เว็บไซต์ข่าว Bloomberg รายงานว่า Forrest Li มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Sea Ltd. ประกาศขึ้นค่าจ้าง 5% สำหรับพนักงานส่วนใหญ่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป นับเป็นความเคลื่อนไหวที่เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงนักลงทุนว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซและเกมได้พลิกมุมแล้วหลังจากขาดทุนมาหลายปี
รายงานอ้างอิงบันทึกภายในบริษัทที่ Li เขียนส่งตรงถึงพนักงานว่า พนักงานที่เข้าร่วมในหรือก่อนวันที่ 31 มีนาคมจะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้น โดย Li ย้ำว่า Sea ได้บรรลุถึงจุดที่ “สามารถพึ่งพาตนเอง” (Self-sufficiency) ได้แล้ว ยืนยันได้จากขณะนี้ที่ดุลเงินสดเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลงทุกไตรมาส ถือเป็นการบรรลุเป้าหมายก่อนเป้าที่ตั้งไว้เมื่อปี 2022 หลายเดือน
สำหรับการปรับขึ้นค่าจ้างของบริษัทครั้งนี้สวนทางกับสถานการณ์เมื่อช่วง 2-3 ไตรมาสที่แล้ว ที่ Li สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนด้วยการสั่งระงับการจ่ายเงินเดือนทั่วทั้งบริษัทและปลดพนักงานออกจำนวนมาก โดยหลายฝ่ายมองว่าการกระทำของ Li อาจบ่งบอกถึงการฟื้นตัวในวงกว้างสำหรับภาคเทคโนโลยีของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องเผชิญกับการเลย์ออฟครั้งใหญ่ไม่ต่างกับภูมิภาคอื่นๆ ของโลก รวมถึงเจอปัญหารายได้ลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากการใช้จ่ายออนไลน์ที่เคยพุ่งกระฉูดในยุคโควิดระบาดเริ่มชะลอลง
ข่าวดีจาก Sea ส่งผลให้หุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกาปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น 7.6% ที่ 84.33 ดอลลาร์
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Sea รายงานกำไรสุทธิรายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีหลังจากการก่อตั้งบริษัท โดยปีที่แล้วบริษัทใช้มาตรการค่อนข้างเด็ดขาด เพื่อโน้มน้าวนักลงทุนถึงความสามารถในการทำกำไร รวมถึงปลดพนักงานหลายพันคน ถอนตัวจากตลาดหลัก และตัดลดรายจ่ายในส่วนการขายและการตลาดกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เนื้อหาในจดหมายของ Li ที่ส่งตรงถึงพนักงาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารรายนี้ได้กล่าวถึงการต่อสู้อันเจ็บปวดที่ Sea ประสบระหว่างความพยายามพลิกฟื้น Sea ซึ่งเคยเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการดีที่สุดในโลกในปี 2020 โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่บริษัทจะรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซและความบันเทิงที่กำลังเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่จากนั้นบริษัทก็สูญเสียมูลค่าตลาดไปประมาณ 1.6 แสนล้านดอลลาร์ตั้งแต่จุดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2021 จากความกังขาเกี่ยวกับโอกาสในการทำเงินและหุ้นเทคโนโลยีที่ลดลงทั่วโลก
Li กล่าวว่า ปีที่ผ่านมานี้อาจเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท พร้อมอธิบายถึงการตัดสินใจที่ “เจ็บปวด” ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงานที่ฝ่ายบริหารต้องทำเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เลวร้ายลง โดยปีที่แล้ว Sea ปลดพนักงานออก 3,500 คน ขณะที่ในช่วงเดือนกันยายนฝ่ายบริหารประกาศลดเงินเดือนของตนเอง และหันมาใช้นโยบายคุมเข้มรายจ่ายจนกว่าบริษัทจะพึ่งพาตนเองได้
Li ย้ำว่าสภาพแวดล้อมภายนอกยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทาย กระนั้นก็เชื่อมั่นว่าความสามารถที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ของ Sea ถือเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริษัทอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา? รู้จักพฤติกรรมพิษร้ายจากนายจ้าง ‘Quiet Promotion’ เงินเดือนเท่าเดิม เพิ่มเติมคือหน้าที่รับผิดชอบ
- บริษัทแม่ของ Uniqlo ประกาศเพิ่มค่าจ้างของพนักงานในญี่ปุ่นขึ้น 40% ทำให้ผู้จบใหม่จะมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 76,000 บาท
- คาดการณ์นายจ้างในไทยจะปรับเพิ่มค่าตอบแทน เงินเดือน 4.5% ในปี 66 แต่น้อยกว่าเวียดนามที่คาดปรับเพิ่ม 7.1%
อ้างอิง: