนไปคือมีการนำหินคลุกมาเทถนนให้รถพยาบาลทำงานได้สะดวก รวมถึงมีการนำกำลังทหารมาตั้งเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อกันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ ขณะที่ก่อนหน้านี้มีการจัดระเบียบจราจรรอบพื้นที่ รวมถึงจัดระเบียบที่จอดรถใหม่
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า การซ้อมมีขึ้นให้เจ้าหน้าที่มีความพร้อมอยู่ตลอด เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อใด นอกจากนี้ในการซ้อมแต่ละครั้ง จะพบปัญหาและนำมาประชุมวิเคราะห์แก้ไข และเตรียมพร้อมให้มากที่สุดเพื่อให้ทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัย
สำหรับบรรยากาศในการซักซ้อมเป็นไปด้วยดี อาจมีอุบัติเหตุเล็กน้อยระหว่างการเคลื่อนย้ายซึ่งเป็นที่ลาดชันและลื่น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแก้ไขปรับพื้นที่ทันที รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายมากขึ้น
เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
เมื่อเวลา 10.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงข่าวความคืบหน้าการนำนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าอะเคเดมีแม่สาย ออกจากถ้ำหลวง โดยตอบคำถามสำคัญที่ว่าจะนำตัวทั้ง 13 คนออกมาเมื่อใด ว่า ทั้ง 13 ชีวิตแข็งแรงดี รวมถึงโค้ช ส่วนการนำออกไม่จำเป็นต้องออกพร้อมกัน
ส่วนกระแสข่าวที่มีการประเมินว่าทั้ง 13 คนต้องอยู่ฟื้นฟูในถ้ำอีก 4 เดือนนั้น นายณรงค์ศักดิ์ ส่ายหน้า ก่อนจะตอบว่า ไม่เคยยืนยันเรื่องตัวเลขวัน-เวลา โดยยืนยันในหลักการว่าต้องพร้อม 100% ถึงนำออก
ส่วนระยะเวลาการนำออกจากเนินนมสาวมาถึงปากถ้ำ ก็ขึ้นอยู่กับระดับน้ำ ถ้าน้ำลดลงมากก็สามารถออกมาได้เร็ว เพราะเรารับไม่ได้กับความเสี่ยงทุกสถานการณ์ ซึ่งต้องรอระดับน้ำที่จะพาทุกคนเข้าไปได้
แต่ทั้งนี้ปริมาณน้ำจะลดลงเร็วแค่ไหนเราคำนวณไม่ได้ เพราะรูปทรงของถ้ำมันไม่ใช่เลขาคณิต เป้าหมายตอนนี้คือการสูบน้ำ และพร่องน้ำเพื่อลดระดับน้ำในถ้ำ
ส่วนการเตรียมพร้อมน้องๆ นั้นมีการทดสอบใส่หน้ากาก แต่ยังไม่เริ่มลงน้ำ นอกจากนี้ก็มีการปฐมพยาบาล ทานอาหารเพื่อฟื้นฟูร่างกาย การประเมินร่างกายจะดูทางกายภาพเป็นหลัก เช่น สามารถเดินได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ เชียงราย ยังกล่าวถึงแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมหลังช่วยเหลือและกู้ภัย 13 ชีวิต ว่ามีแผนอยู่แล้ว และจะทำการปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ขึ้น รวมถึงมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มากขึ้นด้วย
เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
- 12.32 น. โรเบิร์ต ฮาร์เปอร์ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ (เสื้อสีแดง) มีกำหนดกลับวันนี้ (3 ก.ค.) เพราะมีนัดตรวจสุขภาพกับแพทย์ ด้าน จอห์น โวลันเธน และริชาร์ด สแตนตัน สองนักประดาน้ำชาวอังกฤษผู้พบทีมหมูป่าเป็นกลุ่มแรกยังคงปฏิบัติภารกิจต่อ
- 11.24 น. เชือกสั้นอาจไม่พบ! เวอร์นอน อันสเวิร์ธ เพื่อนจอห์น โวลันเธน หนึ่งในนักดำน้ำอังกฤษที่พบทีมหมูป่าฯ กลุ่มแรกเผย โวลันเธนโผล่ศีรษะขึ้นเหนือน้ำและพบเด็กๆ ในคืนวันที่ 2 ก.ค. หลังเขาวางเส้นนำทางในถ้ำจนสุดสายพอดี ถ้าเชือกสั้นกว่านั้น 15 ฟุตอาจไม่พบเด็กๆ เพราะต้องกลับก่อน
- 10.45 น. ไพโรจน์ พิเชฐเมธากุล ศิลปินไทยในนิวยอร์ก วาดรูปผู้ว่าฯ เชียงรายบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ New York Post พร้อมข้อความยินดีกับทีมหมูป่าทั้ง 13 คนว่า “ฮีโร่คนไทย ท่านผู้ว่าฯ เชียงราย ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทั่ว New York ฝรั่งร่วมชื่นชม”
- 10.40 น. ผู้ว่าฯ เชียงรายเผย มีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้ออุปกรณ์สนับสนุนภารกิจต่างๆ ได้พอสมควร หากมีการไปเรี่ยไรเงินเพื่อวัตุประสงค์เหล่านี้โดยไม่ได้ผ่านจากปากผู้ว่าฯ ถือว่าไม่ใช่
- 10.28 น. ผู้ว่าฯ เชียงรายเผย กรณีที่มีข่าวว่าการช่วยเหลือ 13 ชีวิตต้องใช้เวลา 4 เดือนนั้น ที่ผ่านมาตนไม่เคยพูดเรื่องตัวเลข แต่ได้เตรียมแผนสำหรับการช่วยเหลือไว้แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนภารกิจที่ดำเนินการจะต้องเป็นไปตามลักษณะงาน
- 10.18 น. พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ผู้ว่าฯเชียงราย ได้รับการโปรดเกล้าฯให้เป็นผู้ว่าราชการ จ.พะเยาแล้ว แต่มหาดไืทย จะอกคำสั่ง เพื่อให้ผู้ว่าฯอยู่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยทีมหมูป่า ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จนกว่าภารกิจจะเรียบร้อย
- Thai NavySEAL เผยภาพ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หมอที่จบหลักสูตรซีล อยู่กับ ‘ทีมหมูป่า’ 13 คนที่เนินนมสาวในถ้ำหลวง ดูแลการฟื้นร่างกาย ให้พาวเวอร์เจล ยา น้ำดื่ม และทำแผล น้องๆ เริ่มแข็งแรงและยิ้มแย้ม ญาติๆ นั่งดูคลิปที่หน้าถ้ำอย่างชื่นมื่น
- ขณะที่เพจรวมพล คนรักทหารเรือ และกองทัพเรือ เผยแพร่คลิป 13 ชีวิตทีมหมูป่าในถ้ำหลวง ที่ได้รับการดูแลใกล้ชิดจากทีมซีล พร้อมรายงานตรงกันว่าทีมหมูป่าทุกคนสบายดี ได้รับพาวเวอร์เจล ทำแผล และประเมินสุขภาพ มีหน่วยซีล 7 นายเป็นเพื่อน คาดว่ากำลังสนุกสนาน ไม่ต้องห่วง
- 9.42 น. พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี โดยรับสั่งว่าการชมเชยเบื้องต้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ขอให้รักษาสติ สมาธิ ปัญญาในการปฏิบัติภารกิจ โดยภารกิจจะสำเร็จเรียบร้อยก็ต่อเมื่อทุกคนออกมาและกลับสู่ครอบครัวด้วยความปลอดภัย
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากการวางแผนทำงานอย่างเป็นระบบ มีความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั้งคนไทยและต่างชาติที่มาร่วมภารกิจหรือส่งกำลังใจมาช่วย
การนำคณะออกจากถ้ำต้องคิดและวางแผนให้ดี คำนึงถึงสุขภาพและภาวะจิตใจก่อนนำตัวออกมา ต้องใช้ดุลพินิจ วุฒิภาวะ ศรัทธา และฉันทะที่ถูกต้อง หาวิธีการนำตัวออกมาอย่างปลอดภัย รอบคอบ ไม่ประมาท อย่าให้เกิดการบาดเจ็บหรือการสูญเสียทั้งคณะเด็กและคณะผู้ช่วยเหลือ จากนั้นจึงส่งตัวเข้ารับการเช็กสภาพร่างกาย ณ โรงพยาบาลให้เรียบร้อยและส่งกลับสู่ครอบครัว ส่วนบริเวณถ้ำหลวงให้ฟื้นฟูพื้นที่และจัดระบบความปลอดภัยให้รัดกุม
นอกจากนี้ยังทรงรับสั่งว่าทำอะไรต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ ตระหนักถึงความเป็นมาและนำประสบการณ์ไปปรับใช้ นำบทเรียนนี้ไปใช้ในการวางแผนระบบแจ้งเตือนภัยต่างๆ จัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ในการแจ้งเตือนและช่วยชีวิตที่ทันสมัย พร้อมทั้งให้หน่วยงานบริหารจัดการน้ำไปประเมินสถานการณ์เพื่อเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ โดยทำแผนเผชิญเหตุ วิธีป้องกันและแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง
ส่วนชาวต่างประเทศที่มาร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ให้ดูแลให้ดี เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้พาท่องเที่ยวต้อนรับอย่างดี โดยทรงรับเป็นอาคันตุกะของพระองค์จนกว่าจะเดินทางกลับ
หลังจากนี้จะทรงมีพระราชกระแสขอบใจ ชื่นชม ชมเชยทุกหน่วยงานทั้งของไทยและต่างประเทศ ตลอดจนประชาชนชาวไทยและต่างประเทศทั่วโลกต่อไป
3 กรกฎาคม 2561
ฟื้นฟู 13 ชีวิตออกนอกถ้ำ อาจใช้เวลาเป็นเดือน เร่งวางสายโทรศัพท์เข้าถ้ำให้แข้งหมูป่าคุยกับญาติ
17.15 น. วันที่ 3 ก.ค. นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงความคืบหน้าการช่วย 13 ชีวิตที่ติดภายในถ้ำหลวง จ.เชียงราย ว่าทางการแพทย์คุยกันแล้วเรื่องสารอาหารในการอนุบาลเด็กให้มีความแข็งแรง รวมทั้งดูเรื่องของโรคติดต่อของทั้ง 13 ชีวิตอย่างใกล้ชิด
ขณะที่แผนหลักในการนำน้องออกจากถ้ำ คือการพร่องน้ำลงมาให้ต่ำที่สุด แต่หากทำไม่ได้ด้วยฤดูกาลก็จะมีแผนสำรอง สุดท้ายแล้วน้องๆ ทุกคนจะกลับสู่อ้อมกอดพ่อแม่ทุกคนอย่างปลอดภัย
ขณะที่ พล.ร.ต. อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยซีล กล่าวว่า น้องๆ ทั้ง 13 คนสบายดี โดยมีซีลเข้าไปอยู่ด้วย 7 คน ในจำนวนนี้มีนายแพทย์ 1 คน และพยาบาลเวชศาสตร์ 1 คน พร้อมมีการนำสารดูดคาร์บอนเข้าไปด้วย
ผบ.หน่วยซีล กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ต้องเร่งรีบ โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งวางสายโทรศัพท์เพื่อให้ญาติสื่อสารกับน้องๆ ได้ และคาดว่าจะเสร็จภายในคืนนี้
เมื่อถามว่าจะใช้เวลาในการพาทั้ง 13 ชีวิตออกมานานเท่าไร ผบ.หน่วยซีล กล่าวว่า “กี่เดือนดีครับ คิดเป็นเดือนดีกว่า สัก 4 เดือน เพราะ 1 เดือนก็ดีขึ้น 1 อาทิตย์ก็ดีไม่ต้องเร่งรีบ”
อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าฯ เชียงรายกล่าวต่อทันที ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเต็มกำลัง จะออกมาเมื่อใดอยู่ที่ความแข็งแรงของเด็ก โดยหลักการปฏิบัติคือเด็กต้องปลอดภัย 100%
ส่งกำลังใจให้ทีมหมูป่าฯ ผ่านงานศิลปะ
นับจากวันที่คนไทยทราบข่าวการหายตัวไปในถ้ำหลวงของสมาชิกทีมหมูป่าฯ ทั้ง 13 ชีวิตนอกจากหลายคนจะติดตามข่าวคราวที่เกิดขึ้นแบบวินาทีต่อวินาทีแล้ว ผู้คนจำนวนไม่น้อยบนโลกออนไลน์ยังส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และทีมหมูป่าฯ กลับบ้านอย่างปลอดภัย ผ่านผลงานศิลปะรูปแบบ Fan Art ซึ่งมีมากมายนับไม่ถ้วน และนี่เป็นตัวอย่างแค่บางส่วนที่เราคัดสรรมาฝาก
หมายเหตุ: หากเครดิตเจ้าของภาพผิดพลาดประการใด ทางทีมงาน THE STANDARD ขออภัย และจะทำการแก้ไขอย่างเร่งด่วนหากมีข้อมูลที่ถูกต้อง
1. ภาพโดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
2. ภาพโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Patsita Apichaiviroj
3. ภาพโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Piyapong Sirimongkol
4. ภาพโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Yosita Nititamatasak
5. ภาพโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Zing Peerapong Uthaipan
6. ภาพโดยเพจ Jarutto The Pharmatist
7. ภาพโดยเฟซบุ๊ก sainsai
8. ภาพโดยเพจ Art’s Porpoh
9. ภาพโดยเพจ Art’s Porpoh
10. ภาพโดยเพจ Buttersugar104
11. ภาพโดยเพจ Smile Digital Art
12. ภาพโดยเพจ Stephff Tribal Art
13. ภาพโดยเพจ Stephff Tribal Art
14. ภาพโดยเพจ Stephff Tribal Art
15. ภาพโดยเพจ ตัวกลม สตูดิโอ
16. ภาพโดยเพจ หมาจ๋า
17. ภาพโดยเพจ ติ่งเอย ทำไมจึงติ่ง
18. ภาพโดยเพจ เลขา
19. ภาพโดยเพจ ไอ่เป็ด
17.00 น. หน่วยงานกู้ภัยอังกฤษชี้เป็นเรื่องยากที่จะสอนเด็กทีมหมูป่าฯ ดำน้ำ ขณะที่ CNN ตีข่าวอาจต้องใช้เวลาช่วยนาน 4 เดือน
บิล ไวต์เฮาส์ รองประธาน British Cave Rescue Council ของอังกฤษ ซึ่งเป็นองค์กรที่ส่งทีมนักประดาน้ำเข้าร่วมภารกิจค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมีในถ้ำหลวง มองว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่เจ้าหน้าที่จะสามารถสอนให้เด็กๆ ดำน้ำได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับวิทยุ BBC Radio 4 วันนี้ ไวต์เฮาส์กล่าวว่า “มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเช่นนั้น ส่วนทางเลือกอื่นก็คือการนำเด็กๆ เข้าไปในอุปกรณ์ดำน้ำที่เปรียบเสมือนทุ่นแทนการสวมที่ครอบปากเหมือนกับที่นักประดาน้ำใช้ และทำให้มีน้ำหนักพอเหมาะจนสามารถลอยอยู่บนผิวน้ำได้ ซึ่งวิธีนี้เคยใช้ได้ผลมาแล้วกับผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในถ้ำที่น้ำท่วม
เขายังเล่าถึงวิธีการที่นักประดาน้ำชาวอังกฤษสามารถดำน้ำไปถึงหาดพัทยาจนพบกับเด็กๆ บนเนินห่างออกไปไม่ไกลว่า พวกเขาว่ายทวนกระแสน้ำและต้องหลบไม่ให้ชนกับผนังถ้ำ เพราะบางจุดของถ้ำเป็นทางตีบ ส่วนระยะทางของถ้ำที่ต้องดำน้ำนั้นไกลประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยที่ครึ่งหนึ่งมีน้ำท่วมขังจนมิด ส่วนอีกครึ่งเป็นทางเปิด และเมื่อคำนวณเวลาไปกลับแล้วอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ส่วนวิธีการสูบน้ำออกจากถ้ำนั้น ไวต์เฮาส์มองว่ามีความเป็นไปได้ไม่มากที่จะพร่องน้ำออกจนสามารถให้เด็กๆ เดินออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย เพราะการสูบน้ำให้หมดในช่วงฤดูฝนไม่ใช่เรื่องง่าย
ไวต์เฮาส์ระบุว่า ทีมนักดำน้ำของอังกฤษได้รับมอบหมายให้เป็น Team A โดยเป็นหัวหอกเข้าไปในถ้ำก่อน เพราะพวกเขามีทักษะและเปี่ยมประสบการณ์ โดยหนึ่งในหลายๆ สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือการวางเครื่องนำทางตามจุดต่างๆ เพื่อที่ว่าพวกเขาจะสามารถกลับออกมาได้ ขณะเดียวกันคนอื่นๆ ก็สามารถตามเข้าไปได้เช่นกัน
สำหรับระยะเวลาในการช่วยเหลือเด็กๆ ออกมานั้น มีการประเมินว่าหากสถานการณ์ไม่เป็นใจ อาจต้องใช้เวลานานถึง 4 เดือนจึงจะสามารถนำเด็กๆ ออกมาได้ โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยซีลของไทยและทีมกู้ภัยนานาชาติได้เตรียมส่งเสบียงอาหารให้กับเด็กๆ และโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีสำหรับทานนาน 4 เดือนไว้แล้ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยในถ้ำเตือนว่า ไม่ควรพาเด็กๆ ว่ายน้ำออกมาอย่างเร่งรีบ เพราะเป็นวิธีที่เสี่ยงอันตราย เนื่องจากพวกเขาไม่เคยผ่านการฝึกฝนด้านการดำน้ำมาก่อน แต่ทางที่ดีควรรอให้ระดับน้ำในถ้ำลดลงก่อน ซึ่งแม้จะกินเวลานานหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน แต่ก็เป็นหนทางที่ปลอดภัยกว่า
16.22 น. ทีมนักดำน้ำอังกฤษปรากฏตัวหน้าถ้ำหลวง ผู้ไม่คุยกับสื่อฯ ใด แต่คือคนกลุ่มแรกที่ได้คุยกับ 13 แข้งหมูป่า
เพจ Thai NavySEAL เผยภาพแรกของการพบนักฟุตบอล 12 คน รวมทั้งโค้ชของทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนกว่า 10 วัน
บทสนทนาในคลิปเป็นภาษาอังกฤษทำให้เราทราบว่าทีมแรกที่พบเด็กๆ เป็นทีมนักดำน้ำจากต่างประเทศ
07.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2561 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงข่าวยืนยันทีมดำน้ำพบเด็กๆ ทั้ง 13 คนที่เนินนมนาง ห่างจากหาดพัทยาไป 400 เมตร ยืนยันทุกคนปลอดภัยไม่มีอาการน่ากังวล พร้อมยกเครดิตให้ทีมนักดำน้ำจากอังกฤษในฐานะทีมแรกที่ค้นพบ
Richard Williams Stanton และ John Volanthen 2 นักดำน้ำถ้ำ เดินทางมาถึงไทยพร้อมกับ Robert Harper นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ทั้งหมดมาจาก British Cave Rescue Council (BCRC) มาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน เพื่อภารกิจนี้โดยเฉพาะ
ตั้งแต่เดินทางมาถึงถ้ำหลวงจนถึงวันนี้ พวกเขายังไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ไม่เว้นแม้ BBC จากประเทศบ้านเกิด
แต่พวกเขาคือทีมแรกที่ได้พูดกับ 13 ชีวิตในถ้ำ
Richard Williams Stanton และ John Volanthen ปรากฏตัวบริเวณหน้าถ้ำหลวงเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ต่อทันที และยังคงไม่พูดคุยกับสื่อมวลชนไม่ว่าจะสำนักใด
ชายจากอังกฤษผู้ไม่เคยคุยกับสื่อฯ ใด แต่พวกเขาคือคนกลุ่มแรกที่ได้พูดคุยกับ 13 แข้งหมูป่า
“ขอบคุณครับ” “ผมหิว” “ผมมีความสุขมาก” คือคำพูดของ 13 ชีวิตที่ส่งผ่านเขาทั้งคู่มาถึงเราทุกคน
16.13 น. นายกฯ เผยจะนำ 13 ชีวิตออกจากถ้ำก่อนน้ำมา แจงปมย้ายผู้ว่าฯ ไปพะเยา เชื่อคนดีอยู่ที่ไหนก็เจริญ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 ชีวิตว่าจะต้องดำเนินการแผนขั้นตอนต่อไป ซึ่งเมื่อคืนนี้ได้ให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงไปแล้ว และหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายผ่าน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว ในส่วนการบริหารงานความช่วยเหลือระยะที่ 2 คือการนำตัวเด็กออกมา เพราะยังติดเรื่องน้ำและมีทางออกทางเดียวคือปากถ้ำ โดยขอให้ฟังการแถลงข่าวจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นหลัก จากนั้นคือการนำตัวเด็กไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล จึงขอความร่วมมือสื่ออย่าเพิ่งไปวุ่นวายกับเด็ก ยังมีเวลาให้แถลงข่าวไปพร้อมๆ กัน
ทั้งนี้เหตุการณ์เมื่อคืนนี้สร้างความปลาบปลื้มใจให้คนไทยทั้งประเทศและต่างประเทศที่ยินดีกับความสำเร็จ และจะให้แนวทางการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นแผนแม่บทกู้ภัย ยกระดับมาตรฐานประเทศ และขอบคุณต่างประเทศที่มาช่วย ซึ่งงานจะสำเร็จไม่ได้ถ้าทุกคนไม่ช่วยกัน ทั้งเจ้าหน้าที่ ภาคเอกชน ประชาชนที่เสียสละ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนี่คือประเทศไทย คนไทย ไทยนิยม
พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ระบายจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ซึ่งมีการพูดคุยตั้งแต่ระบายน้ำวันแรกและพอใจการช่วยเหลือของรัฐ โดยจะต้องปรับคืนสภาพพื้นที่ให้เข้าสู่ภาวะปกติหลังนำทีมหมูป่าออกจากถ้ำว่าจะทำอย่างไรให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระดับประเทศและโลก จึงต้องสำรวจเพื่อรองรับความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยสำรวจชัดเจน ซึ่งวันนี้ได้แผนผังถ้ำมาแล้ว
ส่วนอุปสรรคจากฝนที่ตกมาช่วงนี้ก็เชื่อว่าจะสามารถนำเด็กออกมาได้ก่อนน้ำจะมีปริมาณมาก ทั้งเรื่องการช่วยเหลือ อาหาร และยา พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณและขอยกให้ทุกภาคส่วนเป็นพระเอกด้วยกัน ซึ่งขณะนี้ต้องเร่งดำเนินการพร่องน้ำ ระบายน้ำ สูบน้ำทั้งบนภูเขาและด้านล่างเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายทีมหมูป่าออกมาได้ ซึ่งจะต้องทำด้วยความรอบคอบ อย่าไปกำหนดเวลา ตราบใดที่ยังแข็งแรงก็สามารถดูแลได้ รวมถึงการติดต่อสื่อสารได้
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังฝากบอกเด็กทั้งหมดว่าหากออกมาแล้วให้ทำตัวเป็นคนดี และจะทำตามสัญญาว่าจะพาไปเที่ยวพัทยาหากแข็งแรงแล้ว โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ
ส่วนเรื่องการปฏิบัติงานของ นายณรงศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ก็ได้ชื่นชมไปแล้วในที่ประชุม แต่การโยกย้ายเป็นไปตามวงรอบปกติ ซึ่งต้องการให้คนมีฝีมือไปทำงานพัฒนาพื้นที่อื่น คนดีอยู่ที่ไหนก็เจริญ และได้อวยพรให้นายณรงศักดิ์ในการไปรับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เพราะมีการโปรดเกล้าฯ ไปแล้วก็ต้องเป็นไปตามหลักการ
15.10 น. ซีลขอรับบริจาคหน้ากากฟูลเฟซมาสก์ไซส์เล็กสำหรับเด็ก หนุนภารกิจช่วย 13 แข้งหมูป่าออกจากถ้ำ
THE STANDARD รายงานจากหน้าถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ว่าวันนี้ (3 ก.ค.) เวลา 14.00 น. นายศุภณัฐ ฐิติกาล เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า ล่าสุดจากการที่หน่วยซีลประสานขอหน้ากากฟูลเฟซมาสก์ไซส์ S และ SS จำนวน 15 อัน เนื่องจากขนาดที่เตรียมมานั้นเป็นไซส์ M เมื่อนำไปทดลองกับเด็กที่มีขนาดและอายุใกล้เคียงกับน้องๆ แล้ว พบว่ามีขนาดใหญ่เกินไป โดยหน่วยซีลได้ประสานขอให้เปลี่ยน และขอรับบริจาคฟูลเฟซมาสก์ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
ขณะที่เมื่อถามว่าหากน้องๆ ไม่มีประสบการณ์การดำน้ำ จะสามารถใช้หน้ากากดำน้ำแบบเต็มใบได้หรือไม่
เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า เบื้องต้นทางหน่วยซีลจะเป็นผู้ฝึกสอนการดำน้ำเบื้องต้น แต่หน้ากากดังกล่าวนั้น มันสามารถใช้ได้แม้คนที่ดำน้ำไม่เป็น เพราะเมื่อสวมไปแล้ว จะสามารถหายใจได้ทั้งทางปากและทางจมูกแบบปกติทันที และยังสามารถใช้ได้ทั้งในน้ำเย็นและน้ำอุ่น
14.50 น. ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติไขข้อสงสัย ทำไมเจ้าหน้าที่ยังพาเด็กดำน้ำออกจากถ้ำหลวงทันทีไม่ได้
ถึงแม้จะพบเด็กๆ ทั้ง 12 คนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีในถ้ำหลวงแล้ว แต่เวลานี้มีหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถพาเด็กๆ ว่ายน้ำกลับออกมาทันทีได้
บุตช์ เฮนดริกส์ นักประดาน้ำกู้ภัยประสบการณ์สูง และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธาน Lifeguard Systems ในสหรัฐอเมริกา ได้ไขข้อสงสัยในเรื่องนี้กับสำนักข่าว The Guardian ว่าสิ่งสำคัญที่พวกเขาทราบก็คือเด็กๆ ในทีมหมูป่าอะคาเดมีไม่มีใครว่ายน้ำได้ ด้วยเหตุนี้ทีมช่วยเหลือจึงไม่สามารถนำอุปกรณ์และหน้ากากช่วยหายใจไปให้เด็กๆ เพื่อพาว่ายน้ำกลับออกมาได้โดยตรง ดังนั้นในเวลานี้จึงจำเป็นต้องให้พวกเด็กๆ สวมชุดดำน้ำแบบทำขึ้นพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำจนเกินไป
อีกปัญหาสำคัญคือทางเดินในถ้ำแคบมาก เจ้าหน้าที่จะสามารถพาเด็กลอดออกมาได้เพียงครั้งละคนเท่านั้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีหน่วยกำลังเสริม หากมีปัญหาเกิดขึ้นจะได้มีคนคอยช่วยเหลืออยู่ข้างหลัง เพราะฉะนั้นจึงต้องมีจุดพักระหว่างทางซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนการวิ่งผลัด โดยเด็กๆ จะถูกส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่รออยู่ระหว่างจุดต่างๆ
12.22 น. เปิด 8 ขั้นตอนช่วยเหลือทีมหมูป่า 13 ชีวิตของโรงพยาบาลแพทย์สนาม
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เผยแนวทางแผนรับมือของโรงพยาบาลแพทย์สนาม หากช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตแล้ว ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. หน่วยเตรียมขนส่ง จะต้องนำผู้ประสบภัยให้อยู่บนบอร์ดลำเลียงและประเมินการตอบสนองของผู้ป่วยเบื้องต้น ก่อนนำผู้ป่วยลำเลียงออกจากปากถ้ำและขึ้นบันไดมาที่รถพยาบาล
2. หน่วยให้การรักษาเบื้องต้น หากทีมพบเจอผู้ประสบภัยแล้วจะมีการประเมินอาการว่าอยู่ในระดับไหน ถ้าหากอยู่ในระดับที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก็จะนำออกมาบริเวณหน้าถ้ำและขึ้นรถพยาบาลทันที แต่หากผู้ประสบภัยอยู่ในอาการวิกฤต ทางทีมแพทย์จะปฐมพยาบาลเบื้องต้นภายในถ้ำเลย หากอาการดีขึ้นจึงจะนำออกมาขึ้นรถพยาบาลทันที
3. หน่วยลำเลียงผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาลไปยังโรงพยาบาลสนาม (ลักษณะเป็นห้องผ่าตัดแบบเร่งด่วน) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้ปากทางเข้าถ้ำ
4. หน่วย Triage and Resuscitation หรือหน่วยแพทย์ที่วิเคราะห์อาการตามความรุนแรง จะทำการคัดแยกอาการของผู้ประสบภัยตามความรุนแรงและความเร่งด่วน ให้การรักษา และตัดสินใจด้านวิธีการในการส่งต่อ โดยคำนึงถึงความเร่งด่วน หากผู้ป่วยที่มีอาการเร่งด่วนอาจจะต้องรักษาที่โรงพยาบาลสนาม
5. หน่วยขนส่งผู้ป่วยไปยังท่าอากาศยาน หากทีมแพทย์วิเคราะห์อาการแล้วพบว่าสามารถไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายได้ ก็จะรีบลำเลียงผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาลไปลานบินจักกะผัก
6. หน่วยดูแลผู้ป่วยขณะส่งทางอากาศ ทางทีมแพทย์ Sky Doctor จำนวน 2 ท่านจะปฐมพยาบาลผู้ป่วยบนเฮลิคอปเตอร์ โดยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจและทหารจะรับผิดชอบในการเป็นแพทย์ดูแลขณะขนส่งทางอากาศ
7. หน่วยดูแลผู้ประสบภัยที่ลานบินเป้าหมายจะมีทีมแพทย์ดูแลผู้ประสบภัยจากสนามเก่าไปยังโรงพยาบาลเชียงราย
8. หน่วยดูแลผู้ประสบภัยที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อได้มีการประเมินผู้ป่วยเบื้องต้นที่โรงพยาบาลสนามแล้ว ไม่มีการสื่อสารมาแจ้งให้ทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลรายเพื่อเตรียมการรักษา
ขั้นตอนของการปฐมพยาบาลจะทำภายใน 30 นาที
- 11.46 น. ทีมแพทย์ประเมินสุขภาพของน้องๆ 13 ชีวิตในถ้ำหลวง พบว่า 11 คนอยู่ในระดับสีเขียวคือปลอดภัยดี อีก 2 อยู่ในระดับสีเหลือง ยืนยันว่าไม่มีใครอยู่ในระดับสีแดง และหากได้รับอาหารและยาจะกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง #13ชีวิตรอดแล้ว
11.25 น. นายกรัฐมนตรีในวันที่ภารกิจช่วย 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี ประสบความสำเร็จในการค้นหา
“ดีใจอยู่แล้ว” คือคำตอบผ่านรอยยิ้ม ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเช้าวันนี้ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสามารถค้นหาจนพบ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ระหว่างเดินจากตึกไทยคู่ฟ้าข้ามมายังตึกบัญชาการ 1 เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์
โดยวันนี้ นายกฯ ใช้เวลานานเป็นพิเศษบนตึกไทยคู่ฟ้า เนื่องจากมีภารกิจด่วน ต้องประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี
นายกฯ พนมมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำเนียบรัฐบาล เดินฝ่าวงสื่อขึ้นตึก วันนี้สวมเสื้อสีเหลือง แม้จะเป็นวันอังคารเดิมๆ กับภารกิจการประชุมประจำสัปดาห์ แต่หลายคนเชื่อว่า นอกจากนายกฯ ที่บอกว่าดีใจแล้ว ประชาชนคนไทยที่ติดตามข่าวต่างมีความสุขและลุ้นให้ทุกคนปลอดภัยไม่ต่างกัน
“ให้ทางพื้นที่จัดการให้เรียบร้อยก่อน และได้พูดคุยกับผู้ว่าฯ เชียงรายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว จึงขอขอบคุณผู้ว่าฯ เชียงรายและทุกฝ่ายด้วย” นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย
11.18 น. เปิดประวัติทีมกู้ภัยชาวอังกฤษ ฮีโร่กลุ่มแรกที่พบผู้สูญหายทั้ง 13 คนในถ้ำหลวง
ในภารกิจค้นหาโค้ชและนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอนตลอด 10 วันที่ผ่านมา มีทีมกู้ภัยจากอังกฤษเข้าร่วมภารกิจครั้งนี้ 4 คน ซึ่งประกอบด้วย นายจอห์น โวลันเธน, นายริชาร์ด สแตนตัน และนายโรเบิร์ต ฮาร์เปอร์ ที่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ไทย และเดินทางถึงไทยหลังทีมหมูป่าอะคาเดมีติดอยู่ภายในถ้ำแล้วนาน 3 วัน รวมถึงนายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษที่เชี่ยวชาญถ้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงรายก็เข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้
โดยนายโวลันเธนและนายสแตนตัน คือฮีโร่กลุ่มแรกที่เดินทางไปถึงจุดพื้นที่แห้งที่ผู้สูญหายทั้งหมดอยู่และพบว่า พวกเขาทั้งหมดยังมีอยู่ชีวิตอยู่และปลอดภัยดี โดยทั้งหมดอยู่ในสภาพหิวโซและดื่มน้ำภายในถ้ำเพื่อประทังชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 21.45 น. ของคืนวันที่ 2 กรกฎาคม 2561
ด้านสมาคม The British Cave Rescue Council ที่มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและติดอยู่ภายในถ้ำของอังกฤษระบุว่า ทีมกู้ภัยทั้ง 3 คน ที่ส่งมานี้ ทุกคนล้วนแต่มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์สูงในการสำรวจถ้ำจำนวนมาก จึงทำให้พวกเขาเข้าใจระบบโครงสร้างต่างๆ ภายในถ้ำเป็นอย่างดี ส่งผลให้ภารกิจในครั้งนั้นรัดกุมและแม่นยำเพิ่มมากขึ้น ด้วยประสบการณ์และความสามารถที่สั่งสมมาจึงทำให้ทีมนักกู้ภัยจากอังกฤษกลายเป็นแนวหน้าในภารกิจค้นหาผู้สูญหายครั้งนี้
เคยมีรายงานว่า นายสแตนตันเป็นหนึ่งในทีมนักผจญเพลิงในเมืองโคเวนทรีของอังกฤษ และมีส่วนร่วมในการเข้าให้การช่วยเหลือชาวอังกฤษ 13 คนที่ติดอยู่ภายในถ้ำ Cueva de Alpazat ของเม็กซิโก เมื่อปี 2004 ที่ผ่านมา ขณะที่นายโวลันเธนเป็นวิศวกรด้านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในเมืองบริสตอล เป็นนักวิ่งมาราธอนและอัลตามาราธอนตัวยง อีกทั้งมีประสบการณ์ในการสำรวจถ้ำต่างๆ อย่างดีเยี่ยม
ทั้งนายโวลันเธนและนายสแตนตันยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมกู้ภัย South and Mid Wales ที่เข้าให้การช่วยเหลือนายเอริก เอสตาบลี นักประดาน้ำชาวฝรั่งเศสที่ติดอยู่ภายในถ้ำใต้น้ำ Dragonnière Gaud ใกล้กับเทศบาล Labastide de Virac ในจังหวัดอาร์แด็ช ของฝรั่งเศสเมื่อปี 2010 ซึ่งทำให้พวกเขา 2 คน ได้รับเหรียญตราเชิดชูเกียรติ Royal Humane Society Medal ที่พระราชวังบักกิงแฮมในอีก 2 ปีต่อมา เพื่อเป็นเกียรติและระลึกถึงภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พวกเขาได้ทำในฝรั่งเศส
ไม่เพียงเฉพาะแต่ทีมกู้ภัยจากอังกฤษกลุ่มนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจค้นหาผู้สูญหายทั้ง 13 คนในครั้งนี้กว่า 1,000 ชีวิต ที่ทุ่มเทและพยายามอย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอด จนพบผู้สูญหายทั้งหมดในที่สุด
#ขอบคุณมากจริงๆ
- 10.35 น. มท.1 หวังเด็ก 13 คน ออกจากถ้ำได้ในวันนี้ เล็งใช้เส้นทางเดิมออก เลี่ยงดำน้ำ หวั่นเกิดอันตราย จ่อใช้เจ้าหน้าที่ 2 คน ประกบเด็ก 1 คน ชมความร่วมมือร่วมใจคือพระเอก แต่เบื้องหลังพระเอกตัวหลักคือหน่วยซีล
10.19 น. สื่อทั่วโลกพร้อมใจรายงานข่าวดี หลังทีมค้นหาพบ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง
หลังมีคำยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายว่า พบเด็กๆ และโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คนในถ้ำหลวงเมื่อคืนนี้ สื่อทั่วโลกซึ่งตามเกาะติดปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือตั้งแต่วันแรกก็พร้อมใจกันรายงานข่าวดี โดยสำนักข่าวหลายแห่งได้ขึ้นพาดหัวว่า ‘Breaking News’ เพราะเป็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของผู้คนทั่วโลกตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักข่าว CNN และ The New York Time ของสหรัฐฯ นำข่าวถ้ำหลวงขึ้นบนหน้าหลักของเว็บไซต์ตั้งแต่เช้านี้ โดย CNN พาดหัวตัวโตๆ ว่า ‘Many people are coming’ (คนมากมายกำลังมา) ซึ่งเป็นการโควตคำพูดของนักประดาน้ำสหราชอาณาจักรที่บอกกับเด็กๆ ว่าไม่ต้องกังวล เพราะเจ้าหน้าที่อีกหลายคนกำลังตามมาช่วย
ขณะที่ BBC ของอังกฤษก็นำข่าวเกาะติดสถานการณ์ช่วยเหลือเด็กในถ้ำหลวงมาไว้ในหน้าแรกของเว็บไซต์เช่นกัน พร้อมพาดหัวว่า พบเด็กไทยที่หายไปในถ้ำแล้ว โดยทุกคนปลอดภัยดี นอกจากนี้ยังมีคำโปรยข่าวว่า เวลานี้ทีมช่วยเหลือต้องนำเด็กๆ และครูฝึกสอนออกมาจากถ้ำหลังติดอยู่ในนั้นนาน 9 วัน
สำนักข่าวหลายแห่งรวมถึง Reuters ยังเผยแพร่คลิปวิดีโอจากแฟนเพจ Thai NavySEAL ซึ่งเผยให้เห็นวินาทีแรกที่นักประดาน้ำจากสหราชอาณาจักรพบเด็กๆ บนเนินนมสาวห่างออกไปจากหาดพัทยาราว 400 เมตร โดยคลิปนี้มีการแชร์ในหลายแพลตฟอร์มบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมียอดผู้ชมจำนวนมาก
ส่วน The Guardian ของอังกฤษได้จัดทำพื้นที่ฟีดข่าวพิเศษบนเว็บไซต์สำหรับเกาะติดสถานการณ์สดแบบนาทีต่อนาที โดยมีการรายงานทั้งข่าวความคืบหน้าสลับกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อปฏิบัติการช่วยเหลือครั้งนี้
นอกจากสื่อข้างต้นแล้ว สำนักข่าวชั้นนำทั่วโลกอย่าง Xinhua, The Wall Street Journal, Bloomberg, CNBC, ABC, Japan Times และอื่นๆ อีกมากมาย ก็รายงานข่าวภารกิจช่วยเหลือเด็กๆ และโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีรวม 13 ชีวิตในถ้ำหลวงด้วยเช่นกัน โดยสื่อหลายแห่งได้ส่งนักข่าวลงพื้นที่เพื่อรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย
9.29 น. ผู้เชี่ยวชาญกู้ภัยต่างชาติแนะ ควรให้เด็กๆ ทีมหมูป่ารอในถ้ำจนกว่าน้ำลด เพราะเสี่ยงเกินไปที่จะพาว่ายน้ำออกมา
ผู้เชี่ยวชาญปฏิบัติการกู้ภัยใต้น้ำในถ้ำแสดงความเห็นว่า วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการช่วยเหลือเด็กๆ ออกมาจากถ้ำหลวงก็คือ การให้เด็กๆ รออยู่ในถ้ำก่อนจนกว่าน้ำจะลดระดับลง ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์ แต่ดีกว่าการให้เด็กๆ ว่ายน้ำออกมาจากถ้ำ ซึ่งเสี่ยงเกินไป
เอ็ด โซเรนสัน จากทีมช่วยเหลือและกู้ภัยนานาชาติให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “มันเป็นเรื่องยากที่จะให้ความช่วยเหลือจากตรงนั้น”
เขากล่าวว่า แม้แต่นักประดาน้ำที่ฝึกฝนมาอย่างดีและมีทักษะสูงก็ยังมีความเสี่ยง หากว่ายน้ำในถ้ำโดยที่แทบมองอะไรไม่เห็นและกระแสน้ำเชี่ยวแบบนั้น นับประสาอะไรกับผู้ที่ไม่เคยผ่านการฝึกฝนมาก่อน ซึ่งอันตรายยิ่งขึ้นไปอีก
โซเรนสันกล่าวเสริมว่า เด็กๆ อาจตกใจเวลาลงไปในน้ำ ดังนั้นทางที่ปลอดภัยกว่าคือ การรอให้เวลาผ่านไปหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ เพื่อให้ระดับน้ำลดลงก่อน
“ตราบใดที่เด็กๆ รู้ว่าเราทราบตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ มีอาหาร มีวิธีช่วยให้อุ่น มีน้ำหรือระบบกรอง และแสงสว่าง มันจะเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดในการรอต่อไป เพราะการพาเด็กๆ ลงน้ำเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ไม่เฉพาะสำหรับเด็กๆ และโค้ชเท่านั้น แต่อันตรายสำหรับทีมช่วยเหลือด้วย” โซเรนสันกล่าวทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 08.20 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล โดยได้ขึ้นห้องทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าในทันที เมื่อมาถึงนายกฯ ได้ประชุมทางไกล หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ก่อนที่จะเดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกบัญชาการ เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตามนายกฯ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นตึกบัญชาการว่า “ดีใจด้วย” ผู้สื่อข่าวถามว่าจะลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ให้ทางพื้นที่จัดการให้เรียบร้อยก่อน และได้พูดคุยกับผู้ว่าฯ เชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว จึงขอขอบคุณผู้ว่าฯ เชียงรายและทุกฝ่ายด้วย
07.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ เชียงราย แถลงข่าวความคืบหน้าภารกิจช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชของทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายว่า ทีมนักดำน้ำชาวอังกฤษและซีล พบน้องๆ ทั้ง 13 คน ที่เนินนมสาว ซึ่งอยู่ห่างบริเวณพัทยาบีชหรือหาดพัทยาไป 400 เมตร โดยทีมค้นหาพบว่าบริเวณหาดพัทยามีน้ำท่วมสูง
ผู้ว่าฯ เชียงรายยอมรับว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนพูดคุยกันในทีมว่าเรากำลังทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้
เพราะฝนตกทุกวัน แต่เราหาอุปกรณ์มาเติมทุกวัน จนเข้าถึงตัวน้องๆ ได้ และถือเป็น ประวัติศาสตร์ใหม่ในการกู้ภัยของไทย
ผู้ว่าฯ เชียงรายกล่าวต่อว่า ในทางการแพทย์เราแบ่งระดับอาการหนัก-เบาของน้องๆออกเป็น 3 ระดับ คือ แดง-เหลือง-เขียว ตามลำดับ
ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการยืนยันว่า ส่วนใหญ่อยู่ระดับเขียว ไม่มีแดง แต่จะยืนยันเป็นรายบุคคลยังไม่ได้ เพราะชุดซีลที่เข้าไปยังไม่ออกมา แต่ได้มีการนำอาหารและยาพื้นฐานเข้าไปแล้ว
จากการประเมินอาการเบื้องต้นคาดว่าจะส่งทั้ง 13 ชีวิตไปโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพราะประเมินแล้วอาการไม่น่าห่วง
ส่วนจะนำตัวออกมาวันนี้หรือไม่ ยังยืนยันวัน-เวลาไม่ได้ โดยหลักการคือ น้องต้องออกมาอย่างปลอดภัย 100% ซึ่งซีลจะเป็นผู้ประเมิน
สำหรับการสูบน้ำและภารกิจอื่น ยังเดินหน้าต่อไป โดยจะปฏิบัติงานไปจนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถออกทางหน้าถ้ำได้แล้ว
ขณะที่ พล.ต. วุฒิชัย อิศระ แพทย์ใหญ่กองทัพภาค 3 หัวหน้าทีมรพ.สนาม กล่าวว่า ประเมินดูจากคลิปเบื้องต้นแล้วอาการไม่น่ากังวล แต่ต้องรอข้อมูลจากทีมแพทย์ที่ดำน้ำเข้าไปกลับมาเพื่อประเมินต่อไป
สำหรับบรรยากาศช่วงเช้าที่ถ้ำหลวงมีฝนตกหนาเม็ด ส่วนญาติของน้องๆ ทั้ง 13 คน ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่ศูนย์ประสานงานภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ สีหน้าทุกคนยิ้มแย้มเต็มไปด้วยความสุข หลังเฝ้ารอมากว่าสิบวัน จนในที่สุดความหวังก็กลายเป็นจริง
เรื่อง: พลวุฒิ สงสกุล
ภาพ: ฐานิส สุดโต
หลังทีมค้นหาสามารถพบทั้ง 13 ชีวิต ที่พลัดหลงในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนได้สำเร็จ ทำให้คนไทยทั้งประเทศที่ลุ้นและส่งกำลังมีความสุข และจากนี้จะเป็นการกู้ภัยทุกชีวิตออกจากถ้ำ
ล่าสุด พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือครม. ในเช้าวันนี้ว่า จะมีการร่วมประชุมกันทุกฝ่าย เพื่อวางแผนการช่วยเหลือต่อจากนี้ ส่วนระยะเวลาการกู้ภัยออกจากถ้ำนั้น ตนเองไม่ทราบ ต้องรู้ว่าระดับน้ำลดมากน้อยแค่ไหน ซึ่งทั้ง 13 ชีวิต จะต้องดำน้ำมา ต้องดูว่ามีความสามารถขนาดไหน และมีสุขภาพแข็งแรงพอหรือไม่
รองนายกฯ เผยอีกว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชนและทุกคนที่เอาใจช่วย ส่วนในอนาคตจะมีการถอดบทเรียนเรื่องนี้อย่างไรนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะได้สรุปกันอีกครั้งหนึ่ง
- 01.00 น. แฟนเพจ Thai NavySEAL เผยแพร่คลิป 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวง พร้อมข้อความว่า “Hooyah…..ทีมหมูป่า
พบเยาวชนทีมหมูป่าบริเวณหาดทรายห่างจาก Pattaya beach 200 เมตร โดยนักดำน้ำหน่วยซีลดำน้ำวางไลน์เชือกนำทาง ร่วมกับนักดำน้ำจากประเทศอังกฤษ ระยะทางจากห้องโถง 3 ยาว 1,900 เมตร เมื่อเวลา 21.38 น. คืนวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 #ThainavySEAL”
- 00.29 น. วงค์ บุญวงค์ อาของน้องดอม ด.ช.ดวงเพชร พรหมเทพ อายุ 13 ปี 1ใน 13 ชีวิตที่ติดถ้ำหลวง เดินทางมารอพบหลานทันทีที่ทราบข่าว วงค์ มาเฝ้าหลานทุกวัน แต่รู้ข่าววันนี้ที่บ้านทางโทรทัศน์ ดีใจมาก และรีบบอกญาติทุกคน “ดีใจมาก จนไม่รู้จะพูดยังไง” เขากล่าวซ้ำๆ กับสื่อมวลชน
- ประมวลภาพบรรยากาศหลังผู้ว่าฯ เชียงราย แถลงข่าวพบตัวทั้ง 13 ชีวิตในถ้ำหลวง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของเจ้าหน้าที่ และญาติๆ ที่รอคอยด้วยความหวัง ขณะที่สื่อมวลชนต่างแย่งกันรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบเกาะติด ส่วนภารกิจยังคงดำเนินต่อไปภายใต้รอยยิ้ม และกำลังใจ
https://www.youtube.com/watch?v=6pwMHQMadfg&t=13s
- ระยะเวลาของภารกิจค้นหา 13 ชีวิต
#ทีมหมูป่า
- 23.20 น. นายกฯ ยินดี เจ้าหน้าที่พบตัวเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คนแล้ว พร้อมขอบคุณความร่วมมือทุกฝ่าย กำชับให้วางแผนลำเลียงออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย
- ผู้ว่าฯ เชียงราย แถลงยืนยันพบตัวน้องๆ ทั้ง 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวงแล้ว ภารกิจค้นหาสำเร็จแล้ว กำลังอยู่ในช่วงกู้ภัยออกมา “วันนี้ทุกคนมีความสุข ที่ค้นหาจนพบ เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่น้อยครั้งจะเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย ทีมงานและสื่อมวลชน และทุกภาคส่วนร่วมมือกันทุกๆ เรื่องที่ขอไป ผมอยากให้ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ มีสภาพให้ความร่วมมือในสภาพที่เห็นกันในวันนี้ ผมเชื่อว่าประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรือง”
- 22.25 น. รายงานสดจากเพจ PR Chiangrai ประชาสัมพันธ์ จ.เชียงราย รายงานว่าพบ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย เลยพัทยาบีชไป 400 เมตร ผู้ว่าฯ เตรียมแถลงแล้ว