แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ทำให้ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) มีความมั่นใจเพียงพอที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ดอกเบี้ยอ้างอิงของ Fed ลดลงเหลือ 4.75-5% การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี และถือเป็นจุดเปลี่ยนในนโยบายของธนาคารกลางในการป้องกันภาวะถดถอยของตลาดแรงงาน
ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ซึ่งเป็นมาตรวัดราคาที่ Fed ชื่นชอบและแสดงให้เห็นถึงภาพรวมของอุปสงค์ของผู้บริโภคนั้น ถือเป็นการยืนยันทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลาง และมุมมองของ Jerome Powell ประธาน Fed ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง
นักเศรษฐศาสตร์มองว่า PCE จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน และตัวเลข Core PCE อาจเพิ่มขึ้น 2.3% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นประจำปีที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2021 และสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางเพียงเล็กน้อย การชะลอตัวของเงินเฟ้อจากปีก่อนสะท้อนถึงราคาพลังงานและราคาอาหารที่ปรับตัวลง รวมถึงต้นทุนพื้นฐานที่ลดลง นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า มาตรวัดราคา PCE ที่ไม่รวมอาหารและเชื้อเพลิงอาจเพิ่มขึ้น 0.2% เป็นเดือนที่ 3
นักลงทุนจะวิเคราะห์ความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ Fed ในสัปดาห์นี้ โดย Michelle Bowman, Adriana Kugler, Lisa Cook, Raphael Bostic และ Austan Goolsbee จะปรากฏตัวในงานต่างๆ และแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
ตัวเลขเงินเฟ้อของเดือนสิงหาคมจะถูกเผยแพร่ในวันศุกร์ที่ 27 กันยายนนี้ พร้อมกับข้อมูลการใช้จ่ายส่วนบุคคลและรายได้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า รายจ่ายครัวเรือนจะเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงอีกครั้ง การเติบโตอย่างต่อเนื่องของการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะช่วยเพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่อไป
ในแคนาดาคาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เดือนกรกฎาคมและประมาณการสำหรับเดือนสิงหาคม จะแสดงให้เห็นการเติบโตที่อ่อนแอในไตรมาส 3 ซึ่งน่าจะต่ำกว่าการคาดการณ์ของธนาคารกลางแคนาดา (BOC) ที่ 2.8% ต่อปี ในขณะเดียวกัน Tiff Macklem ผู้ว่าการ BOC จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมธนาคารที่โทรอนโต
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คาดว่าจะคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยที่ 4.35% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันอังคาร โดยประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่ว่า Michele Bullock ผู้ว่าการ RBA จะยังคงมีท่าที Hawkish ต่อไปหรือไม่ หลังจากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งทำให้บรรดาเทรดเดอร์ลดการเดิมพันเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมลง
Bloomberg Economics ยังคงมองว่า RBA อาจผ่อนปรนนโยบายการเงินในไตรมาส 4 โดยตลาดจะต้องรอจนถึงวันพุธ จึงจะทราบว่าอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียจะชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนสิงหาคมหรือไม่
นอกจากนี้ ธนาคารกลาง 4 แห่งในยุโรปมีกำหนดตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ซึ่งนักลงทุนจะจับตามองว่าธนาคารอื่นๆ จะเดินตามรอย Fed ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่
เช่นเดียวกันกับธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ในวันพฤหัสบดี แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% แต่ผู้สังเกตการณ์คาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะเพิ่มโอกาสที่ SNB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในขนาดเท่ากัน เนื่องจากทางการกำลังเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของเงินฟรังก์สวิส และนี่จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของ Thomas Jordan ประธาน SNB ซึ่งจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในสิ้นเดือนนี้
ธนาคาร Riksbank ของสวีเดนคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ โดยจะปรับอัตราดอกเบี้ยเป็น 3.25% และจะวางแนวทางในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม นอกจากนี้ ธนาคารกลางฮังการีและธนาคารกลางสาธารณรัฐเช็กคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในวันอังคารนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับเดือนกันยายนในวันจันทร์ ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณถึงสถานะของกิจกรรมภาคเอกชนในช่วงปลายไตรมาส 3
ความอ่อนแอของเยอรมนีถือเป็นจุดสนใจของนักลงทุน ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของ ifo จึงเป็นตัวเลขสำคัญที่จะถูกเผยแพร่ในวันอังคาร ข้อมูลของฝรั่งเศสจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเช่นกัน PMI ของเศรษฐกิจอันดับ 2 ของยูโรโซนได้รับแรงหนุนจากโอลิมปิกในเดือนสิงหาคม แต่ผลกระทบดังกล่าวคาดว่าจะลดลงในเดือนนี้
นอกจากนี้ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็จะตามมาด้วย ตัวเลขเงินเฟ้อของฝรั่งเศสและสเปนในเดือนกันยายนจะได้รับความสนใจในวันศุกร์ ซึ่งจะบ่งชี้ถึงผลลัพธ์โดยรวมของยูโรโซนที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ารายงานของทั้งสองประเทศจะลดลงต่ำกว่า 2%
อ้างอิง:
