สหรัฐฯ-จีนเลื่อนเจรจาทบทวนข้อตกลงการค้าไม่มีกำหนด, ทรัมป์ลงนามคำสั่งประธานาธิบดี ยืดเวลาบังคับขาย TikTok: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (17 ส.ค. 2563)

จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้ญี่ปุ่นมีกำหนดประกาศผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาสที่ 2/63 ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ -27.2%YoY ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหยุดชะงัก แม้ญี่ปุ่นไม่ได้มีการปิดเมืองก็ตาม ขณะที่ไทยมีกำหนดประกาศ GDP ประจำไตรมาสที่ 2/63 เช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ -13.3%YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 เช่นเดียวกับญี่ปุ่น จากผลกระทบของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

วานนี้สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวระบุว่าผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ และจีนเห็นชอบให้เลื่อนวันทบทวนข้อตกลงการค้าเฟส 1 ออกไป เนื่องจากตารางที่กำหนดไว้เดิมนั้นไม่เหมาะสม ซึ่งเดิมกำหนดเอาไว้ช่วงวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ของจีนก็ยังคงต่ำกว่าเป้าที่ตั้งเอาไว้ ซึ่งการเลื่อนออกไปนี้จะช่วยให้จีนมีเวลานำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มเติมเพื่อให้ใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้น

วันศุกร์ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Oder) ฉบับใหม่ ให้บริษัท ByteDance เจ้าของแอปพลิเคชัน TikTok ขายหรือเลิกกิจการในสหรัฐฯ ภายใน 90 วัน เนื่องจากมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า ByteDance นั้นอาจจะดำเนินการที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งการยืดเวลาครั้งนี้เป็นการขยายจากกำหนดการเดิมที่ 45 วัน โดยหากพ้นเส้นตายแล้วจะห้าม TikTok ทำธุรกรรมใดๆ ในสหรัฐฯ อย่างเด็ดขาด

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตัวแทนการค้าสหราชอาณาจักรออกแถลงการณ์ตอบโต้ท่าทีของสหรัฐฯ ในการคงกำแพงภาษี 15% ต่อบริษัท Airbus และ 25% ต่อสินค้าของสหภาพยุโรปบางส่วนว่าเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรมและยอมรับไม่ได้ พร้อมทั้งประณามสหภาพยุโรปว่าล้มเหลวที่จะป้องกันผลประโยชน์ของประเทศอังกฤษและสกอตแลนด์ ซึ่งยังคงมีสถานะเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปอยู่ และให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการตอบโต้มาตรการดังกล่าวของสหรัฐฯ อย่างแน่นอน โดยทั้งสองประเทศมีกำหนดการประชุมร่วมกันของตัวแทนการค้าในวันพุธนี้ เพื่อเจรจาหาข้อตกลงกรณีการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าดังกล่าวเป็นครั้งที่ 4

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิตาลีออกประกาศให้ผับและบาร์ปิดทำการตั้งแต่ช่วงเวลา 18.00-06.00 น. ทุกวัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอิตาลีมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อยลง ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลอิตาลีถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่อการยกเว้นการปิดสถานบันเทิงกลุ่มดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดจะรุนแรงก็ตาม โดยคำสั่งปิดสถานบันเทิงดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ทันทีในเช้าวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น ด้านกลุ่มผู้ประกอบการได้ประเมินว่ามีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 4,000 ล้านยูโรต่อปีจากธุรกิจสถานบันเทิง ส่งผลให้รัฐบาลต้องมีมาตรการเยียวยาในฐานะผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงด้วย

ภาวะตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัวจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก โดยดัชนียอดค้าปลีกออกมาเพิ่มขึ้นแค่ 1.2%MoM ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.9%MoM สร้างแรงกดดันให้กับตลาด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงคาดหวังมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จะบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วๆ นี้ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเช่นกันจากตัวเลข GDP ที่ออกมาหดตัว 12.1% แม้จะเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก็ตาม แต่ก็บ่งชี้ถึงการหดตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปซึ่งยังไม่มีวี่แววจะฟื้น แม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากการคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานสากล หรือ IEA ว่าปริมาณความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกปี 2563 จะลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากแรงเทขายของนักลงทุนจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมา 2 วัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ถูกเลื่อนออกไป ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก

สหรัฐฯ