×

เอาที่ป่าสงวนฯ มาหลอกขายทหารชั้นผู้น้อย กินเงินทอนส่วนต่างล้านบาท

19.02.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS. READ
  • ‘ขบวนการเงินทอน’ ผ่านการกู้เงินสวัสดิการทหารบกมีรูปแบบคล้ายกันทั่วประเทศ คือมีเงินทอนให้ทั้งผู้กู้และผู้ร่วมขบวนการ
  • นายเจี๊ยบ คือขาใหญ่จัดหาบ้านให้ทหารชั้นผู้น้อยกู้เงินทั่วประเทศ และกรณีนี้เป็นบ้านในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ
  • ในแวดวงทหาร ทุกคนรู้กันหมดว่าการกู้เงินสวัสดิการจะได้รับเงินทอน 

เมื่อเหตุการณ์จ่าทหารก่อเหตุกราดยิงที่ห้างดังในจังหวัดนครราชสีมาจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากผ่านไป สังคมได้เริ่มถอดปมปัญหาของสิ่งที่เกิดขึ้นจนพบว่าสาเหตุมาจากขบวนการทุจริตในกระบวนการกู้เงินสวัสดิการทหารบก 

 

‘ขบวนการเงินทอน’ ผ่านการกู้เงินสวัสดิการทหารบกมีรูปแบบคล้ายกันทั่วประเทศ คือมีนายหน้าจัดสรรบ้านและที่ดินในราคาต่ำ และให้ทหารชั้นผู้น้อยไปกู้เงินสวัสดิการทหารบกโดยได้รับการอนุมัติวงเงินสูงกว่าราคาทรัพย์สิน ส่วนต่างที่เหลือจะมีการตกลงกับผู้กู้ไว้ล่วงหน้าว่าจะได้เท่าไร 

 

“ในแวดวงทหาร ทุกคนรู้กันหมดว่าการกู้เงินสวัสดิการจะได้รับเงินทอน หลายคนก็กู้เงินเพื่อหวังเงินทอน” ทหารชั้นประทวนนายหนึ่งบอกกับเรา

 

 

 

เงินกู้ 1.5 ล้าน – บ้าน + เงินทอน 5 แสน อีก 1 ล้านบาทหายไปไหน 

กรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นคือมีทหารชั้นผู้น้อย 2 นายมาร้องขอความช่วยเหลือกับ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

 

อัจฉริยะกล่าวว่าบ้านหลังที่ทหาร 2 นายไปทำสัญญาซื้อมานี้กู้เงินกรมสวัสดิการทหารบก 1.5 ล้านบาท แต่ราคาประเมินของบ้านหลังนี้ราคาเพียง 3 แสนบาท บวกกับเงินทอนที่ทหารชั้นผู้น้อยได้คืนมาอีก 2 แสนบาท เท่ากับว่าจะมีเงินส่วนต่างจำนวน 1 ล้านบาทที่หายไป ซึ่งไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน แต่กล้าพูดว่าเจ้ากรมสวัสดิการทหารบกรู้เรื่องนี้ดี นอกจากนี้ทหาร 2 รายนี้ยังเคยสอบถามไปยังกรมสวัสดิการทหารบกแล้ว แต่ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถช่วยเหลือแก้ไขใดๆ ได้

 

“ถามว่าเจ้าหน้าที่ส่วนกลางกรมสวัสดิการทหารบกรู้ไหมว่าที่ดินนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผมบอกเลยว่าเขาไม่ใช่คนโง่ ผู้เสียหายก็ไปร้องเรียนกับเจ้ากรมสวัสดิการทหารบกคนปัจจุบัน แต่เขาก็ไม่ช่วย” อัจฉริยะกล่าว

 

‘นายเจี๊ยบ’ ขาใหญ่จัดหาบ้านให้ทหารชั้นผู้น้อยกู้เงิน

อัจฉริยะกล่าวกับ THE STANDARD ว่า “ขบวนการนี้จะมีนายหน้าชื่อนายเจี๊ยบ เป็นขาใหญ่ที่ดังมากอยู่ในกรมสวัสดิการทหารบก ถือเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศเรื่องการกว้านซื้อที่ดิน การจัดหานายหน้า เอาทหารชั้นผู้น้อยมาซื้อ 

 

“นายเจี๊ยบจะหลอกทหารชั้นผู้น้อยให้มาดูที่ดิน แล้วกำหนดเงินทอนที่จะได้รับได้ด้วยว่าจะเอาเท่าไร ทหารชั้นผู้น้อยมีหน้าที่เซ็นชื่ออย่างเดียว จากนั้นนายเจี๊ยบก็จะมีส่วนต่างหรือเงินทอนกลับมาให้ทหารชั้นผู้น้อยที่กู้เงิน 

 

“หลังจากนั้นเมื่อทางนี้หลงเชื่อเซ็นชื่อและได้เงินทอนแล้ว แต่กรณีนี้ปรากฏว่าที่ดินที่ซื้อไปเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งกรมป่าไม้ตรวจสอบยืนยันแล้วและมีคำสั่งให้ระงับการซื้อขายทั้งหมด

 

“เวลาส่งเงินคืนต้องจ่ายเงินรวมดอกเบี้ยประมาณ 3.4 ล้านบาทตามสัญญา แต่สุดท้ายเขาไม่ได้บ้านและที่ดิน แถมยังโดนข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติด้วย

 

“รูปแบบมันเป็นแบบนี้ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินปกติ วงเงินกู้สูงกว่าราคาบ้านและที่ดิน เงินส่วนต่างหรือเงินทอนก็ได้รับทั้งผู้กู้และคนในขบวนการที่เกี่ยวข้อง” อัจฉริยะกล่าว

 

 

 

ทหารไม่ต่ำกว่า 100 นายเป็นเหยื่อซื้อบ้านในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

สำหรับโครงการนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร มีประมาณ 209 แปลง บ้านแต่ละหลังพื้นที่ 30-40 ตารางวา มีผู้เสียหายเยอะมาก มูลค่าไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท มีชาวบ้านทั่วไปซื้อไว้เยอะมาก ส่วนทหารที่ซื้อโครงการนี้มีมากกว่า 100 นาย

 

หนึ่งในทหารชั้นผู้น้อยเล่าให้ฟังว่า เดือนมิถุนายน ปี 2559 มีนายหน้าชักชวนให้ไปดูบ้านที่อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ตนก็สนใจ เพราะอยากจะมีบ้านสักหลังไว้หลังเกษียณ จึงทำเรื่องผ่านนายหน้า โดยแค่นั่งรถไปและเซ็นชื่ออย่างเดียว ที่เหลือเขาจัดการให้ทุกอย่าง

 

เงินทอนที่ได้จำนวน 2 แสนบาท ให้ผ่านรูปแบบการทำสัญญาเช่า 100 เดือน 

 

ต่อมาปี 2562 ตนเดินทางไปรับราชการที่จังหวัดพิษณุโลก ก็เลยเดินทางไปดูบ้านที่เคยทำสัญญาไว้ เพราะตั้งใจจะรีไฟแนนซ์เอาบ้านไปเข้ากับ ธกส. แต่พอไปดูบ้านจึงพบว่าบ้านที่ทำสัญญาซื้อขายจริงกลับเป็นบ้านคนละหลังกับที่พาไปดู สภาพบ้านก็ผุพัง ไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้

 

ตนจึงไปแจ้งความกับ สภ.พรานกระต่าย ร้อยเวรก็แจ้งว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เขาตั้งกรรมการตรวจสอบกันตั้งแต่ปี 2558 แล้ว โดยที่ดินแปลงนี้กองทัพบกก็ไปซื้อไว้จำนวนหนึ่ง ไม่ทราบว่ากี่แปลง เพื่อทำเรื่องกู้เงินให้กำลังพลผ่อน

 

เขาบอกว่าจะมีเงินทอนให้ 2 แสนบาท ตนกู้เงิน 1.5 ล้านบาท ส่วนราคาบ้านจริงรวมที่ดินประมาณ 3 แสนบาท 

 

“ที่ผมออกมาเรียกร้องไม่ได้ต้องการทำให้ผู้บังคับบัญชาเสื่อมเสีย แต่มาเรียกร้องตามสิทธิของผมในที่แปลงนี้ ถ้าผมผ่อนส่งหมดก็จะถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ 

 

“ผมยินดีที่จะผ่อนส่งรวมดอกเบี้ยประมาณ 3 ล้านบาท แต่ปรากฏว่ามันกลายเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ กลายเป็นว่าถ้าผมผ่อนส่งจนครบแล้วไม่เพียงจะไม่ได้บ้านและที่ดิน ซ้ำยังถูกดำเนินคดีด้วย” ทหารชั้นประทวนผู้เสียหายกล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising