นักลงทุนต่างชาติแห่ดึงเงินออกจากจีนในจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจจีนที่แย่หนัก จับตายอด FDI ทั้งปีอาจแย่กว่าช่วงล็อกดาวน์โควิด
สำนักงานบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแห่งชาติจีน หรือ State Administration of Foreign Exchange (SAFE) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ภาระผูกพันด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Direct Investment Liabilities)ในจีน ลดลงเฉียด 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดดังกล่าวลดลงประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์แล้ว
โดยหากสิ่งนี้ยังดำเนินต่อไปจนในช่วงที่เหลือของปี ก็จะถือเป็นการไหลออกสุทธิครั้งแรก นับตั้งแต่อย่างน้อยในปี 1990 ซึ่งเป็นปีแรกที่จีนเริ่มจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว
ทั้งนี้ ภาระผูกพันจากการลงทุนโดยตรง หมายถึง ภาระผูกพันทางการเงินจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในภาคธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่นๆ ภายในประเทศจีน เป็นต้น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การลงทุนจากต่างประเทศในจีนลดลงต่อเนื่อง หลังจากการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บางบริษัทต้องลดความเสี่ยงลง
นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในจีนยังส่งผลให้บริษัทรถยนต์ต่างชาติบางแห่งถอนตัวหรือลดการลงทุนลง
ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้น แม้ว่าปักกิ่งจะพยายามดึงดูดและรักษาการลงทุนจากต่างประเทศ โดยรัฐบาลหวังว่าบริษัทต่างๆ จะลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ช่วยต่อต้านแรงกดดันจากสหรัฐฯ และที่อื่นๆ
ตัวเลขดังกล่าวยังสอดคล้องกับข้อมูลก่อนหน้านี้จากกระทรวงพาณิชย์จีน ที่แสดงให้เห็นว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ใหม่ในจีนในช่วงครึ่งปีแรกต่ำที่สุด นับตั้งแต่ในปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างหนัก
อ้างอิง: