รายงานการประชุมในเดือนธันวาคมที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 มกราคม) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่ Fed ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช้าลงเนื่องจากความไม่แน่นอนดังกล่าว
นอกจากนี้สรุปการประชุมยังได้กล่าวถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการย้ายถิ่นฐานและการค้าอย่างน้อย 4 ครั้ง โดยไม่ได้ระบุชื่อทรัมป์โดยตรง
นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน เขาได้ส่งสัญญาณถึงแผนการขึ้นภาษีศุลกากรที่เข้มงวด และลงโทษจีน เม็กซิโก และแคนาดา รวมถึงคู่ค้ารายอื่นของสหรัฐฯ นอกจากนี้เขายังตั้งใจที่จะยกเลิกกฎระเบียบหลายอย่างและเนรเทศผู้อพยพจำนวนมากอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ขอบเขตการดำเนินการของทรัมป์สร้างความคลุมเครือเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) กล่าวว่า จะต้องใช้ความระมัดระวังในการตัดสินนโยบายการเงิน
สมาชิก FOMC ลงมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงของธนาคารกลางลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 4.25-4.5% ในการประชุมนโยบายการเงินเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม พวกเขาลดการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 ลงเหลือ 2 ครั้งจาก 4 ครั้งเมื่อเทียบกับประมาณการครั้งก่อนหน้านั้นในการประชุมเดือนกันยายน
Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% ตั้งแต่เดือนกันยายน และการคาดการณ์ของตลาดปัจจุบันบ่งชี้ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกเพียง 1 หรือ 2 ครั้งในปีนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ FOMC จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28-29 มกราคม 2025 ตามข้อมูลจาก CME FedWatch
รายงานการประชุมระบุว่า อัตราการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะช้าลง สมาชิกยังเห็นด้วยว่าขณะนี้อัตราดอกเบี้ยของนโยบายใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง (Neutral Rate) อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงที่ Fed เริ่มผ่อนคลายนโยบายในเดือนกันยายน นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประชุมหลายคนยังเสนอแนะว่ามีหลายปัจจัยที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตัดสินใจนโยบายการเงินอย่างรอบคอบในช่วงไตรมาสต่อๆ ไป
เงื่อนไขเหล่านี้รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่เหนือเป้าหมายประจำปี 2% ของ Fed อัตราการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มั่นคง ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เจ้าหน้าที่เน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายในอนาคตจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เกิดขึ้นและไม่ได้เป็นไปตามกำหนดการที่กำหนดไว้
ในเอกสารการประชุม เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ระบุว่า แม้ว่าพวกเขาจะมองว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเหลือ 2% แต่พวกเขาเชื่อว่าตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2027 แถลงการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงแนวคิดของผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งหลายคนสังเกตเห็นว่าระดับความไม่แน่นอนที่สูงในปัจจุบัน ทำให้เป็นเรื่องเหมาะสมที่คณะกรรมการจะใช้แนวทางค่อยเป็นค่อยไปในขณะที่เคลื่อนไหวไปสู่จุดยืนอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง
ภาพ: Douglas Rissing / Getty Images
อ้างอิง:
