ในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (9 ตุลาคม) คอมมูนิตี้คริปโต และ Web 3.0 ในอิสราเอล ได้ร่วมกันก่อตั้งกองทุนคริปโตเพื่อช่วยเหลือ (Crypto Aid Fund) ประชาชนอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงคราม หลังกลุ่มฮามาสจากปาเลสไตน์โจมตีเข้าไปในประเทศ
ซึ่ง Fireblocks บริษัทคริปโตผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บรักษาวอลเล็ตได้ประกาศเข้ามาช่วยบริหารและจัดการวอลเล็ตคริปโตต่างๆ ของ ‘Crypto Aid Fund’
และยังมีบริษัทคริปโตอื่นๆ อย่าง MarketAcross, Collider Ventures, Crypto Jungle และ Israel Blockchain Association มาร่วมช่วยเหลือในการบริหารและจัดการกองทุนดังกล่าวอีกเช่นกัน
Ben Samocha ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Crypto Jungle ชี้ว่า เราต้องการช่วยให้กองทุนเหล่านี้สามารถนำเงินไปช่วยเหลือทั้งด้านอาหารและที่อยู่ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทางด้านการแพทย์ สำหรับผู้ที่กำลังประสบภัยจากสงครามในอิสราเอล และต้องการช่วยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความยากลำบากของประชาชนอิสราเอลที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้
โดยกองทุน Crypto Aid Fund มีการเปิดเผยว่าจะใช้วอลเล็ตแบบ Multi Signature Wallet หรือวอลเล็ตแบบที่ต้องการลายเซ็นหรือความเห็นชอบจาก 2 คนที่เกี่ยวข้องขึ้นไปในการทำธุรกรรม เพื่อการเก็บรักษาเงินที่ได้รับจากการบริจาคมา ทั้ง Bitcoin, Ethereum, USDT และ USDC
ซึ่งทางกองทุนเองก็มีการใช้นโยบายที่เข้มงวด ที่จำเป็นต้องมีลายเซ็นมากกว่า 4 จาก 7 ลายเซ็นถึงจะนำเงินออกจากบัญชีได้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นปรากฏการณ์ของธนาคารในอิสราเอล ที่ทั้งฝ่ายกำกับดูแลและธนาคารต่างช่วยกันอำนวยความสะดวกเพื่อให้เงินบริจาคในรูปคริปโตสามารถแลกเปลี่ยนไป-มาระหว่างสกุลเงินท้องถิ่นได้
อ้างอิง: