วันนี้ (17 ธันวาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอดังนี้
- ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม ลด และยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต ใบแทนใบอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาต พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตนำเข้า ใบอนุญาตส่งออก การออกใบแทนใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาต รวมทั้งลดและยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม
- ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม ซึ่งจะเป็นมาตรการในการกำกับดูแลการนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม
คารมกล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงรวม 2 ฉบับที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตนำเข้า ใบอนุญาตส่งออก การออกใบแทนใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาต ลด และยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 5 วรรคสอง มาตรา 6, มาตรา 10, มาตรา 13, มาตรา 14 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พืชกระท่อม พ.ศ. 2565 (เป็นกฎหมายใหม่ภายหลังจากการถอดพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษ) ที่ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกำหนดเรื่องดังกล่าวไว้ในกฎกระทรวง
สรุปสาระสำคัญดังนี้
▪️1. ร่างกฎกระทรวงตามข้อ 1. กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตพืชกระท่อม (มีอายุ 5 ปี) กรณีการนำเข้า ส่งออก การออกใบแทนใบอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาต เช่น
1) ใบอนุญาตนำเข้าใบกระท่อม ค่าธรรมเนียมฉบับละ 5,000 บาท
2) ใบอนุญาตส่งออกใบกระท่อม ค่าธรรมเนียมฉบับละ 5,000 บาท
3) ใบแทนใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมฉบับละ 1,000, บาท
4) การต่ออายุใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตนั้น และลดค่าธรรมเนียมการส่งออกใบกระท่อมลงกึ่งหนึ่งแก่ผู้ส่งออกใบกระท่อม ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายไทย ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงฉบับนี้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และลดค่าธรรมเนียมการส่งออกใบกระท่อมลงกึ่งหนึ่งแก่ผู้ส่งออกใบกระท่อม ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชน และให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการส่งออกใบกระท่อมแก่ผู้ส่งออกใบกระท่อมซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนและหน่วยงานของรัฐ ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงฉบับนี้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
▪️2. ร่างกฎกระทรวงตามข้อ 2. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม เช่น
1) กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ยื่นคำขอใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม เช่น เป็นหน่วยงานของรัฐ สภากาชาดไทย บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างการถูกพักใช้ใบอนุญาต นิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย มีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย เป็นผู้แทนของนิติบุคคลหรือผู้มีอำนาจทำการแทนนิติบุคคลซึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด เช่น มีสัญชาติไทย มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และเป็นกรรมการของนิติบุคคล หุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 ใน 3 หรือเป็นวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจชุมชนที่ไม่เป็นนิติบุคคล เป็นผู้ได้รับมอบหมายกิจการแทนซึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนด เช่น ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างการถูกพักใช้ใบอนุญาต และไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าด้วยการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.พืชกระท่อมฯ
2) การยื่นคำขอและต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขออนุญาตต่อผู้อนุญาต (เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมอบหมาย) โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้ยื่นด้วยตนเอง พร้อมด้วยข้อมูลเอกสารหรือหลักฐานตามที่กำหนด เช่น เลขประจำตัวประชาชน ในกรณีบุคคลธรรมดาเป็นผู้ขออนุญาต ชื่อและเลขทะเบียนนิติบุคคล ในกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้ขออนุญาต
3) ข้อยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าหรือส่งออก ได้แก่ การนำใบกระท่อมติดตัวเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อบริโภคเป็นการส่วนตัว (สำหรับบริโภคเล่น เช่น ลักษณะคล้ายเคี้ยวหมากฝรั่ง) หรือบริโภคเพื่อบำบัด รักษาบรรเทาอาการเจ็บป่วยของผู้ซึ่งเดินทางระหว่างประเทศ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าหรือส่งออก ทั้งนี้ ต้องไม่เกินปริมาณที่กำหนด (ใบของพืชกระท่อมจำนวนไม่เกิน 50 ใบ หรือมีน้ำหนักใบของพืชกระท่อมไม่เกิน 100 กรัม และน้ำต้มใบของพืชกระท่อมจำนวนไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร)