Fitch Ratings ประกาศหั่นแนวโน้มอันดับเครดิต แบงก์ไทย 5 แห่งเป็น ‘ลบ’ (Negative) ได้แก่ EXIM KTB TTB SCBT และ UOBT หลังการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของรัฐบาลไทย เผยอันดับเครดิต BBL, KBank, SCB และ SCBX ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทย เหตุพิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของแต่ละธนาคาร
วันนี้ (29 กันยายน) ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Ratings: IDRs) เป็น แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ (Negative) จากมีเสถียรภาพ (Stable) และยังคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว สำหรับธนาคารดังต่อไปนี้
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) (TTB)
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) (SCBT) และ
- ธนาคารยูโอบี (ไทย) จำกัด (มหาชน) (UOBT)
พร้อมกันนี้ ฟิทช์ยังคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวโดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ สำหรับธนาคารดังต่อไปนี้:
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBank)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) และ
- บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX)
การประกาศอันดับเครดิตดังกล่าวนี้เกิดขึ้นภายหลังการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของรัฐบาลไทยเป็นแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ (BBB+/Negative) จากเดิมแนวโน้มมีเสถียรภาพ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568
เปิดปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
ฟิทช์ยังระบุว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการสนับสนุนของรัฐบาล: แม้อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating) ของ EXIM, KTB, TTB, BBL, KBank, SCB, และ SCBX จะได้รับการคงอันดับเครดิต
แต่อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลมีโอกาสที่จะถูกปรับลดอันดับได้ ในกรณีที่อันดับเครดิตสากลของประเทศไทยถูกปรับลดอันดับ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ EXIM, KTB และ TTB มีปัจจัยในการพิจารณาหลักมาจากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของแต่ละธนาคาร และการปรับ “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” ของธนาคารทั้งสามแห่ง สะท้อนถึงการปรับลดลงของความสามารถของรัฐบาลในการให้การสนับสนุนเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากการให้การสนับสนุนด้านการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support)
การสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นอาจมีข้อจำกัด: อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น (Shareholder Support Rating) ของ SCBT, UOBT และ BAY ได้รับการคงอันดับเครดิต ในขณะที่การปรับ “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” สำหรับ SCBT และ UOBT
สะท้อนว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของทั้งสองธนาคาร อาจถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย (Country Ceiling) เนื่องจากหากมีการปรับลดเพดานอันดับเครดิต จะส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเช่นกัน และนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ทั้งนี้ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของ SCBT ไม่ถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิต ดังนั้นจึงยังคงมี “แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ”
สำหรับ BAY อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของธนาคารไม่ได้ถูกจำกัดด้วยเพดานอันดับเครดิต และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวจึงจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเพียงหนึ่งอันดับของเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย
ไม่มีผลต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน:
ฟิทช์คงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ของ KTB, TTB, UOBT, BBL, BAY, KBank, SCB และ SCBX โดยคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคารไทยที่ฟิทช์ประเมิน ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ ‘bbb’/แนวโน้มมีเสถียรภาพ ซึ่งอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทย
และฟิทช์เชื่อว่าคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทย ฟิทช์ได้ปรับแนวโน้มของคะแนนปัจจัยด้านการระดมทุนและสภาพคล่องของ BBL ที่ ‘bbb+’ เป็น “แนวโน้มเป็นลบ” จากเดิม “แนวโน้มมีเสถียรภาพ” เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ปัจจัยดังกล่าวจะถูกจำกัดโดยอันดับเครดิตของประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามการปรับแนวโน้มของคะแนนดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร
ทั้งนี้ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ BBL, KBank, SCB และ SCBX พิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของแต่ละธนาคาร ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทย
สำหรับรายละเอียดของปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตของธนาคารแต่ละแห่ง สามารถดูได้จากประกาศอันดับเครดิตครั้งล่าสุด ดังนี้:
- EXIM: “ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตสากลของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยที่ ‘BBB+’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” ลงวันที่ 12 กันยายน 2568 (Fitch Affirms Thai EXIM at ‘BBB+’; Outlook Stable)
- KTB และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาหมู่เกาะเคย์แมน: “ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงไทยที่ ‘BBB+’ และ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพและปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็น ‘bbb’” ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2568 (Fitch Affirms Krung Thai Bank at ‘BBB+’/’AAA(tha)’; Outlook Stable; Upgrades VR to ‘bbb’)
- TTB: “ฟิทช์คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ธ.ทหารไทยธนชาต ที่ ‘BBB’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 (Fitch Affirms TMBThanachart Bank at ‘BBB’ and ‘AA+(tha); Outlook Stable)
- SCBT: “ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ที่ ‘A-’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2568 (Fitch Affirms Standard Chartered Bank (Thai) at ‘A-‘; Outlook Stable)
- UOBT: “ฟิทช์คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารยูโอบี (ไทย) ที่ ‘A-’ และอันดับเครดิตภายในประเทศที่ ‘AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” ลงวันที่ 13 มีนาคม 2568 (Fitch Affirms United Overseas Bank (Thai) at ‘A-‘ and ‘AAA(tha)’; Outlook Stable)
- BAY: “ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ ‘BBB+’ และ ‘AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 (Fitch Affirms Bank of Ayudhya at ‘BBB+’ and ‘AAA(tha)’; Outlook Stable)
- BBL และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาฮ่องกง: “ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงเทพที่ ‘BBB’ และ ‘AA+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2568 (Fitch Affirms Bangkok Bank at ‘BBB’ and ‘AA+(tha)’; Outlook Stable)
- KBank และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาฮ่องกง: “ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารกสิกรไทยที่ ‘BBB’ และ ‘AA+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2568 (Fitch Affirms KASIKORNBANK at ‘BBB’/’AA+(tha)’; Outlook Stable)
- SCB SCBX และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาหมู่เกาะเคย์แมน: “ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ที่ ‘BBB’ และ ‘AA+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2568 (Fitch Affirms SCBX and Siam Commercial Bank at ‘BBB’ and ‘AA+(tha)’; Outlook Stable)
เปิดปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) ในกรณีที่มีการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย:
•อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล ของ EXIM, KTB, TTB, BBL, KBank, SCB และ SCBX น่าจะถูกปรับลดลง
•อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น (Long-Term และ Short-Term IDRs) ของ EXIM, KTB และ TTB น่าจะถูกปรับลด
•อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ BBL KBank และ SCB น่าจะถูกปรับลด เนื่องจากจะไม่เป็นอันดับเครดิตที่พิจารณาจากปัจจัยการสนับสนุน (support-driven) อีกต่อไป และคะแนนปัจจัยด้านการระดมเงินทุนและสภาพคล่อง (funding and liquidity) ของธนาคารไม่เข้าเกณฑ์สำหรับตัวเลือกอันดับเครดิตระยะสั้นที่สูงกว่า
•อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCBT และ UOBT น่าจะถูกปรับลด
สำหรับรายละเอียดของปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออันดับเครดิตของธนาคารแต่ละแห่ง สามารถดูได้จากประกาศอันดับเครดิตครั้งล่าสุด ที่แสดงไว้ด้านบน
ปัจจัยที่อาจส่งผลเชิงบวกหรือทำให้ถูกปรับเพิ่มอันดับ (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยร่วมกัน): แนวโน้มอันดับเครดิตของ EXIM, KTB, TTB, SCBT และ UOBT จะถูกปรับกลับเป็น “แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” หากแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทยได้รับการปรับกลับมาเป็น “แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ”
บริษัทย่อยและบริษัทในเครือ: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
ฟิทช์คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาหมู่เกาะเคย์แมนที่ ‘BBB+’ และปรับ “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ” จาก “แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” ทั้งนี้อันดับเครดิตดังกล่าวอยู่ในระดับเดียวกันกับ KTB เนื่องจากธนาคารและสาขาเป็นนิติบุคคลเดียวกัน
ฟิทช์คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาฮ่องกง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาหมู่เกาะเคย์แมน และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาฮ่องกง โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
บริษัทย่อยและบริษัทในเครือ: ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของสาขาในต่างประเทศของ KTB SCB และ KBank จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารแม่ของแต่ละสาขา (ทั้งเชิงบวกหรือเชิงลบ)
แหล่งข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิต
แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการประเมินอันดับเครดิตมีรายละเอียดเปิดเผยอยู่ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้องของฟิทช์
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ EXIM, KTB และ TTB เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย
อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SCBT เชื่อมโยงกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ Standard Chartered Bank (Singapore) Limited (A+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/a)
อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ UOBT เชื่อมโยงกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ United Overseas Bank Limited (AA-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/aa-)
อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ BAY เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ Mitsubishi UFJ Financial Group (A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/a-)