วันนี้ (19 สิงหาคม) สำหรับคำฟ้องที่พนักงานอัยการสำนักอัยการคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นฟ้อง กิตติเชษฐ์ ไชยเดช หรือชื่อเดิม สรายุทธ ไชยเดช พี่ชายของ พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช กับพวก รวม 19 คน โดย 2 ใน 19 คน มี สาวิกา และ สรินญา ไชยเดช จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นมารดา ร่วมด้วย ในความผิดฐานโดยทุจริต โดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง
สำหรับคำฟ้องบรรยายคดีนี้มี อภิรักษ์ โกฎธิ จำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.853/2564 ของศาลนี้ และ กิตติเชษฐ์ หรือ สรายุทธ ไชยเดช จำเลยที่ 1 ในคดีนี้ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท อาร์ เอ็ม เอส แฟมิเลีย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 – 8 กันยายน 2563 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยทั้ง 19 คนในคดีนี้ กับจำเลยทั้ง 4 คนในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.853/2564 (คดีอภิรักษ์) ของศาลนี้ กับ สุภิญโญ มีสมปราชญ์ จำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.265/2565 ของศาลนี้ กับพวก ที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง โดยเจตนาทุจริตและโดยหลอกลวง ได้บังอาจร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และบังอาจร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยโฆษณาชักชวนหรือประกาศให้ ปรากฏต่อประชาชนทั่วไปหรือแก่บุคคลตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป
ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ forex-ed.com และผ่านทางผู้ให้บริการโลกออนไลน์เฟซบุ๊ก ด้วยการใช้บัญชีผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กว่า Apiruk Krub, Apirak Kothi และ Forex-md ซึ่งเป็นการโฆษณาที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และประชาชนสามารถพบเห็นได้ทั่วไป แพร่ข่าวชักชวนให้ประชาชนทั่วไปนำเงินมาร่วม Forex
โดยจำเลยทั้ง 19 คน กับพวก มีทีมงานมืออาชีพ หรือ Forex Trader มืออาชีพ เป็นผู้ลงทุนแทนผู้ลงทุน โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้โดยไม่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการซื้อ-ขายหรือเทรดเงินตราต่างประเทศ โดยจำเลยทั้ง 19 คน กับพวก จะเป็นผู้ซื้อ-ขายหรือเทรดเงินตราต่างประเทศให้ เพียงแต่นักลงทุนฝากเงินเข้ามา ก็สามารถรอรับเงินปันผลได้เลย โดยที่มีการประกันเงินต้นร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อมาร่วมลงทุน โดยอ้างว่าจะนำเงินลงทุนไปซื้อ-ขายหรือเทรดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ Forex จำเลยทั้ง19 คน กับพวก รับประกันเงินลงทุนตามสัญญา
ในการสมัครร่วมลงทุนดังกล่าวจะมีขั้นตอนดังนี้คือ ผู้ที่เป็นสมาชิกที่ร่วมลงทุนอยู่แล้ว จะต้องส่งส่วนที่ใช้ในการเชื่อมต่อเว็บเพจเข้าหากัน หรือลิงก์สมัครมาให้ผู้ที่สนใจจะลงทุน โดยจะต้องมีรหัสยืนยันสิทธ์ที่ได้รับจากผู้แนะนำ
โดยจะได้รับ 2 ลักษณะ คือ
- ได้รับมาเป็นรหัสยืนยัน หรือ Code ซึ่งสามารถนำไปกรอกในช่องรหัสยืนยันสิทธิ์ในหน้าแบบฟอร์มการสมัครบัญชี
- ได้รับมาเป็นลิงก์ โดยผู้ลงทุนจะต้องสมัครโดยการกรอกชื่อ ชื่อสกุล ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และแนบหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและหน้าสมุดบัญชีธนาคารในระบบ แล้วผู้ลงทุนจะได้รับบัญชีส่วนตัวในการเข้าสู่ระบบ โดยผู้ลงทุนเป็นผู้กำหนด Username และ Passward ของตนเอง เพื่อใช้ในการเข้าระบบ เพื่อตรวจสอบผลการลงทุนและค่าตอบแทนที่ได้รับในเว็บไซต์ forex-ed.com
ซึ่งในช่วงแรกนักลงทุนต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นอยู่ที่ 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 15,000 บาท ต่อมามีการเพิ่มการลงทุนขั้นต่ำเป็น 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 50,000 บาท โดยนักลงทุนจะมีระดับการลงทุนหรือรูปแบบการลงทุนขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุนและระยะเวลาการลงทุน แบ่งเป็น 5 รูปแบบ (Class) คือ
- Class Bronze ส่วนแบ่งกำไร 60 ต่อ 40 (ผู้ลงทุน : บริษัท) คำสั่งถอน 20 วันต่อครั้ง ทุนขั้นต่ำ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- Class Silver ส่วนแบ่งกำไร 65 ต่อ 35 (ผู้ลงทุน : บริษัท) คำสั่งถอน 15 วันต่อครั้ง ทุนขั้นต่ำ 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ อายุบัญชีการลงทุน 6 เดือน
- Class Gold ส่วนแบ่งกำไร 70 ต่อ 30 (ผู้ลงทุน : บริษัท) คำสั่งถอน 10 วันต่อครั้ง ทุนขั้นต่ำ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ อายุบัญชีการลงทุนมากกว่า 2 ปี
- Class Platinum ส่วนแบ่งกำไร 35 ต่อ 25 (ผู้ลงทุน : บริษัท) คำสั่งถอน 5 วันต่อครั้ง ทุนขั้นต่ำ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ อายุบัญชีการลงทุนมากกว่า 3 ปี
- Class Diamond ส่วนแบ่งกำไร 40 ต่อ 20 (ผู้ลงทุน : บริษัท) คำสั่งถอน 20 วันต่อครั้ง ทุนขั้นต่ำ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ อายุบัญชีการลงทุนมากกว่า 5 ปี
เมื่อเริ่มสมัครผู้ลงทุนจะได้รับ Class Bronze ที่เป็นแผนการลงทุนเริ่มต้น ผลกำไรของผู้ลงทุนแต่ละรายจะขึ้นอยู่กับ Class ที่ผู้ลงทุนแต่ละรายลงเงินไป
แต่โดยพื้นฐานการลงทุนปกติทุกคนจะต้องเริ่มจากระดับต่ำสุดคือ Class Bronze ซึ่งเงินลงทุนเท่าไรก็ได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่าอัตราที่บริษัท อาร์ เอ็ม เอส แฟมิเลีย จำกัด กำหนดคือ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 50,000 บาท และเมื่อลงทุนครบตามกำหนดระบบจะเลื่อนระดับการลงทุนให้โดยอัตโนมัติ และนักลงทุนสามารถรับผลกำไรตามอัตราส่วนในแต่ละระดับที่กำหนด เช่น เลื่อนจาก 60 ต่อ 40 เป็น 65 ต่อ 35 เป็นต้น
โดยผู้ลงทุนจะต้องทำสัญญากับจำเลยทั้ง 19 คน กับพวก ที่เรียกว่าสัญญาร่วมทุน เพื่อเปิดบัญชีหรือเพิ่มทุนขาย / แลกเปลี่ยนหุ้น เงินตรา และหลักทรัพย์ โดยทำสัญญาในนามของบริษัท อาร์ เอ็ม เอส แฟมิเลีย จำกัด และลงนามโดย อภิรักษ์ โกฎธิ ซึ่งในสัญญาระบุว่าต้องลงทุนนาน 3เดือน จึงจะสามารถถอนเงินทุนออกมาได้ทั้งหมด ในการจ่ายเงินลงทุนให้กับจำเลยทั้ง19 คน กับพวก ในช่วงแรกนั้น ผู้ลงทุนต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ อภิรักษ์ โกฎธิ ต่อมาผู้ลงทุนต้องโอนเงินลงทุนเข้าบัญชีธนาคารของบริษัท มี ดี เพย์ จำกัด แทนบัญชีธนาคารของ อภิรักษ์ โกฎธิ
โดยบริษัท อาร์ เอ็ม เอส แฟมิเลีย จำกัด อ้างว่าจะนำเงินของผู้ลงทุนไปซื้อ-ขายหรือเทรดเงินตราต่างประเทศให้ ซึ่งผู้ลงทุนจะถอนเงินกำไรออกมาได้หลังจากบริษัท อาร์ เอ็ม เอส แฟมิเลีย จํากัด เปิดการซื้อ-ขายหรือเทรดแล้วมีกำไรในพอร์ตลงทุนมากกว่า 8% ขึ้นไป จึงจะสามารถถอนกำไรออกมาได้ นอกจากนี้ผู้ลงทุนยังได้รับค่าแนะนำ หรือ IB Partner หากสามารถชักชวนบุคคลอื่นมาลงทุน โดยการส่งลิงก์ต่อ เมื่อผู้ถูกชักชวนสมัครลงทุน ระบบจะทราบว่าผู้ชักชวนคือใคร เมื่อผู้ลงทุนรายใหม่ลงทุนในระบบของเว็บไซต์ forex-md.com และได้กำไร ผู้ชักชวนจะได้รับเงินค่าแนะนำ 5% ของเงินกำไรของผู้ถูกชักชวน และลดหลั่นลงไป 3% หรือ 1% ตามชั้นของผู้แนะนำ ซึ่งจะได้รวมทั้งหมด 3 ชั้น
การลงทุนตามเงื่อนไขต่างๆ ดังกล่าว ประชาชนผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนหรือผลประโยชน์ตอบแทนคำนวณได้เป็นอัตราเฉลี่ยประมาณร้อยละ 8-10 ต่อเดือน หรืออย่างน้อยร้อยละ 20-60 ต่อปี ของเงินที่นำมาลงทุน ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้
การโฆษณาชักชวนหลอกลวงประชาชนของจำเลยทั้ง 19 คน กับพวกดังกล่าวเป็นความเท็จ ซึ่งความจริงแล้วจำเลยทั้ง 19 คน กับพวก ไม่ได้ประกอบกิจการซื้อ-ขายหรือเทรดเงินตราต่างประเทศจริงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด และธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่เคยมีการให้ใบอนุญาตแก่บุคคลหรือนิติบุคคลใด เพื่อให้บริการลงทุนโดยเก็งกำไรจากการซื้อ-ขายหรือเทรดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ในประเทศไทยอีกด้วย
ประกอบกับจำเลยทั้ง 19 คน กับพวก ได้อาศัยโอกาสจากความมีชื่อเสียงหรือความน่าเชื่อถือของจำเลยทั้ง 19 คนที่เป็นดารา นักแสดง นักร้อง บุคคลในวงการบันเทิง บุคคลในวงสังคมชั้นสูงหรือไฮโซ และรวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่จำเลยทั้ง 19 คน กับพวกดังกล่าว ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ และเมื่อจำเลยทั้ง 19 คน กับพวก ได้รับเงินจากประชาชนผู้ร่วมลงทุนไว้แล้ว จึงได้นำเงินจากประชาชนรายนั้นหรือรายอื่นๆ มาจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนหมุนเวียนให้แก่ประชาชน
โดยจำเลยทั้ง 19 คน กับพวก มิได้นำเงินไปลงทุนหรือประกอบกิจการอย่างใดให้ได้รับผลตอบแทนคืนให้แก่ประชาชนได้ในอัตราเช่นนั้น แต่จำเลยทั้ง19 คน กับพวก มีเจตนาหลอกลวงประชาชนที่หวังจะได้รับเงินตอบแทนในอัตราสูงให้นำเงินมาลงทุนกับตน ด้วยการใช้วิธีจ่ายเงินตอบแทนให้ในอัตราสูงเป็นเครื่องล่อใจ และอาศัยความน่าเชื่อถือของพวกของจำเลยทั้ง 19 คนที่เป็นดารา นักแสดง นักร้อง บุคคลในวงการบันเทิง บุคคลในวงสังคมชั้นสูงหรือไฮโซ และรวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย
จำเลยทั้ง 19 คน ได้อาศัยโอกาสจากการมีชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของจำเลยที่เป็นดารา นักแสดง นักร้อง บุคคลในวงการบันเทิง บุคคลในวงชั้นสูงหรือไฮโซ รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับจำเลยทั้ง 19 คนในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ และโดยการหลอกลวงดังกล่าวทำให้ประชาชนผู้เสียหายหลงเชื่อและถูกหลอกลวง
อันเป็นการกระทำความผิดฐานโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเป็นความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกันรวม 9,824 กรรม
โดยได้ทรัพย์สินซึ่งเป็นเงินรวมผู้เสียหายจำนวน 9,824 คน และมีการกู้ยืมเงินรวมกันมีความเสียหายรวม 2,489,820,321.52 บาท
เหตุเกิดที่แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร และท้องที่อื่นๆ ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
โดยศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า ข้อหามีอัตตาโทษสูง ค่าเสียตามฟ้องมีจำนวนมาก กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 สาวิกา ไชยเดช และ สรินญา ไชยเดช จำเลยที่ 3 (มารดา) น่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง และนัดสอบคำให้การวันที่ 26 กันยายน ช่วงเช้า