โลกฟุตบอลร่วมสนับสนุนปล่อย ฮาคีม อัล อาไรบี อดีตนักเตะบาห์เรนวัย 25 ปี

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลียได้ออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัว ฮาคีม อัล อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน วัย 25 ปี ผ่านป้าย #SaveHakeem ในการแข่งขันเอลีก ลีกสูงสุดของประเทศออสเตรเลีย

หลังจากนั้นโลกฟุตบอลทั้งอดีตนักเตะอย่าง แกรี ลินิเกอร์ ตำนานอดีตนักเตะอังกฤษ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ตำนานลิเวอร์พูล ดิดิเยร์ ดร็อกบา อดีตนักเตะเชลซี รวมถึง เจมี วาร์ดี ศูนย์หน้าของเลสเตอร์ ซิตี้ ต่างก็ออกมาโพสต์ภาพให้การสนับสนุนการปล่อยตัว ฮาคีม อัล อาไรบี พร้อมกับ #SaveHakeem ผ่านทางทวิตเตอร์

ทางด้าน เครก ฟอสเตอร์ อดีตกัปตันทีมชาติออสเตรเลีย หนึ่งในผู้ที่ออกมาเรียกร้องการสนับสนุนจากองค์กรนานาชาติ ทั้งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA และ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ได้ให้สัมภาษณ์กับ AFP ว่า

“สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ (4 ก.พ.) โดยเฉพาะการที่เขา (ฮาคีม) อยู่ในสภาพถูกโซ่ตรวน จะช่วยผลักดันให้โลกฟุตบอลออกมากดดันพวกเขาได้”

สำหรับฮาคีม อัล อาไรบี เป็นนักเตะทีม Pascoe Vale FC ในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้ถูกจับกุมตัวในสนามบินสุวรรณภูมิของไทย หลังจากเดินทางมาฮันนีมูนพร้อมกับภรรยาในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2018

โดยทางการไทยเผยว่า เขามีชื่ออยู่ในหมายจับแดงของตำรวจสากล หลังถูกดำเนินคดีในบาห์เรน ทำลายสถานที่ราชการในช่วงเกิดเหตุการณ์อาหรับสปริงที่ประชาชนลุกขึ้นขับไล่รัฐบาลตะวันออกกลางในหลายๆ ประเทศเมื่อปี 2012 แม้ว่าในช่วงเวลานั้นฮาคีมจะเผยว่า ระหว่างเวลาเกิดเหตุเขากำลังแข่งขันฟุตบอลนัดที่มีการถ่ายทอดสดอยู่ก็ตาม

ฮาคีมถูกตัดสินภายหลังโดยศาลบาห์เรนให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งฮาคีมยังได้เผยว่า เขาถูกทำร้ายร่างกายในช่วงเวลาที่ถูกคุมขังในคุกของบาห์เรน เมื่อออกจากเรือนจำมาจึงตัดสินใจหนีออกนอกประเทศ จนสุดท้ายได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2017 และค้าแข้งอยู่ที่นั่นก่อนจะมาถูกจับกุมที่ประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของการจับกุมตัวฮาคีมตามหมายจับแดงของตำรวจสากล จากแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ กรณีนาย Hakeem Ali Mohamed Ali Al Oraibi ระบุว่า

“นาย Hakeem Ali Mohamed Ali Al Oraibi ถูกกักตัวโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสุวรรณภูมิเมื่อเดินทางมาถึงจากประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 20.50 น. ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 การกักตัวดังกล่าวเป็นไปโดยการตอบสนองต่อการแจ้งหมายแดง ซึ่งได้รับการแจ้งเตือนจากสำนักงานกลางตำรวจสากลแห่งชาติออสเตรเลีย (Interpol National Central Bureau) และคำร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลบาห์เรนเพื่อจับกุมและขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน นายฮาคีมเป็นที่ต้องการของทางการบาห์เรนในฐานะผู้หลบหนีคำพิพากษาในคดีอาญาตามกฎหมายของบาห์เรน”

ต่อด้วยการระบุกระบวนการและขั้นตอนหลังจากที่มีรายงานการถอนหมายแดงจากฐานข้อมูลของตำรวจสากลว่า

“แม้ว่าหมายแดงของนายฮาคีมจะถูกถอนออกจากฐานข้อมูลของตำรวจสากล (Interpol) แล้วในภายหลัง แต่กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้เริ่มต้นขึ้นแล้วนับตั้งแต่ทางการไทยได้รับคำร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลบาห์เรนเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 และการนำส่งต่อมาซึ่งเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการออกหมายจับชั่วคราวเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561”

โดยเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทนายฝั่งฮาคีมขอคัดค้านการส่งตัวกลับบาห์เรน และพร้อมรวบรวมเอกสารหลักฐานยืนยันว่าฮาคีมบริสุทธิ์ต่อข้อกล่าวหาทั้งหมด ในวันที่ 22 เมษายนนี้

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ไทยจะส่งฮาคีมไปที่ไหนต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินคดีในขั้นศาล โดยศาลประเทศไทยจะเป็นผู้ตัดสินว่าฮาคีมทำความผิดที่บาห์เรนจริงหรือไม่

ส่วนทางออกต่อจากนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัยให้สัมภาษณ์ผ่าน PPTV เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ว่า

“ประเทศไทยต้องการให้ประเทศออสเตรเลียและบาห์เรนหันหน้าคุยกัน เชื่อว่าจะมีทางออกที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ แต่หากไม่สามารถคุยกันได้ ประเทศไทยพร้อมเป็นคนกลาง เพราะประเทศไทยไม่สามารถเลือกประเทศใดประเทศหนึ่งได้ ซึ่งเชื่อว่ายังเป็นประเทศที่เป็นมิตรกับทั้งบาห์เรนและออสเตรเลีย ที่พร้อมจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องนี้”

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: