หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่ได้รับการจับมองจากบรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนทั่วโลกในสัปดาห์นี้คือการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยหลายสำนัยวิจัยทางเศรษฐกิจต่างเทน้ำหนักไปที่การตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง พร้อมยังคงโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในอนาคต
เหตุผลเพราะข้อมูลทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด บ่งชี้ว่า แม้ตัวเลขเงินเฟ้อจะเติบโตในอัตราชะลอตัว แต่ราคาพลังงานที่ขยับเพิ่มขึ้นบวกกับการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะกลับมาขยับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
โดยอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ประจำเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 3.7% จากปีก่อน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนกรกฎาคมก่อนหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% แต่ทว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
กระนั้น ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กกำลังรู้สึกกดดันจากราคาต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กลดต่ำลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
ด้านยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนสิงหาคมจากเดือนกรกฎาคม นับเป็นการเติบโตเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากการใช้จ่ายสำหรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น จากการลดการผลิตของซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย และอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมด ทำให้เทรดเดอร์ประมาณ 97% คาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในเดือนกันยายน แต่ยังคงไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่า Fed จะยังคงคงอัตราดอกเบี้ยไว้หรือปรับขึ้นอีกในช่วงที่เหลือของปีหรือไม่
Liz Young หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ SoFi กล่าวว่า ไม่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงสูงขึ้นไปอีกนาน หรือเป้าหมายเงินเฟ้อจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องเฝ้าระวังในเวลานี้ก็คือต้นทุนที่ยังคงสูงและปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้
ขณะที่นักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า นอกจากจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมในวันที่ 19-20 กันยายนนี้แล้ว Fed ยังไม่น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมระหว่างวันที่ 31 ตุลาคมถึง 1 พฤศจิกายน
รายงานของ Goldman Sachs ประเมินว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะมีความสมดุลเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนโดยได้อานิสงส์ข่าวดีเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ บวกกับตัวเลขการเติบโตในไตรมาส 4 ส่งท้ายปี ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า คณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) จะไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งท้ายปี
ขณะเดียวกัน ยังเชื่อว่าหากตัวเลขเงินเฟ้อแสดงสัญญาณชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ภายในปีหน้าก็น่าจะได้เห็น Fed กลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังคาดว่า Fed จะปรับลดประมาณการอัตราการว่างงานในปี 2023 ที่ 3.9% และลดประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลงเหลือ 3.5%
นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังประเมินด้วยว่า Fed จะปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2023 เป็น 2.1% จาก 1%
อ้างอิง