ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองเห็นความเป็นไปที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) จะระงับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่บรรดานักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการเงินชั้นนำอีกกลุ่มหนึ่งกลับมองว่า Fed ภายใต้การกุมบังเหียนของ Jerome Powell น่าจะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้จะแสดงท่าทียอมรับว่านโยบายอัตราดอกเบี้ยของ Fed จะทำให้เกิดความผิดปกติขึ้นก็ตาม
เหตุผลเพราะเป้าหมายสูงสุดของ Fed ยังอยู่ที่การเดินหน้าจัดการกับเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าที่ Fed กำหนดไว้ที่ 2% โดย Fed จะมีการหารือเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 21-22 มีนาคม ซึ่งเหล่าเทรดเดอร์ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ 85% ที่ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
Quincy Krosby หัวหน้านักยุทธศาสตร์ระดับโลกของ LPL Financial กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่เพียงพอให้ Fed พัก ไม่ไปต่อ เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ รวมถึงระบบธนาคารโดยรวมยังมั่นคงดีอยู่
กระนั้น Krosby ก็เห็นว่าอย่างน้อย Fed น่าจะหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะยั้งการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากว่ามีสัญญาณที่น่ากังวลจากภาคการเงินการธนาคาร
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs กลับมีความเห็นสวนทางกับทิศทางส่วนใหญ่ของนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีท โดย Goldman Sachs มองว่า Fed ไม่น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ก่อนจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม มิถุนายน และกรกฎาคม
ความเห็นดังกล่าวสวนทางกับ Bank of America และ Citigroup ที่มองว่า Fed น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้และอีก 2-3 งวดถัดไป ก่อนส่งสัญญาณระงับหรือยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ในขณะที่หลายฝ่ายเชื่อว่า Fed จะให้ความสำคัญกับการจัดการเงินเฟ้อ แต่ Goldman Sachs อธิบายว่า Fed น่าจะให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเงินเป็นอันดับแรก โดยมองว่าเป็นปัญหาเฉพาะหน้า และอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นปัญหาระยะกลาง
รายงานระบุว่า การประชุมในสัปดาห์หน้าถือเป็นเรื่องใหญ่ที่คณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินของ Fed ไม่เพียงแต่จะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ยังจะอัปเดตการคาดการณ์ในอนาคต ซึ่งรวมถึงแนวโน้ม GDP การว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อด้วย โดยสิ่งที่หลายฝ่ายคาดหวังก็คือ Fed กังวลมากน้อยแค่ไหนว่าท่าทีของตนจะทำให้ตลาดเกิดความกลัว
อย่างไรก็ตาม Andrew Hollenhorst นักเศรษฐศาสตร์ของ Citigroup กล่าวว่า การระงับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวเป็นคำที่ Fed อาจไม่ปลื้ม เพราะการระงับอัตราดอกเบี้ยในห้วงเวลานี้จะเป็นการส่งสัญญาณผิดๆ ไปยังตลาด หลังจากที่ผ่านมา Fed ยืนยันมาโดยตลอดว่าสิ่งสำคัญที่สุดของ Fed ในเวลานี้คือการเดินหน้าทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2%
ทั้งนี้ Citigroup มองว่า Fed ยังคงเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไปยังช่วงเป้าหมายที่ 5.5-5.75% เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่ 4.5-4.75% และสูงกว่าราคาตลาดที่ 4.75-5%
ด้าน Bank of America ระบุว่า ธนาคารยังคง ‘เฝ้าระวัง’ สำหรับสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่าวิกฤตการธนาคารในปัจจุบันกำลังแพร่กระจาย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่อาจเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์ ก่อนชี้ว่าหาก Fed สามารถจัดการกับความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดล่าสุด Fed ก็น่าจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไป
Michael Gapen หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯ ของ Bank of America กล่าวว่า แนวโน้มนโยบายการเงินของ Bank of America ขึ้นอยู่กับข้อมูลและภาวะกดดันในตลาดการเงินในขณะนั้นด้วย
ความเห็นของ Gapen สอดคล้องกับท่าทีล่าสุดของประธาน Fed ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ข้อมูลเพื่อกำหนดทิศทางที่ Fed ต้องการนำมาใช้เพื่อกำหนดนโยบาย
โดยรายงานระบุว่า Fed จะพิจารณามาตรวัดเงินเฟ้อขั้นสุดท้ายในสัปดาห์นี้ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ในวันอังคาร (14 มีนาคม) และประกาศดัชนีราคาผู้ผลิตในวันพุธ (15 มีนาคม) ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าน่าจะยังคงเป็นไปในทิศทางที่สนับสนุนให้ Fed ต้องเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ความมั่งคั่งจากหุ้นของชาวอเมริกันหายไปกว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวหลังวิกฤตโควิด
- ตามคาด ‘Fed’ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นต่อ หวังคุมเงินเฟ้อให้อยู่หมัด
- นักวิเคราะห์ชี้พิษนโยบาย Fed เป็นเหตุทำตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน
อ้างอิง: