×

คลัง-แบงก์ชาติ-ภาคการเงิน เดินหน้าโครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ ช่วยประชาชน หวัง ‘ชุบชีวิต’ คนเป็นหนี้เสีย 3.4 ล้านราย

12.11.2025
  • LOADING...
คลัง-แบงก์ชาติ-ภาคการเงิน เดินหน้า โครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ ช่วยประชาชน หวัง ‘ชุบชีวิต’ คนเป็นเสีย 3.4 ล้านราย

กระทรวงการคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และภาคสถาบันการเงิน ร่วมกันเดินโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ขึ้น ในชื่อ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ การช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นมาตรการเฉพาะกิจที่จะดำเนินการเพียงครั้งเดียว โดยเน้นหนี้เสียที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือลูกหนี้รายย่อยที่มีภาระหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ( NPL) ทุกประเภทสินเชื่อซึ่งในระยะแรก (เฟส 1) จะครอบคลุมลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์จำนวนประมาณ 1.6 ล้านบัญชี หรือ 1.2 ล้านราย ภาระหนี้ประมาณ 43,600 ล้านบาท

 

คลัง-แบงก์ชาติ-ภาคการเงิน เดินหน้า โครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ ช่วยประชาชน หวัง ‘ชุบชีวิต’ คนเป็นเสีย 3.4 ล้านราย 1

แผนดำเนินการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ เฟส 1

 

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เน้นย้ำ โครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ เป็นโครงการเรือธงภายใต้เสาหลักที่สองของการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชน โดยมุ่งหวังให้ความช่วยเหลืออย่างยั่งยืนแก่ผู้มีหนี้สินจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาวิกฤตที่ฉุดรั้งทั้งชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของประเทศ

 

ดร.เอกนิติ ชี้ว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน หากปล่อยไว้จะดึงไม่เพียงแค่เศรษฐกิจไทย แต่ยังรวมถึงชีวิตของคนไทยและครอบครัวของคนที่เป็นหนี้จำนวนมาก การแก้ปัญหาหนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ในอนาคต

 

กลุ่มเป้าหมายและขนาดของหนี้

 

โครงการนี้มุ่งเน้นการช่วยกลุ่มประชาชนที่มีหนี้ต่ำกว่า 100,000 บาท ซึ่งในอดีตมีจำนวนถึง 3.4 ล้านราย และยังไม่นับรวมจำนวนสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา เมื่อนับเป็นจำนวนบัญชี มีบัญชีที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ 4.7 ล้านบัญชี คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 120,000 ล้านบาท

 

โครงการนี้เรียกอย่างเป็นทางการว่า การแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของ AMC

 

เป้าหมายของโครงการนี้ไม่ใช่แค่การดึงหนี้ออกจากสถาบันการเงินไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ในระยะสั้นเท่านั้น แต่คือการ ‘ชุบชีวิต’ ลูกหนี้เพื่อให้พวกสามารถหายใจคล่องขึ้น วิธีการช่วยเหลือรวมถึง

 

  • การตัดหนี้ ตามความสามารถของลูกหนี้
  • การลดหนี้ ให้เหลือในระดับที่ลูกหนี้สามารถจ่ายไหว
  • การยืดหนี้ ให้ลูกหนี้มีเวลาหายใจได้มากขึ้น

 

ดร.เอกนิติ ยังกล่าวถึง กรณีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะจัดตั้ง AMC คาดว่จะจัดตั้งได้ภายในต้นปีหน้า

 

โดยขณะนี้กระทรวงการคลัง ได้มีการหารือกับ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. แล้ว เกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้เสียในภาคการเกษตร ผ่านการจัดตั้ง AMC ของ ธ.ก.ส. ขึ้นเอง แต่ยังไม่มีการกำหนดจำนวนมูลหนี้ต่อราย และ ขณะนี้กำลังหารือที่มาของแหล่งเงินในการจัดตั้ง AMC

 

ดร.เอกนิติ ระบุว่า การจัดตั้ง AMC ของ ธ.ก.ส. จะไม่ได้รวมอยู่ในโครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ แต่จะดำเนินคู่ขนานแทน เนื่องจากลักษณะหนี้ของเกษตรกร มีโครงสร้างหนี้ที่ต่างจากประชาชนทั่วไป เพราะขึ้นอยู่กับฤดูกาลทางการเกษตรเป็นหลัก วิธีการจึงแตกต่างจากประชาชนทั่วไป

 

ทั้งนี้ AMC ของ ธ.ก.ส. จะมีขนาดเล็กกว่า โครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ โดยจะมีขนาดหนี้เสียไม่ถึง 10,000 ล้านบาท แต่คาดว่า AMC ของ ธ.ก.ส. จะสามารถช่วยคนได้ถึงล้านคนเช่นกัน

 

“ขนาดคงจะเล็กกว่าเยอะ แต่จะช่วยคนได้เยอะเหมือนกัน เป็นหลักล้านคนเหมือนกัน” ดร.เอกนิติกล่าว

 

ผู้ว่าแบงก์ชาติฯ หวัง ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ ช่วยคนเป็นหนี้เสียกลับมาเป็นลูกหนี้ปกติ

 

ด้าน วิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญและเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาวและกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง แม้ว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนจะลดลงจากกว่า 90% แต่ปัจจุบันยังคงอยู่ที่ 87% ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูงพอสมควร โครงการนี้เกิดขึ้นจากความพยายามร่วมมือกันของทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาส่วนนี้

 

โครงการนี้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกหนี้ที่มีปัญหาหนี้เสีย (NPL) ในจำนวนน้อย ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีหนี้ต่ำกว่า 100,000 บาท ซึ่งแม้ว่าปริมาณหนี้รวมอาจจะไม่มาก แต่คิดเป็นจำนวนบัญชีประมาณ 4.7 ล้านบัญชี หรือ 3.4 ล้านราย ที่สำคัญคือ หนี้กลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของจำนวนรายหัว คิดเป็นสัดส่วน 60% ของทั้งหมด

 

ดังนั้น การช่วยเหลือกลุ่มนี้จึงเป็นการช่วยคนและช่วยระบบเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับนโยบายของ ธปท. ที่ต้องการเข้าถึงและแก้ไขปัญหารายจุด เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 

ในการดำเนินการระยะแรกนี้ ธปท. ได้ขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์และบริษัทลูกในเครือ โดยเลือกกลุ่มที่มีจำนวนบัญชีสูงถึง 1.6 ล้านบัญชี จากทั้งหมด 4.7 ล้านบัญชี มาดำเนินการก่อน

 

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้ประสานงานกับธนาคารของรัฐ ซึ่งมีลูกหนี้ในกลุ่มเป้าหมายอีกประมาณ 300,000 กว่าบัญชี ลูกหนี้ที่จะเข้าร่วมโครงการนี้จะต้องเป็นหนี้ที่เป็น NPL ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 เท่านั้น

 

คลัง-แบงก์ชาติ-ภาคการเงิน เดินหน้า โครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ ช่วยประชาชน หวัง ‘ชุบชีวิต’ คนเป็นเสีย 3.4 ล้านราย 2

รายละเอียดของโครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’

 

โครงการนี้ใช้แหล่งเงินทุนที่เหลือจากการลดค่าธรรมเนียมกองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF TF) จาก 0.46% เหลือ 0.23% ในปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ได้ถูกนำไปใช้ในโครงการ ‘คุณสู้เราช่วย’ การใช้เงินส่วนนี้ทำให้ ไม่เป็นภาระนโยบายการคลังของรัฐบาล

 

หนี้ในส่วน 1.6 ล้านบัญชีนี้จะถูกโอนไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) ซึ่งเป็นบริษัทที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถือหุ้น 100% โดย SAM จะถูกปรับบทบาทและตำแหน่งให้เป็น Social AMC หรือ บริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อสังคม ซึ่งจะเปลี่ยนระบบและบุคลากรใหม่ และมุ่งเน้นการดูแลรายย่อยและสังคม โดยไม่ได้มุ่งหวังกำไร ความตั้งใจคือการช่วยให้ลูกหนี้ในกลุ่ม 1.6 ล้านคนนี้กลับมาเป็นลูกหนี้ปกติให้ได้มากที่สุด

 

เปิดมาตรการผ่อนปรนเพื่อลูกหนี้

 

การโอนหนี้ไปอยู่กับ Social AMC ทำให้การปรับโครงสร้างหนี้มีเงื่อนไขที่ ผ่อนปรนอย่างมาก โดยสิทธิประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับมีดังนี้

 

  • ค่าธรรมเนียมที่ค้างอยู่ รวมถึงดอกเบี้ยปกติและดอกเบี้ยผิดนัดที่ค้างอยู่ จะถูกยกให้ทั้งหมด
  • เงินต้นจะถูกลดลงในสัดส่วนที่สูงพอสมควร
  • ลูกหนี้มีทางเลือกในการชำระหนี้ 2 รูปแบบ คือ

 

-จ่ายปิดจบครั้งเดียว หากลูกหนี้ติดต่อและจ่ายหนี้ปิดจบได้ทันที มูลค่าหนี้เฉลี่ยต่ำกว่า 30,000 บาท บัญชีจะเปลี่ยนเป็น รหัส 11 กลับมาเป็นลูกหนี้ปกติ ได้ทันที

 

-ผ่อนชำระ ลูกหนี้สามารถผ่อนได้ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยระหว่าง 3 ปีนี้ จะไม่คิดดอกเบี้ย บัญชีจะถูกเปลี่ยนเป็นรหัส 16 และเมื่อผ่อนหมดก็จะกลับไปเป็นรหัส 11 กลับมาเป็นลูกหนี้ปกติได้เลย

 

ผู้ว่าการ ธปท. ได้ระบุว่า เมื่อลูกหนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว พวกเขาสามารถกลับเข้าไปสู่สถาบันการเงิน ทั้งแบงก์รัฐและแบงก์พาณิชย์ เพื่อขอสินเชื่อที่จำเป็นในการประกอบอาชีพและสร้างรายได้ต่อไปได้

 

คลัง-แบงก์ชาติ-ภาคการเงิน เดินหน้า โครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ ช่วยประชาชน หวัง ‘ชุบชีวิต’ คนเป็นเสีย 3.4 ล้านราย 3

การดำเนินการเพียงครั้งเดียวและไทม์ไลน์

 

ผู้ว่าการ ธปท. เน้นย้ำว่า สิ่งที่ดำเนินการนี้เป็น มาตรการครั้งเดียว และ จะไม่ทำอีกแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางด้านศีลธรรม (Moral Hazard) หลังจากนี้ ธปท. จะดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้อื่น ๆ ต่อไป

 

สำหรับไทม์ไลน์การทำงาน มีดังนี้

 

  • เดือนธันวาคมนี้ มีการทำสัญญาและรายละเอียดทั้งหมดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • 1 มกราคม 2569 SAM จะเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของสินทรัพย์นี้อย่างเป็นทางการ
  • หลัง 1 มกราคม 2569 ลูกหนี้สามารถเริ่มชำระหนี้ได้ โดยช่วงแรกอาจชำระผ่านสถาบันการเงินเดิมที่ช่วยเก็บหนี้ให้ ก่อนที่ระบบของ SAM จะพร้อมสมบูรณ์

 

วิทัย ยังคาดว่าลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’ จะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้สำเร็จราว 30-50% ของจำนวนบัญชีทั้งหมด 1.6 ล้านบัญชี คิดเป็นอย่างน้อย 5-8 แสนราย

 

นอกจากนี้ธปท. ได้ขยายระยะเวลาอนุญาตให้มีการจัดตั้ง AMC ร่วมทุน (Joint Venture AMC) อีกครั้ง หลังจากที่ใบอนุญาตเดิมสิ้นสุดลงเมื่อปลายปี 2567 โดยมีธนาคารพาณิชย์อย่างน้อย 2-3 แห่งแสดงความสนใจเข้าร่วมจัดตั้ง JV AMC เพื่อรับโอนหนี้ส่วนที่เหลือจากระบบ

 

อย่างไรก็ตาม วิทัยย้ำว่า โครงการ JV AMC ดังกล่าวอาจไม่สามารถเสนอเงื่อนไขผ่อนปรนได้ลึกเทียบเท่าโครงการ Social AMC

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising