วันนี้ (29 กันยายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้จัดพิธีอำลาตำแหน่งให้ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในวาระเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2566
โดย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ เป็นประธานในพิธีขึ้นแท่นรับความเคารพ จากนั้นได้ตรวจแถวกองเกียรติยศ โดยมี พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.), พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงเข้าร่วมในพิธี ต่อมามีพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 บริเวณด้านหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จากนั้นมีพิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีพิธีอำลาตำแหน่งที่ห้องประชุมศรียานนท์
พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ ได้กล่าวอำลาตำแหน่ง ผบ.ตร. ว่า รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.), จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.), ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.), ผู้บัญชาการ (ผบช.), ผู้บังคับการ (ผบก.) เพื่อนข้าราชการตำรวจ และแม่บ้านตำรวจทุกท่าน ผมมีความยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และปฏิบัติงานร่วมกันกับทุกท่านมาตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
ผมต้องขอขอบคุณ รอง ผบ.ตร., จตช., ผู้ช่วย ผบ.ตร. และผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ ซึ่งในปีนี้มีผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกษียณอายุราชการพร้อมกับผมหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช., พล.ต.อ. ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ. สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาระดับสูงอีกหลายท่าน
ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ปฏิบัติงานในหน้าที่ตลอดมาอย่างเต็มกำลังความสามารถจวบจนวันเกษียณอายุราชการ และขอขอบคุณเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปฏิบัติและฝ่ายอำนวยการ ตลอดจนหน่วยขึ้นตรงในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกท่าน ที่ได้ช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติงานในหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และเสียสละ
พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์กล่าวว่า แม้ว่าในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาจะมีสถานการณ์เกิดขึ้นมากมาย แต่ด้วยความร่วมมือจากพวกท่านทุกคน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงสามารถปฏิบัติภารกิจด้านการป้องกันปราบปราม แก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ อำนวยความยุติธรรม ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนในทุกพื้นที่สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง ขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายมีปฏิภาณและทัศนคติเชิงบวกที่มุ่งมั่น ปฏิบัติงานโดยมีประชาชนเป็นที่ตั้ง มีความเสียสละสามัคคี คิดถึงส่วนรวมให้มาก คิดถึงส่วนตัวให้น้อย ให้คิดว่าอาชีพตำรวจเป็นโอกาสที่จะได้ช่วยเหลือประชาชน เปรียบเสมือนเป็นการทำบุญทำความดีในทุกวัน เมื่อเรามีทัศนคติที่ดีแล้ว เราก็จะมีความสุข และมีแรงผลักดันในการทำงานโดยไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่ย่อท้อ ให้ทำงานเพื่อผลของงาน และผลของงานจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง
“ผมต้องขอขอบคุณและชมเชยเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกนายจากใจจริง และขอให้ตั้งแต่วันนี้ไปพวกเราทุกคนจงมีความรักความสามัคคีกันในองค์กร ในหมู่คณะ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือความผาสุกของประชาชน ผมพร้อมเป็นกำลังใจให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง และยินดีให้คำปรึกษาในทุกเรื่องในการต่อยอดและพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรที่ปฏิบัติงานในทุกมิติด้วยความเป็นมืออาชีพ โดยมีประชาชนเป็นที่ตั้งอย่างแท้จริง” พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์กล่าว
พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์กล่าวว่า สุดท้ายนี้ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ดลบันดาลให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง ถึงพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย และสำหรับข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ ขอให้ท่านใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีคุณภาพและมีความสุข ขอให้ทุกท่านในที่นี้ประสบแต่ความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ
จากนั้นได้มีการบันทึกภาพร่วมกันของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อมาข้าราชการตำรวจทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมศรียานนท์ได้ยืนขึ้น พร้อมปรบมือให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ผู้บังคับบัญชาระดับสูงและข้าราชการตำรวจมอบดอกกุหลาบให้กับ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ ทั้งนี้ มีดุริยางค์ตำรวจขับกล่อมบทเพลง ฝากไว้ในนามตำรวจไทย และมีตำรวจจากโรงพยาบาลตำรวจตั้งแถวพร้อมป้ายไฟข้อความ ‘รักจากใจ’ และ ‘FC คร่า’
ในช่วงท้ายงาน พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ขึ้นรถกลับ โดยมี พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ซึ่งเป็นว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 มาส่งพร้อมกราบลงที่ตักของ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ ก่อนจะทำการปิดประตูรถให้และยืนรอส่ง พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ จากนั้นได้ยกมือไหว้อีกครั้ง และทำความเคารพ ทั้งนี้ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ยังได้กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนขณะนั่งอยู่บนรถว่า “ขอบคุณที่ให้กำลังใจ” ก่อนที่รถจะเคลื่อนขบวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างสมเกียรติ