สถาบันการเงินระหว่างประเทศ หรือ The Institute of International Finance (IIF) เปิดเผยรายงานพบว่า เมื่อเปรียบเทียบทิศทางกระแสทุนต่างประเทศระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่าค่อนข้างสวนทางกันอย่างชัดเจน โดยขณะที่ทุนต่างชาติแห่เข้าไปลงทุนในตลาดจีนสูงถึง 8,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่กลับมีทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ถึง 7,700 ล้านดอลลาร์
รายงานระบุว่า เมื่อพิจารณาจากจำนวนทุนไหลเข้าตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเดือนมกราคม พบว่า มีปริมาณอยู่ที่ 1,100 ล้านดอลลาร์เท่านั้น นับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 โดยเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว มีทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่สูงถึง 79,700 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ลดลงมาอยู่ที่ 15,800 ล้านดอลลาร์
โจนาธาน ฟอร์ตัน นักเศรษฐศาสตร์ของ IIF ระบุในรายงานว่า สิ่งที่พบก็คือแนวโน้มทุนไหลออกจากตลาดหุ้น ตราสารหนี้ และพันธบัตรของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังไหลออกในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 กลายเป็นปัจจัยกดดันสภาพคล่องทางการเงินภายในภูมิภาค และเสี่ยงต่อการขัดขวางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเหล่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ได้รับผลกระทบบอบช้ำจากการระบาดของไวรัสโควิด
อย่างไรก็ตาม กระแสทุนไหลออกจากจีนเริ่มแสดงสัญญาณชะลอตัวให้เห็นอย่างชัดเจน หรือพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือว่า มีกระแสทุนต่างชาติไหลเข้าไปลงทุนในจีน แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในการเติบโตของจีน ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในซีกโลกตะวันตกไม่มีผลแต่อย่างใด
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP