- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB Consumer Confidence) ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 88.0 จุด ฟื้นตัวจากเดือนเมษายนเล็กน้อยที่ 86.9 จุด แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี สืบเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้สหรัฐฯ จะประกาศยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 490,000 หลัง ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 627,000 หลัง สืบเนื่องจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้า ซึ่งสร้างความกังวลและทำให้ยอดขายบ้านลดลง
- รัฐบาลเยอรมนีเตรียมเข้าอุ้มสายการบิน Lufthansa โดยพร้อมอัดฉีดเงินช่วยเป็นจำนวนเงิน 9 พันล้านยูโร หรือ 9.8 พันล้านดอลลาร์ หลังได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ และการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า Lufthansa เป็นบริษัทที่มีผลกำไรและการดำเนินงานที่ดี อย่างไรก็ตามทางบริษัทต้องงดจ่ายเงินปันผล และลดค่าตอบแทนของฝ่ายบริหาร เพื่อที่จะรับมาตรการช่วยหลือดังกล่าว
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เร่งพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลต่อจากประเทศจีน เบื้องต้นได้กำหนดตารางเวลาสำหรับการออกสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าว โดยจะเริ่มพัฒนาก่อนสิ้นปี 2563 ส่วนสาเหตุในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลนั้น มีจุดประสงค์หลักเพื่อผลักดันการทำธุรกรรมทางการเงินแบบไร้สัมผัส และจะมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการเงินขนาดเล็ก มากกว่าระดับมหภาค
- ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จะเพิ่มวงเงินเป็น 2 เท่า จากเดิมที่ 117.1 ล้านล้านเยนสู่ระดับ 200 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น คิดเป็นกว่า 40% ของ GDP เพื่อเยียวยาธุรกิจขนาดย่อม พนักงาน และนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
- สิงคโปร์ประกาศปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2020 เป็นครั้งที่ 3 หลังเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของโควิด-19 โดยเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในเอเชีย โดยกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์อาจหดตัวระหว่าง 4.0-7.0% ในปีนี้ จากก่อนหน้าที่ประมาณการอัตราการหดตัวไว้ที่ 1.0-4.0%
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีออกมาดีกว่าคาด โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของประเทศเยอรมนีปรับตัวขึ้นที่ระดับ 79.5 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 78.3 แสดงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังที่เศรษฐกิจจะฟื้นฟูเร็วๆ นี้ หลังรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมยกเลิกมาตรการฉุกเฉินในบางพื้นที่ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นจากแรงหนุนดังกล่าว
สหรัฐฯ ปิดทำการ
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 11391.28 เพิ่มขึ้น 317.41 (2.87%)
- FTSE 100 ปิดทำการ
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2971.35 เพิ่มขึ้น 65.88 (2.27%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 17595.9 เพิ่มขึ้น 279.61 (1.61%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 20741.65 เพิ่มขึ้น 353.49 (1.73%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5615.6 เพิ่มขึ้น 118.6 (2.16%)
- Shanghai อยู่ที่ 2817.97 เพิ่มขึ้น 4.2 (0.15%)
- SZSE Component อยู่ที่ 10592.84 ลดลง -12.12 (-0.11%)
- China A50 อยู่ที่ 13164.86 เพิ่มขึ้น 51.52 (0.39%)
- Hang Seng อยู่ที่ 22952.24 เพิ่มขึ้น 22.1 (0.1%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 10871.18 เพิ่มขึ้น 60.03 (0.56%)
- SET อยู่ที่ 1320.98 เพิ่มขึ้น 17.01 (1.3%)
- KOSPI อยู่ที่ 1994.6 เพิ่มขึ้น 24.47 (1.24%)
- IDX Composite ปิดทำการ
- BSE Sensex ปิดทำการ
- PSEi Composite ปิดทำการ
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 33.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.67 (2.02%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 35.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.45 (1.28%)
- ราคาทองคำอยู่ที่ 1726.88 ดอลลาร์่อออนซ์ ลดลง -9.19 (-0.53%)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum