กระทรวงการคลังเตรียมเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ล็อตสุดท้ายของปีงบประมาณนี้ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 5,000 ล้านบาท เริ่มจำหน่ายผ่านแอป ‘เป๋าตัง’ วันที่ 30 กรกฎาคมนี้ วงเงินซื้อขั้นต่ำ 100 บาท อีก 15,000 ล้านบาท จำหน่ายผ่าน 6 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 4 – 6 สิงหาคม อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.49% ต่อปี
พชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แจ้งว่า สบน. จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 2 วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท โดยเป็นการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นอายุ 10 ปี และมีอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ดังนี้
- ปีที่ 1 – 3 ผลตอบแทน 1.70% ต่อปี
- ปีที่ 4 – 7 ผลตอบแทน 2.40% ต่อปี
- ปีที่ 8 – 10 ผลตอบแทน 3.40% ต่อปี
(รวมแล้วเฉลี่ย 2.49% ต่อปี)
ซึ่งจะแบ่งการจำหน่ายเป็น 2 รูปแบบคือ
รูปแบบที่ 1: จำหน่ายผ่านวอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) บนแอป ‘เป๋าตัง’ วงเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายวันที่ 30 กรกฎาคม – 7 สิงหาคม 2568 โดยใช้วิธีการจัดสรรแบบ First-Come, First-Served (มาก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน) ซึ่งจำกัดอายุผู้ซื้อไว้สำหรับบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งมีวงเงินซื้อขั้นต่ำ-ขั้นสูงต่อราย ดังนี้
- วงเงินซื้อขั้นต่ำ 100 บาท (100 หน่วย) – 20,000,000 บาท (20,000,000 หน่วย)
- วงเงินซื้อขั้นสูงต่อครั้ง ไม่เกิน 5,000,000 บาท (5,000,000 หน่วย)
- ซื้อเพิ่มเป็นจำนวนเท่าของ 100 บาท และไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้าซื้อ
รูปแบบที่ 2: จำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่าย 6 ราย วงเงิน 15,000 ล้านบาท ซึ่งเริ่มจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 4 – 6 สิงหาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 15.00 น. (ไม่รับชำระด้วยเช็คในวันที่ 6 สิงหาคม 2568) โดยเปิดขายให้บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ได้แก่
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
ซึ่งใช้วิธีการจัดสรรแบบ ‘Small Lot First’ หรือ ทยอยจัดสรรพันธบัตรเป็นรอบๆ เวียนจนครบผู้ซื้อทุกราย โดยทวีคูณรอบละ 1,000 บาท แบบสุ่ม ดังนั้น ลำดับในการจองซื้อก่อน-หลัง จึงไม่มีผลต่อการจัดสรร
และในกรณีที่วงเงินพันธบัตรที่จะจัดสรรในรอบสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ผู้ซื้อทุกราย ระบบคอมพิวเตอร์จะจัดสรรพันธบัตรในรอบสุดท้ายด้วยวิธีการสุ่ม (Random) จนครบวงเงินจำหน่าย ทั้งนี้ ผู้จองซื้อจะทราบผลการจัดสรรพันธบัตรและได้รับเงินคืน กรณีที่ไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตร หรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามวงเงินจองซื้อ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2568
มีวงเงินซื้อขั้นต่ำ-ขั้นสูงต่อราย ดังนี้
- จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท (1 หน่วย) – ไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง
- หน่วยละ 1,000 บาท ซื้อเพิ่มเป็นจำนวนเท่าของ 1,000 บาท และไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้าซื้อ
พชร ยังระบุอีกว่า ในปีนี้ ตราสารหนี้ไทยยังคงได้รับความนิยมจากสถาบันการเงิน และนักลงทุนต่างชาติราว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ สังเกตได้จากเม็ดเงินที่ไหลเข้ามามากกว่าปีก่อน
โดยปัจจัยหนุนตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ทำให้ผลตอบแทนของตราสารหนี้จึงดึงดูดนักลงทุนสถาบันมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ภาครัฐสามารถกู้เงินด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำได้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องความกังวลต่อหนี้สาธารณะในสหรัฐฯ ประกอบกับเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เม็ดเงินจากต่างประเทศไหลมายังไทยมากขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ สบน. ยังเตรียมเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของงบประมาณปัจจุบัน ด้วยวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท