ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยตามความคาดหมาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินปี 2008 หรือในรอบกว่าหนึ่งทศวรรษ ขณะที่สหรัฐฯ พยายามประคับประคองเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสงครามการค้าที่มีแนวโน้มขยายวงกว้าง
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.0-2.25% ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้แตกต่างจากการลดดอกเบี้ยในปี 2008 ที่มุ่งกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจเป็นสำคัญ แต่ครั้งนี้เป็นการปกป้องเศรษฐกิจไม่ให้ได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีนและยุโรป รวมถึงความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงดีอยู่ แต่การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจต่อไป เนื่องจากมีความเสี่ยงในทิศทางขาลงจากผลพวงของภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและความขัดแย้งทางการค้า
กระนั้นเสียงของ FOMC ก็ไม่เป็นเอกฉันท์ เพราะมีกรรมการกำหนดนโยบายการเงินหลายคนที่ไม่สนับสนุนให้ Fed ลดดอกเบี้ย เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังอยู่ในทิศทางการเติบโต ประกอบกับอัตราว่างงานก็อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี ขณะที่ค่าแรงก็เริ่มปรับตัวขึ้น โดยผู้ที่โหวตคัดค้านและต้องการให้ Fed คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคราวนี้ประกอบด้วย เอริค โรเซนเกรน ประธาน Fed สาขาบอสตัน และเอสเธอร์ จอร์จ ประธาน Fed สาขาแคนซัส
อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์ย้ำว่า Fed ยังไม่เริ่มนโยบายเดินหน้าลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในเวลานี้ และไม่รับประกันว่าจะดำเนินการอีกในอนาคต แต่ก็แย้มว่านี่อาจไม่ใช่การปรับลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว เพราะต้องดูปัจจัยอื่นๆ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจหลังจากนี้มาประกอบ
Fed ชี้แจงว่า การลดดอกเบี้ยลงเล็กน้อยจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนต่างๆ ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนไม่คาดหวังว่าทางธนาคารกลางจะเข้าสู่วงจรการลดดอกเบี้ยอย่างเข้มข้นเหมือนกับที่เคยทำในอดีต เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว
การส่งสัญญาณดังกล่าวทำให้ตลาดค่อนข้างผิดหวัง นอกจากนี้ยังดับความหวังของทรัมป์ที่ต้องการให้ Fed ลดดอกเบี้ยมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยดัชนี S&P ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลง 1.1% เมื่อคืนนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงมากสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- www.nytimes.com/2019/07/31/business/economy/federal-reserve-interest-rate-cut.html
- www.fxstreet.com/news/forex-today-fed-saved-the-dollars-skin-with-a-less-dovish-cut-201908010046
- www.washingtonpost.com/business/2019/07/31/federal-reserve-cuts-interest-rate-quarter-point-effort-keep-economy-track/?utm_term=.8dff0d7a0d62