ไม่น่าแปลกใจที่ฟอร์มการเล่นของทีมชาติฝรั่งเศสจะทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่น่าจับตามองว่ามีโอกาสจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 มาครองในครั้งนี้

แค่หลับตาแล้วนึกตามถึงขุมกำลังที่นำโดย อองตวน กรีซมันน์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเติบโตมากพอและพร้อมที่จะเป็นผู้นำชัยชนะมาสู่ทีม เช่นกันกับ พอล ป็อกบา ที่เติบโตในทางลูกหนัง และเพชรเม็ดงามของวงการอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้

ไม่นับนักเตะระดับท็อปอีกมากมายที่มีอยู่ล้นทีม ไม่ว่าจะเป็น เอ็นโกโล ก็องเต, ราฟาเอล วาราน, เบนจามิน ปาวาร์ ไปจนถึงม้านั่งสำรองก็ยังมีผู้เล่นที่น่าอิจฉาอย่าง นาบิล เฟคีร์, อุสมาน เดมเบเล

แต่ท่ามกลางนักเตะเหล่านี้ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เริ่มรู้ตัวว่ามีผู้เล่นหนึ่งคนที่พวกเขาไม่สามารถจะขาดได้ ทั้งๆ ที่นักเตะคนดังกล่าวเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าแต่ทำไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวในฟุตบอลโลกหนนี้ คิดรวมเป็นเวลา 412 นาทีเข้าไปแล้ว

อะไรคือเหตุผลที่ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นกุญแจสำคัญของฝรั่งเศส?

ย้อนกลับไปในเกมแรกของฝรั่งเศสในฟุตบอลโลกหนนี้ พวกเขาเจอกับออสเตรเลีย ทีมจากเอเชีย (ในวงเล็บโอเชียเนีย) โดยมีการจัดแนวรุกที่น่าสนใจอย่างมาก โดยมีเอ็มบัปเป้ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวกลาง ขนาบข้างด้วยกรีซมันน์และเดมเบเล

ถ้าจัด 3 ตัวรุกนี้ลงเล่นในวิดีโอเกม ไม่ว่าจะเป็น Football Manager หรือ FIFA หรือ Pro Evolution Soccer มั่นใจได้เลยว่าจะมีประตูเกิดขึ้นอย่างถล่มทลายได้ไม่ยาก เพราะต่างเป็นกองหน้าในระดับท็อปของยุโรปที่ค่าตัวรวมกันอาจจะทะลุ 500 ล้านยูโรได้อย่างสบายๆ

แต่เมื่อฟุตบอลในชีวิตจริงมันไม่ง่ายเหมือนในเกม มันมีองค์ประกอบอื่นที่สำคัญที่จะทำให้ทีมทำผลงานได้ดีตามที่คาดหวัง ซึ่งสามแนวรุกข้างต้นนั้นไม่สามารถจะทำในสิ่งที่เดส์ชองส์และแฟนฟุตบอลฝรั่งเศสคาดหวังได้

นอกจากจะไม่สามารถผลิตประตูได้อย่างที่ควรจะเป็น แค่เล่นให้เข้ากันยังทำไม่ได้

นั่นทำให้เดส์ชองส์ตัดสินใจว่า เขาไม่สามารถจะฝากทุกอย่างเอาไว้กับความเชื่อว่าเดี๋ยวเอ็มบัปเป้, กรีซมันน์ และเดมเบเลจะเล่นด้วยกันได้เอง เพราะในฟุตบอลโลกมันไม่มีเวลาสำหรับการเสี่ยงทายด้วยอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ เซียมซี หรือหัวหมูก็ตาม

คนที่ ‘เดเด้’ หันกลับไปหาคือชิรูด์ กองหน้าประสบการณ์สูงหนึ่งเดียวของทีมที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากที่สุด

หากใครติดตามชิรูด์มานาน ย่อมรู้ว่าสไตล์ของกองหน้าหนวดเข้มตาคมขวัญใจของสาวๆ คนนี้โดดเด่นในเรื่องของลูกกลางอากาศ ตามสไตล์ศูนย์หน้าแบบ Target-man หรือกองหน้าตัวเป้าที่เกิดมาเพื่อรับบอล เก็บบอล และเชื่อมโยงกับเพื่อนร่วมทีมในเกมรุก

แน่นอนว่าต้องมีเรื่องของการทำประตู ซึ่งเป็น ‘หน้าที่’ ในตำแหน่งของเขาโดยตรงด้วย

สิ่งที่น่ายินดีสำหรับเดส์ชองส์และแฟนฟุตบอลฝรั่งเศสคือ ชิรูด์ยังคงเป็นคนเดิมที่พยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ และครั้งนี้เขาทำได้ดี

รูปร่างสูงใหญ่ของเขา ความแข็งแกร่ง และการสัมผัสบอล รวมถึงประสบการณ์ของชิรูด์กลายเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เกมรุกของฝรั่งเศสที่กระจัดกระจายในช่วงก่อนหน้านี้กลับมารวบรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้อีกครั้ง

การมีเขาอยู่ทำให้กองหลังไม่ต้องจับจ้องไปที่เอ็มบัปเป้หรือกรีซมันน์จนเกินไป ซึ่งการดึงตัวประกบให้ออกห่างกับระยะทางเพียงแค่ 5-10 หลานั้นหมายถึงการ ‘ซื้อพื้นที่และเวลา’ ให้ 2 สตาร์เอกของทีมแสดงอิทธิฤทธิ์ในแบบที่พวกเขาถนัด

และแค่นั้นก็มีค่าเท่ากับโอกาสในการลุ้นแชมป์โลกของฝรั่งเศสแล้ว

เดส์ชองส์กล่าวถึงหัวหอกของเขาได้น่าสนใจว่า “มันก็จริงที่เขาอาจจะยิงไม่ได้ในตอนนี้ ผมขอย้ำนะว่าในตอนนี้ แต่เขาเป็นคนสำคัญของทีมเราและสำคัญต่อสไตล์การเล่นของเรา ในเกมกับอาร์เจนตินา เขาทำแอสซิสต์ให้กับเอ็มบัปเป้ (ประตู 4-2) และเราต้องการการสนับสนุนการเล่นแบบนี้”

มีการพูดถึงกันมากว่า ชิรูด์นั้นมีส่วนผสมคล้ายคลึงกับ 2 ตัวรุกในทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์โลกสมัยแรกและสมัยเดียวเมื่อปี 1998 อย่าง สเตฟาน กิวาร์ช และ คริสตอฟ ดูการ์รี โดยเฉพาะรายหลังที่มีบางอย่างคล้ายกันมาก โดยเฉพาะการเล่นที่เป็นประโยชน์ต่อทีม

ในฟุตบอลโลกสมัยนั้น ซึ่งเดส์ชองส์เป็นกัปตันทีมด้วย กิวาร์ช ดาวซัลโวของลีกเอิงกับโอแซร์ ในฤดูกาล 1997-1998 ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว ขณะที่ดูการ์รียิงได้แค่ 1 ประตูเท่านั้น ขณะที่ดาวรุ่งอย่าง เธียร์รี อองรี ซึ่งเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายกลับยิงได้มากกว่าที่ 3 ประตู

แต่การมีอยู่ของกิวาร์ชและดูการ์รีสำคัญต่อองค์ประกอบโดยรวมของฝรั่งเศส ซึ่งสามารถทำให้นักเตะอย่างอองรี, ซีเนดีน ซีดาน และ ยูริ จอร์เกฟฟ์ สามารถเล่นในแบบที่พวกเขาถนัดได้

ในครั้งนี้ชิรูด์ก็ทำในสิ่งเดียวกัน และเขาก็ยังทำประตูไม่ได้เหมือนกัน โดยขณะนี้ผ่านมาแล้ว 412 นาทีในฟุตบอลโลกหัวหอกเชลซี ยังใส่สกอร์ไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่เขาสนใจ

“เวลาที่เล่นเป็นกองหน้าแบบผม เราจะเล่นเพื่อเพื่อนร่วมทีมเสมอ” ชิรูด์กล่าวถึงสถิติของตัวเอง “แน่นอนว่าผมก็อยากมีโอกาสและยิงให้ได้ แต่ถ้าผมสามารถเปิดพื้นที่ให้คนอื่นได้ ผมก็จะพยายามหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้ทีม และนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด

“ฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกในปี 1998 ได้โดยที่ดูการ์รียิงได้แค่ประตูเดียว ส่วนกิวาร์ชยิงไม่ได้เลย แต่ถ้าครั้งนี้พวกเราจะเป็นแชมป์โลกโดยที่ผมยิงไม่ได้เลยผมก็ไม่สนใจ ในความหมายว่าถ้าผมได้ลงสนาม เจ้านายคิดว่าผมมีประโยชน์ต่อทีม ผมก็มีบทบาทที่ผมจำเป็นต้องเล่น”

อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากเรื่องของความสามารถในการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของชิรูด์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ‘ทัศนคติ’ ที่น่ายกย่อง

ชิรูด์คือตัวอย่างของนักฟุตบอลที่เล่นเพื่อทีมอย่างแท้จริงโดยปราศจากคำถามใดๆ

เพราะในชีวิตจริงแล้ว ในการทำงานเป็นทีมไม่ใช่ทุกคนที่จะมีบทบาทที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาคนอื่นได้เสมอไป

ถ้าทุกคนคิดแต่จะเอาหน้ากันอย่างเดียว ลองหลับตาแล้วจินตนาการดูก็ได้ว่ามันจะอลหม่านและเละเทะขนาดไหน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าคือการทำตามบทบาทและหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

แต่หากต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทีมจะขับเคลื่อนไปได้ด้วยตัวมันเอง และนั่นหมายถึงโอกาสที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางที่ฝันไว้

การเป็นหัวหอก 0 ประตูของชิรูด์ในฟุตบอลโลกหนนี้จึงไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย

ในทางตรงกันข้ามมันเป็น 0 ประตูที่น่าภูมิใจ โดยเฉพาะหากสุดท้ายแล้วฝรั่งเศส คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ได้จริงๆ

แต่ถ้าจะดีกว่าก็ขอให้ชิรูด์ใส่สกอร์ได้บ้างสักลูกเป็นรางวัลตอบแทนความพยายาม

อ้างอิง:

• www.theguardian.com/football/2018/jul/08/olivier-giroud-france-striker-no-goals-hope-belgium
• www.squawka.com/en/news/didier-deschamps-france-need-olivier-giroud-despite-goalless-world-cup/1046522#Um6o7rYmdHL1EAg1.97
• en.wikipedia.org/wiki/Olivier_Giroud#cite_note-PK-148