หลังจากที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Panini America บริษัทด้านการ์ดสะสมเกี่ยวกับกีฬา ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ Fanatics บริษัทคู่แข่ง โดยกล่าวหาว่า พยายามครอบงำตลาดอย่างผิดกฎหมายผ่านการดำเนินธุรกิจที่ผูกขาดและต่อต้านการแข่งขัน จากความพยายามในการทำสัญญาระยะยาวกับบรรดานักกีฬาอาชีพ
ตัวแทนทางกฎหมายของ Panini America เข้าฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกา ที่เมืองแทมปา รัฐฟลอริดา โดยกล่าวหาว่า Fanatics มีพฤติกรรมในการกีดกันคู่แข่ง ด้วยการเซ็นสัญญาระยะยาวในการซื้อลิขสิทธิ์มาทำการ์ดสะสมกับองค์กรกีฬาใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกา ทั้ง NFL, MLB และ NBA รวมไปถึงยังมีการพูดคุยและเซ็นสัญญากับสมาคมผู้เล่นขององค์กรเหล่านี้ด้วย
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ (8 สิงหาคม) ทางด้าน Fanatics ก็ฟ้องกลับ Panini America เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยข้อหาเดียวกันคือ การผูกขาดตลาดในธุรกิจการ์ดสะสมเกี่ยวกับกีฬา
Fanatics กล่าวอ้างว่า “เนื่องจากใบอนุญาตลิขสิทธิ์ของ Panini America ใกล้จะหมดอายุ ผู้ออกใบอนุญาตจึงเลือก Fanatics เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตรายใหม่ที่จะผูกพันกับธุรกิจในระยะยาวอย่างไม่น่าแปลกใจ
“พฤติกรรมของ Panini America ในการพยายามกล่าวหา Fanatics จึงเป็นการ ลงมือโดยหวังให้การดำเนินธุรกิจยืดเยื้อ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมทางการค้าในการขัดขวางการตั้งธุรกิจของ Fanatics”
ปัจจุบัน Panini America มีลิขสิทธิ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ NBA จนถึงเดือนกันยายน 2025 ขณะเดียวกันก็ถือลิขสิทธิ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ NFL จนถึงต้นปี 2026
ขณะที่ทาง Fanatics ซึ่งเข้ามาสู่ธุรกิจการ์ดสะสมเกี่ยวกับกีฬาจากการซื้อกิจการ Topps เมื่อต้นปี 2021 โดยพวกเขาจัดการเซ็นสัญญากับสหภาพผู้เล่นของ NFL หรือ NFLPA เพื่อให้ได้ลิขสิทธิ์เหนือภาพใบหน้านักกีฬา NFL เป็นเวลา 20 ปีเต็ม
นอกจากนี้ Fanatics ยังกลายเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตแต่เพียงผู้เดียวในการจัดทำการ์ดสะสมของ NBA โดยมีข้อตกลงกับทั้งทางลีก NBA และสหภาพผู้เล่นบาสเกตบอลอาชีพ หรือ NBPA หลัง Panini America หมดสัญญาด้วย
ปัจจุบันธุรกิจการ์ดสะสมเกี่ยวกับกีฬากลายเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงมากในสหรัฐอเมริกา โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าพุ่งสูงถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 2.1 ล้านล้านบาทภายในปี 2027 เลยทีเดียว
อ้างอิง: