การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) จะจัดขึ้นในวันที่ 30-31 มกราคม 2024 ตลาดคาดว่า FOMC จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% แต่เจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หลายคนส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งตลอดปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มอ่อนแรงลงสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิดและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจ สิ่งนี้จะส่งผลต่อตลาดหุ้นและตลาดคริปโตอย่างไรบ้าง
ตลาดคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมกราคมนี้
นักลงทุนมองว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงที่ 5.25-5.50% ในวันที่ 31 มกราคม 2024 ตลาดจะจับตาดูการแถลงของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed หากเขาส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทั้งหมด และสกุลเงินอาจได้รับประโยชน์ในระยะสั้นจากการอ่อนค่าของดอลลาร์
ทอม เอสเซย์ ผู้ก่อตั้ง Sevens มองว่า ที่ผ่านมาข่าวที่เกิดขึ้นในตลาดนั้นมีข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี แต่ตลาดหุ้นและตลาดคริปโตกลับปรับตัวขึ้น สิ่งนี้บ่งบอกได้ว่าโมเมนตัมยังคงอยู่ที่ฝั่งกระทิง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีแรงสนับสนุนมากนักสำหรับตลาดหุ้นและคริปโตเคอร์เรนซี รวมทั้งการปรับฐานอาจเกิดขึ้นได้หาก Fed แสดงความเห็นแบบ Hawkish
แรงกดดันด้านราคากำลังเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 มกราคม) ดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล หรือ Personal Consumption Expenditures Price Index (PCE) เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนดัชนีที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (Core PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของ Fed เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และปรับตัวขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งอัตรารายปีถือว่าเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2021
รายงานตัวเลข PCE ดังกล่าวเป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่า แม้อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูง แต่ก็มีความคืบหน้าโดยลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ Fed ไฟเขียวที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ปัจจุบันธนาคารกลางสหรัฐฯ ตั้งเป้าอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2%
ตลาดคริปโตจะเป็นอย่างไรต่อไป
หุ้นและสกุลเงินดิจิทัลต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างมากจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนคำนึงถึงต้นทุนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่วงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเสร็จสิ้นลงแล้ว แม้ว่า Fed จะยังคงไม่ลดดอกเบี้ยและจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้สูงขึ้นเป็นเวลานาน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ได้ลดลงถึงเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม หาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สิ่งนี้จะส่งผลให้เทรดเดอร์และนักลงทุนต้องการรับความเสี่ยงมากขึ้น และเงินจะเริ่มเข้าสู่ตลาดหุ้นและตลาดสกุลเงินดิจิทัลอีกครั้ง
จากอดีตที่ผ่านมา สินทรัพย์เสี่ยงมักจะปรับตัวขึ้นในช่วง 12 เดือนหลังจากสิ้นสุดรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะสร้างผลต่อรายได้และกำไรของบริษัทโดยการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่สิ่งนี้ไม่ได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต แนวโน้มในอดีตเป็นการประมาณการเท่านั้น และวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากเกิดการระบาดของโรคโควิดทั่วโลก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นการเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจไม่เป็นไปตามรูปแบบก่อนหน้านี้
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง: