วันนี้ (18 ก.ย.) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะประชุมหารือเป็นวันที่ 2 ซึ่งคาดว่าที่ประชุมจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ ขณะที่ตลาดรอจับสัญญาณจาก เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากนี้
ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.0% หลังจากที่ปรับลดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของ Fed นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อ 10 ปีก่อน
นอกจากดอกเบี้ยแล้ว นักลงทุนยังรอดูท่าทีที่ชัดเจนของพาวเวลล์ หลังจากที่เขาสร้างความสั่นคลอนให้กับตลาดภายหลังการประชุม Fed ครั้งก่อนด้วยการส่งสัญญาณว่า Fed กำลังปรับดอกเบี้ยกลางวงจร ไม่ใช่การเริ่มวงจรการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องตามที่มีการเข้าใจกัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงในตอนนั้น และดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้มีกระแสคาดการณ์ว่า Fed อาจตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบนี้ สืบเนื่องจากแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมันและตัวเลขเศรษฐกิจในภาคแรงงานและการบริโภคที่ยังแข็งแกร่ง โดยระดับความน่าจะเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 54.23% ก่อนจะดีดตัวขึ้นเป็น 90% ในปัจจุบัน
นักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งเชื่อว่า Fed ไม่น่าจะส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งในการประมาณการแนวโน้มดอกเบี้ยปีนี้ (Dot Plot) ขณะที่ตลาดคาดหวังว่า Fed จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
ความเคลื่อนไหวของ Fed ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางแรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้ Fed ลดดอกเบี้ยเหลือ 0% หรือติดลบเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST) มองว่า Fed จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตาม Consensus ของตลาดหรือมุมมองภาพรวมของนักวิเคราะห์ ถึงแม้บางคนจะมองว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยมากกว่านี้ก็ตาม
ชาตรีระบุว่าเวลานี้ Fed คงไม่อยากทำอะไรที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดมากนัก เพราะการคงอัตราดอกเบี้ยหรือลดมากกว่า 0.25% จะถูกตีความเป็น Negative ได้ทั้งคู่
หาก Fed ตัดสินใจไม่ลดดอกเบี้ยเลยก็อาจถูกมองว่าไม่ช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ถ้าลดมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในคราวเดียวก็อาจถูกตีความว่าเป็นสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีที่ตลาดยังมองไม่เห็น หรือเศรษฐกิจอาจแย่กว่าที่คาด
ชาตรีมองว่าการปรับดอกเบี้ยตรงตาม Consensus จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น เพราะที่ผ่านมาตลาดมีการซึมซับกระแสคาดการณ์ลดดอกเบี้ยไปแล้ว หากจะมีการเคลื่อนไหวภายหลังมีมติที่ประชุมออกมาก็น่าจะบวกลบกันไม่มาก
ส่วนการส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยครั้งถัดๆ ไปในปีนี้นั้น ชาตรีให้ความเห็นว่า Fed ไม่น่าจะทำเช่นนั้น เพราะที่ผ่านมา Fed ก็เคยลดดอกเบี้ย แต่ก็ไม่บอกว่าจะลดต่อหรือไม่ แต่ถ้าดูจากค่า Fed Funds Futures หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยนั้น จะเห็นว่า Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยอีก 4 ครั้งระหว่างวันนี้ไปจนถึงกลางปีหน้า
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- www.cnbc.com/2019/09/17/fed-expected-to-cut-rates-powell-may-have-hard-time-appeasing-critics.html
- บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)