- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกันยายน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 89.2 จุด ขยายตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 84.8 จุด สะท้อนความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวขึ้น แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นก็ตาม นอกจากนั้นแล้ว วันนี้ยังมีกำหนดการดีเบตใหญ่ครั้งแรกระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กับ โจ ไบเดน ตัวแทนชิงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครต ซึ่งถูกจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผลวิจัยระบุว่าการโต้วาทีช่วงก่อนการเลือกตั้งนั้นส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ลงคะแนนเสียงที่ยังไม่ตัดสินใจ
- หนังสือพิมพ์ The New York Times เผยแพร่บทวิเคราะห์ด้านภาษีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ย้อนหลัง 18 ปีที่ผ่านมา โดยระบุว่าทรัมป์นั้นเสียภาษีเพียง 7 จาก 18 ปีล่าสุดเท่านั้น ขณะที่หลังได้รับเลือกตั้งในปี 2016 เสียภาษีเพียง 750 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมระบุว่ายังมีประเด็นน่าสงสัยอื่นๆ อาทิ กรณีการลดหย่อนภาษีด้วยค่าใช้จ่ายจ้างที่ปรึกษาซึ่งเป็นคนในครอบครัว การนับค่าใช้จ่ายด้านบ้านพัก เครื่องบินส่วนตัวเป็นค่าใช้จ่ายด้านธุรกิจ และกรณี Forgiven Debt ในปี 2010 ที่ควรจะต้องถูกนับเป็นรายได้ อย่างไรก็ตามทรัมป์ตอบโต้ว่าเป็นการปล่อยข่าวปลอมที่ไร้สาระ และมีเจตนามุ่งร้าย โดยเขาเตรียมจะเปิดเผยข้อมูลด้านภาษีทั้งหมด หลังจากผ่านการตรวจสอบโดย Internal Revenue Service เรียบร้อย พร้อมทั้งยืนกรานว่าที่ผ่านมาเขาเสียภาษีเป็นเงินจำนวนมาก
- วานนี้ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) แถลงการณ์ระบุว่าเตรียมต่อมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารไปอีก 6 เดือน โดยให้ SMEs สามารถพักชำระหนี้เงินต้น ถ้าหากเป็นสินเชื่อที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันจนถึงปลายปีนี้ ขณะที่ประชาชนทั่วไปนั้นพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ รวมไปถึงผู้ที่สูญเสียรายได้จากปัญหาโควิด-19 สามารถขอสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและมีดอกเบี้ยต่ำได้ โดยที่ธนาคารกลางสิงคโปร์จะสนับสนุนด้านสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินต่างๆ ต่อไปหลังจากนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างมั่นคง
- วานนี้ โยชิโร โมริ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก แถลงการณ์ว่า การจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกจะเกิดขึ้นในปี 2021 อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พร้อมทั้งระบุว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีมาตรการดำเนินการ ซึ่งจะช่วยให้การแข่งขันมีความปลอดภัย แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังคงอยู่ก็ตาม ท่าทีดังกล่าวสอดคล้องกับโทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าญี่ปุ่นสามารถจัดการแข่งขันได้ แม้สถานการณ์ทั่วโลกยังไม่แน่นอนก็ตาม
- ทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (WTO) แถลงว่า คำตัดสินของ WTO มีความยุติธรรมและปราศจากอคติ พร้อมทั้งแสดงความคาดหวังว่าคำตัดสินนี้จะช่วยแก้ไขข้อพิพาทระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ได้ หลังสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีบนสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2018 เพื่อตอบโต้จีนจากกรณีขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่ง WTO ตัดสินว่าเป็นการละเมิดกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากความคืบหน้าของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจที่ใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว รวมทั้งท่าทีชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยืนยันว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์รอบที่ 2 ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสายการบินจนปรับตัวขึ้นแรง อาทิ หุ้น Delta Air Lines พุ่ง 5.27% และหุ้น United Airlines พุ่ง 5.09% เป็นต้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน แม้จำนวนผู้ติดโควิด-19 จะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม แต่นักลงทุนยังคาดหวังว่ามาตรการล็อกดาวน์จะช่วยให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง และกลับมาเปิดประเทศได้เร็วขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยุโรป
- สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากความคืบหน้าของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลดีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และทำให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ลดความกังวลที่อาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลดังกล่าว
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 27584.06 เพิ่มขึ้น 410.1 (1.51%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3351.6 เพิ่มขึ้น 53.14 (1.61%)
- Nasdaq อยู่ที่ 11117.53 เพิ่มขึ้น 203.96 (1.87%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 12870.87 เพิ่มขึ้น 401.67 (3.22%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 5927.93 เพิ่มขึ้น 85.26 (1.46%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3223.19 เพิ่มขึ้น 86.13 (2.75%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19160.1 เพิ่มขึ้น 461.74 (2.47%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 23511.62 เพิ่มขึ้น 307 (1.32%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5952.3 ลดลง -12.6 (-0.21%)
- Shanghai อยู่ที่ 3217.53 ลดลง -1.88 (-0.06%)
- SZSE Component อยู่ที่ 12760.93 ลดลง -53.24 (-0.41%)
- China A50 อยู่ที่ 15231.64 เพิ่มขึ้น 104.83 (0.69%)
- Hang Seng อยู่ที่ 23476.05 เพิ่มขึ้น 240.63 (1.04%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 12462.76 เพิ่มขึ้น 229.85 (1.88%)
- SET อยู่ที่ 1263.02 เพิ่มขึ้น 18.08 (1.45%)
- KOSPI อยู่ที่ 2308.08 เพิ่มขึ้น 29.29 (1.29%)
- IDX Composite อยู่ที่ 4906.55 ลดลง -39.24 (-0.79%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 37981.63 เพิ่มขึ้น 592.97 (1.59%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5861.39 เพิ่มขึ้น 22.73 (0.39%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 40.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.34 (85%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 42.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.97 (214%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1882.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 22.72 (122%)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters