วันนี้ (17 เมษายน) หุ้นไทย (SET) ปิดตลาดร่วง 29.44 จุด -2.11% จากวันทำการก่อนหน้า โดยแรงขายที่เกิดขึ้นมาจากนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิ 6.39 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ 6.80 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 623 ล้านบาท ส่วนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 217 ล้านบาท
การขายสุทธิของต่างชาติถือเป็นการขายต่อเนื่อง 2 วันทำการติดต่อกัน หลังจากที่ขายสุทธิ 1.81 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา สวนทางกับ 3 วันก่อนหน้านั้นที่ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องราว 1 หมื่นล้านบาท
บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้นไทยเปิดทำการหลังผ่านช่วงวันหยุดสงกรานต์ลดลงกว่า 2% สะท้อนปัจจัยหลัก 3 ประเด็น ได้แก่
- ความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ อิสราเอล-อิหร่าน
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง สนับสนุนสุนทรพจน์ของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ว่าการลดดอกเบี้ยอาจจะเกิด 1-2 ครั้ง ทำให้ตลาดกังวลว่า Fed อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดการณ์
- การขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่วันนี้ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
อย่างไรก็ดี หุ้นอย่าง บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในวันนี้กว่า 4.1 พันล้านบาท ราคาปรับตัวขึ้นได้ราว 3.8% สวนทางกับหุ้นส่วนใหญ่ในกลุ่ม SET50 หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอล